เลือกตั้งและการเมือง
“กล้าธรรม” เปิดตัว “อนุดิษฐ์-การุณ” เข้าร่วมพรรค “ไทยสร้างไทย” ยันไร้ปัญหา ยอมรับเกิดความแตกต่างทางแนวคิด
โดย paranee_s
17 พ.ค. 2568
408 views
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคกล้าธรรม และร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรค นายไผ่ ลิกค์ เลขาธิการพรรค และนายอรรถกร ศิริลัทธยากร นายทะเบียนพรรค พร้อมด้วย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ อดีตเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และนายการุณ โหสกุล อดีต สส. กทม. พรรคเพื่อไทย แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังหารือกัน
นางนฤมล กล่าวว่า ตามข่าวที่ปรากฏไปตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นที่ชัดเจนว่า น.อ.อนุดิษฐ์ และนายการุณ พิจารณาที่จะมาร่วมงานกับพรรคกล้าธรรม พวกเราก็ยินดีต้อนรับทั้งสองท่านด้วยความเต็มใจ และดีใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะทุกคนคงทราบว่าทั้งสองท่านมีประสบการณ์อย่างสูง น.อ.อนุดิษฐ์ ก็เคยเป็นผู้บริหารพรรคการเมืองมา ก็ทราบการบริหารจัดการทางการเมืองทั้งภายในพรรค และพรรคใหญ่เป็นอย่างดี ก็หวังว่าจะเข้ามาช่วยในเรื่องการกำหนดยุทธศาสตร์ทางการเมืองให้กับพรรคกล้าธรรม และไม่ใช่แค่สองคนนี้ แต่เราพร้อมที่จะรับทีมงานทุกคนที่จะนำเข้ามาร่วมงานกับพรรคกล้าธรรมอีก ส่วนเรื่องตำแหน่งภายในพรรค จะต้องมีอย่างแน่นอน แต่เดี๋ยวขอหารือกันอย่างละเอียด แต่หลัก ๆ จะให้ น.อ.อนุดิษฐ์ ดูเรื่องยุทธศาสตร์ และกิจกรรมทางการเมืองที่ขับเคลื่อนในกรุงเทพมหานคร และภาคต่าง ๆ ว่าจะวางทับในการเคลื่อนอย่างไร
เมื่อถามว่าคาดหวังพื้นที่ในกรุงเทพมหานครใช่หรือไม่ นางนฤมล ยอมรับว่า แน่นอน และทั่วประเทศไทยทั้ง 400 เขต เราอยากเสนอตัวพรรคกล้าธรรมเข้าไปทำงานให้พี่น้องประชาชน ไม่เว้นพื้นที่ใดทั้งสิ้น
เมื่อถามว่าทีมงานที่หมายถึงคือ สส. ด้วยหรือไม่ นางนฤมล กล่าวว่า เรายินดีต้อนรับทั้งหมด ทั้ง สส. อดีต สส. ว่าที่ผู้สมัคร หรือทีมงานของทั้งสองท่านที่จะนำมาร่วมกับพรรค
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า ตนเองขอบคุณหัวหน้าพรรค ประธานที่ปรึกษา เลขาธิการพรรค ที่ได้ให้เกียรติตนเอง และนายการุณ ในวันนี้ วันนี้การเจรจาอาจดูไม่ยาวนานมาก แต่ต้องบอกว่าก่อนที่เราตัดสินในเบื้องต้น ก็ได้มีการพิจารณา หารือ ตกผลึกกันมาพอสมควร โดยหลังจากหารือ และพูดคุยกับหัวหน้าพรรคที่พรรค ก็ทำถือว่าให้เกียรติพวกเราเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเรื่องของภารกิจที่คาดว่าจะมีการมอบหมายให้ทำต่อไปในอนาคต ก็ถือว่าเป็นงานทางการเมืองที่ท้าทาย และเป็นงานทางการเมืองที่ตนเองพอจะมีประสบการณ์อยู่บ้าง และคิดว่าในอนาคตอันใกล้ คงจะใช้ความรู้ความสามารถในการทุ่มเท และทำงานให้กับพัดกล้าทำอย่างเต็มที่เท่าที่จะทำได้
