“กุสุมาลวตี” อดีตผู้สมัคร สว. บุก กกต.ยื่นยุบภูมิใจไทย มีหลักฐาน “อนุทิน” เรียก สว.เข้าพูลแมน

วันนี้ (20 พ.ค.68) นางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท อดีตผู้สมัคร สว. เดินทางมาที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้วินิจฉัยยุบพรรคภูมิใจไทย ตามความผิดของหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ของพรรคภูมิใจไทย


นางกุสุมาลวตี กล่าวว่าวันนี้มายื่นขอให้ยุบพรรคภูมิใจไทย เนื่องจากหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และสมาชิกพรรคได้กระทำความผิดตามรัฐธรรมนูญที่ว่าด้วยการได้มา ซึ่งมีหลักฐานทางเรื่องการอั้งยี่ การฟอกเงิน และพฤติกรรมที่เราทราบกันดี


สิ่งสำคัญที่จะมาร้องคือ เส้นทางการเงินที่อาจโยงไปถึงนายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ เลขาธิการพรรค ซึ่งเป็นลูกของนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เมื่อเลือกตั้ง สว.เสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้เรียก สว.ที่ผ่านการเลือกและได้รับการรับรองเข้าไปที่โรงแรมพูลแมน เพื่อให้ สว.เขียนใบลาออก หากมีการทำผิดจากที่สั่งก็จะยึดใบลาออกและให้ลาออกไปเลย เพื่อให้ สว.อยู่ภายใต้การสั่งการของพรรคภูมิใจไทย รวมถึงนางสุขสมรวย วันทนียกุล สส.อำนาจเจริญ


บ้านเมืองไม่ใช่ของเราคนเดียว หาก สว.ทั้งหลายมีสิทธิที่จะเลือก ป.ป.ช. กกต. กสทช.บ้านเมืองจะอยู่อย่างไร เราเป็นคนไทยด้วยกัน เราจะไม่ยอมให้กระบวนการเหล่านี้มาทำลายประเทศไทย ทำลายประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญของไทย


นางสุมาลวตี กล่าวว่าตนเองไม่เคยมีเรื่องโกรธแค้นหรือขุ่นข้องหมองใจกับบุคคลเหล่านั้น แต่ทำในฐานะคนไทยคนหนึ่งให้เห็นกระบวนการที่เกิดขึ้นว่า เป็นสิ่งที่อุกอาจ ไม่เกรงกลัวฟ้าดิน กฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม ขณะที่กระบวนการเลือกองค์กรอิสระ ก่อนหน้านี้มีผู้ชายและผู้หญิงที่เป็นคนดีมากก็หลุดไป จากคำสั่งของคนบางสีบางกลุ่ม แสดงว่าหากอนาคตใครทำผิดทุจริตคอร์รัปชันก็จะมีการยกคำร้องใช่หรือไม่ เขากระโดง เขาใหญ่ก็ไม่ผิด หรือรัฐสภาสอง 20,000 ล้านบาทที่ไม่ได้มาตรฐานก็ไม่มีความผิดใช่หรือไม่


เราจึงต้องช่วยกัน ตนเองไม่มีส่วนได้ส่วนเสียอะไร แต่อยากให้การเลือก สว.เป็นโมฆะ ตนเองขอพอแล้วไม่ได้จะต่อสู้ให้ได้เป็น สว.แต่ต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม อยากให้คนกลุ่มนี้ได้รู้ว่ายังมีคนไทยที่ต่อสู้เพื่อประชาชน อนาคตบ้านเมืองจะเป็นอย่างไร ถ้ามีแต่กระบวนการทุจริต ขาดการตรวจสอบ ขาดความรับผิดชอบ


วุฒิสภาเป็นสภาสูง แต่หัวหน้าพรรคทำผิดหรือไม่ที่ได้สั่งให้นายอำเภอรับผู้สมัคร สว. บางคนขายข้าวแกง สมัครในกลุ่มวิทยาศาสตร์ บางคนเป็นคนขับรถ สมัครในกลุ่มสื่อสารมวลชน เรื่องนี้ผิดที่กระทรวงมหาดไทยที่ให้นายอำเภอเซ็นรับรองบุคคลเหล่านี้


