เลือกตั้งและการเมือง

“ภูมิธรรม” เชื่อ ผ่านมา 11 ปี กองทัพก้าวหน้า แต่ไม่กล้ายืนยัน รัฐประหารจะไม่เกิดขึ้นอีก

โดย chutikan_o

22 พ.ค. 2568

68 views

“ภูมิธรรม” เชื่อ ผ่านมา 11 ปี กองทัพก้าวหน้า ผู้นำเหล่าทัพเปลี่ยนมุมมอง แต่ไม่กล้ายืนยัน รัฐประหารจะไม่เกิดขึ้นอีก ชี้สังคมต้องร่วมขับเคลื่อนกระบวนการประชาธิปไตย เคารพในเสียงส่วนใหญ่ ใช้สิทธิตามกฎหมาย และยอมรับความเห็นต่าง


นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยึดอำนาจ เมื่ิอวันที่ 22 พ.ค. 2557 หรือวันนี้ เมื่อ 11 ปีที่แล้วว่า ปัจจุบันตนเองกำกับดูแลกระทรวงกลาโหม และใกล้ชิด ผู้บัญชาการ (ผบ.) เหล่าทัพ ว่า ทหารคือกลุ่มคนที่มีหน้าที่ในการดูแลประเทศ และเป็นกลุ่มบุคคลที่ห่วงใยประเทศชาติ ซึ่งการรัฐประหารที่ผ่านมา ทหารก็ให้เหตุผลว่า มีความห่วงใยประเทศชาติ ที่เกิดความขัดแย้ง แตกแยก จึงเลือกวิธีทางนี้ในการตัดสินใจรัฐประหาร ซึ่งเป็นมุมมองของทหาร แต่มุมมองของพลเรือน เห็นว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องที่ประชาธิไตย ต้องใช้ความอดทด และค่อยๆ ให้มีพัฒนาการ ซึ่งไม่เห็นด้วยกับการทำรัฐประหาร เพราะเป็นการรัดขั้นตอนการแก้ปัญหา “เป็นมุมมองที่ต่างกัน”


สำหรับตนเอง ทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเลือกทางออกทางใดก็ตาม ที่ยึดมั่นคือ ต้องเอาประชาชนเป็นแกนกลาง แต่ทั้งหมดต้องยอมรับในหลักประชาธิปไตย ว่าเป็นเรื่องของคนหมู่มาก ซึ่งต้องอดทน ประชาธิปไตยจะพัฒนาไปในทิศทางที่ถูกต้องได้ ก็ควรเป็นบุคคลของทุกฝ่ายร่วมกัน ว่าทุกปัญหาให้กลไกค่อยๆ แก้ไข ซึ่งต้องช่วยกันใช้ความอดทด อดกลั้น และให้ประชาชนเข้าใจว่า ประชาธิปไตยคือวิถีชีวิต และค่อยๆ พัฒนากระบวนการประชาธิปไตย เพื่อไม่ให้เกิดรัฐประหารเกิดขึ้น


เมื่อถามว่า หลายคนคาดหวังอยากให้การทำรัฐประหารปี 57 เป็นครั้งสุดท้าย ในฐานะที่ตอนนี้ ดูแลกระทรวงกลาโหม และใกล้ชิดกับทหาร และผู้นำเหล่าทัพมองอย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่มีใครกล้ารับรองหรอก ว่ามันจะเกิดขึ้นอีกหรือไม่เกิดขึ้น แต่เท่าที่สัมผัสและทำงานด้วย คิดว่ามายเซ็ทหรือมุมมองของผู้บัญชาการแต่ละคน มีความก้าวหน้าทันสมัย เห็นความเปลี่ยนแปลงของโลก จึงคิดว่าคงจะไม่เกิดขึ้นง่าย แต่ก็คงไม่มีใครมีหลักประกันว่าจะไม่เกิดขึ้น แต่ถ้าไม่อยากให้เกิดขึ้นทุกคนต้องใช้กระบวนการในการแก้ปัญหามากขึ้น ในการแสดงออก เช่น จะแสดงความเห็น หรือเดินขบวนก็ได้ แต่ต้องเป็นไปตามสิทธิ์ภายในกรอบที่กฎหมายรับรองไว้ รวมถึงยอมรับในความเห็นที่แตกต่าง เพราะประชาธิปไตยคือความหลากหลาย เป็นสีสัน เราต้องดึงความเห็นต่างในสังคมมาร่วมกัน เพราะคงไม่มีใคร ทำให้คนหมู่มากในสังคมเห็นอะไรพร้อมกันเป็นเอกฉันท์ได้ทั้งหมด เราใช้เสียงส่วนใหญ่ในการตัดสิน แม้เสียงส่วนใหญ่จะมีความผิดพลาดในบางครั้ง แต่ระบบประชาธิปไตยมันมีการตรวจสอบ


“เชื่อว่าสังคมปัจจุบันจะพัฒนาไปในแนวทางที่ดีขึ้น เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น การจะเกิดอย่างในอดีต คงจะไม่เกิดอย่างนั้นแล้ว แต่ว่าจะเป็นในรูปแบบใดก็ต้องไปช่วยกันดูและแก้ไขปัญหา” นายภูมิธรรมกล่าว



คุณอาจสนใจ

Related News