นางกุสุมาลวตี กล่าวต่อว่าพรรคบางพรรคทำลายประชาธิปไตยและประเทศไทย ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของคนบางคนได้ร่วมกระทำความผิด หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยก็แสดงให้เห็นว่ามีส่วนรู้เห็น บงการกระบวนการเลือก สว.จึงสมควรยุคพรรคนี้และให้การเลือก สว.เป็นโมฆะ พร้อมกับส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยต่อไป


“ครั้งนี้เป็นความผิดมโหฬาร ช็อกคนทั้งประเทศและดิฉันด้วย ดิฉันจะยืนเพื่อต่อสู้เรื่องนี้ไม่เกรงกลัวอิทธิพลของใคร ถ้าประเทศไทยอยู่ภายใต้การเงื้อมมือของบางพรรค บางสี บางกลุ่ม ดิฉันมองไม่ออกว่าประเทศไทยจะเป็นอย่างไร “


สำหรับหลักฐานที่เตรียมมาวันนี้ มีทั้งรูปถ่าย คลิปเสียง และภาพถ่ายการเซ็นใบลาออก ขณะที่เส้นทางการเงินที่โยงถึงนายไชยชนกนั้น เป็นหลักฐานการโอนเงินและจัดตั้งบุคคลในจังหวัดบุรีรัมย์ ส่วนนี้ Super Computer สามารถตรวจสอบได้หมด พบว่ามีการโอนไปยังเครือข่าย แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ยืนยันว่าหลักฐานที่มีเป็นหลักฐานที่เชื่อถือได้ เนื่องจากมีผู้หวังดีหลายคนส่งมาให้ ถ้าไม่มั่นใจคงไม่มายื่นต่อ กกต.ส่วนที่ไม่ได้เอาหลักฐานมายื่นในครั้งนี้ก็เพราะกลัว มีทั้งฝ่ายเขาฝ่ายเรา แต่ถ้าเรียกมาชี้แจงก็จะมาพร้อมกับหลักฐาน


นางกุสุมาลวตี ระบุว่า การเปิดหน้าต่อสู้ตนเองไม่กลัวถูกฟ้องกลับ เพราะการติติงเพื่อประโยชน์สาธารณะ ไม่ได้ทำผิด ทำเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติ ยืนยันว่าการออกมาเปิดหน้าไม่มีกลุ่มการเมืองอยู่เบื้องหลัง เพราะตนเองไม่ได้สังกัดพรรคการเมืองและลาออกมาแล้ว ไม่มีใครมาสั่งตนเองได้ ไม่ได้เจอใครเลย ทั้งนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะตนเองเตรียมตัวลง สว.มา 2-3 ปี และเป็น สส.มานาน สายสะพายได้มาหมดแล้ว เหลือแต่สายสิญจน์


หลังจากนี้จะมีการขอคุ้มครองพยานจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ย้ำว่าเขียนคำร้องด้วยตนเอง เพราะสงสัยว่าเหตุใดถึงใช้เงินพันกว่าล้าน เพื่อครอบงำประเทศไทย หากไม่มีใครลุกขึ้นมาสู้บ้านเมืองจะอยู่ใต้อาณัติเขาอย่างนั้นหรือ ส่วนกระแสข่าวว่าตนเองจะขอลง สส.ภูมิใจไทยนั้น ตนเองไม่ชอบการทุจริต และไม่ชอบพรรคภูมิใจไทย


“จะฟ้องก็เชิญเลย ดิฉันจะได้ สว.หรือไม่ได้ สว.ไม่มีสาระ ยืนยันว่าดิฉันมาในกระบวนการที่ถูกต้องตามประชาธิปไตย เพราะคุณค่าของคนไม่อยู่ที่ สส.หรือ สว. และไม่คิดจะไปขอคนประเภทนี้เพื่อจะได้เป็น สว. ด้วยซ้ำ “นางกุสุมาลวตี ทิ้งท้าย