ส่วนเรื่องของทีมงานต่าง ๆ เรื่อง สส. ในทางการเมือง การที่จะมีการขับเคลื่อนทางการเมือง แน่นอนว่าต้องนำด้วยภารกิจสำคัญของแต่ละพรรคการเมือง แนวทาง วัตถุประสงค์ และตนเองคิดว่าพรรคกล้าธรรม แม้จะเป็นพรรคน้องใหม่ แต่ในเรื่องของความชัดเจนในการยึดเอาพี่น้องประชาชนเป็นศูนย์กลาง ตนเองคิดว่าไม่ได้ด้อยไปกว่าพรรคการเมืองอื่น ก็เลยหวังใจว่าในอนาคต คงจะมีนักการเมือง สส. อดีต สส. ที่สนใจ ซึ่งที่คุยกันเมื่อสักครู่ หัวหน้าพรรคก็ยินดีต้อนรับทุกคนที่มีความสนใจ และมีอุดมการณ์ เอาพี่น้องประชาชนเป็นศูนย์กลางกับพวกเรา
ส่วนการพูดคุยกับคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทยอย่างไร น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า ตนเองได้กราบเรียนมาตลอดว่า ตนเองและนายการุณ ไม่ได้ทำการเมืองหรือร่วมกิจกรรมของพรรคมาสักพักแล้ว แต่ด้วยความเป็นนักการเมืองในพื้นที่ เรายังคงลงพื้นที่ต่อเนื่อง และติดตามความเคลื่อนไหวมาตลอด จนนำมาสู่การตัดสินใจในครั้งนี้
เมื่อถามว่าในทางการเมือง สามารถมองว่าพรรคไทยสร้างไทยไปไม่ไหวแล้วใช่หรือไม่ น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า ตนเองคิดว่าไทยพรรคไทยสร้างไทย ก็มีแนวทางในการขับเคลื่อนโดยเฉพาะอย่างยิ่งตนเองเข้าใจว่าคุณหญิงสุดารัตน์ ก็จะชี้แจงให้กับสื่อรับทราบ ซึ่งแนวทางของพรรคไทยสร้างไทยที่ตนเองติดตามอยู่ เป็นเรื่องการเมืองสุจริต ก็ถือว่ามีพี่น้องประชาชนให้ความสนใจไม่น้อยพอสมควร และยืนยันว่าจากกันด้วยดี ส่วนจะมีสมาชิกจากพรรคไทยสร้างไทยมาเพิ่มหรือไม่นั้น จากที่หารือกันในวันนี้ยังมีแค่ตนเอง และนายการุณ
ส่วน สส. จากพรรคไทยสร้างไทย จะมีโอกาสมาหรือไม่ น.อ.อนุดิษฐ์ ระบุว่า ก็ต้องถามแต่ละท่าน ตนเองไม่ได้มีส่วนยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมของพรรค
ส่วนกรณีที่มีการระบุว่ายังไม่ได้ยื่นหนังสือลาออกจากพรรคไทยสร้างไทย น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า เป็นข้อเท็จจริง พอเรามาคุยกันแล้วตกผลึก เดี๋ยวคงต้องเข้าสู่กระบวนการในการสมัครเข้าไปเป็นสมาชิกของพรรคต่อไป
ด้านร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า กล่าวถึงกรณีที่เคยระบุว่าจะมีคนย้ายมาซบพรรคกว่า 30 คน ว่า ก็ตอนนี้มีมา 2 คนแล้ว เรื่องที่เราเคยคุยกันไว้ไม่ว่าจะเป็นตนเอง หรือหัวหน้าพรรค เราพูดอะไรก็จะเป็นอย่างนั้น ตอนนี้เรามองข้ามไปถึงการเตรียมตัวเพื่อสู่เวทีเลือกตั้งใหญ่ในสมัยหน้า ซึ่งมาเมื่อไหร่ ก็เมื่อนั้น
เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่มีการพูดว่าพรรคกล้าธรรม จะเป็นพรรคการเมืองใหญ่ในอนาคต ร้อยเอกธรรมนัส ระบุว่า พี่น้องสื่อมวลชนลองติดตามดู หลังจากวันนี้ มีสองคนนี้ น.อ.อนุดิษฐ์ ก็ถือเป็นพี่ชายคนหนึ่งทางการเมือง ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าก็สอนอะไรตัวเองมาเยอะ และนายการุณ ก็เป็นน้องรักที่รู้จักกันมานาน หลังจากนี้ก็จะมีการขับเคลื่อนทั้งสองคน และอีกหลายท่านที่จะเข้ามาร่วมอุดมการณ์ ก็รอติดตาม
เมื่อถามว่ารู้สึกอย่างไรที่พรรคกล้าธรรมในช่วงนี้เนื้อหอม ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่า ตนเองรู้สึกว่าจะเหนื่อยน้อยลง เพราะมี น.อ.อนุดิษฐ์ และนายการุณ เข้ามา คงจะต้องเปลี่ยนวิถีชีวิต อย่างที่ในเวลานี้ตนเองเข้าไปเป็นนายกสมาคมกีฬาทางน้ำ ก็จะเห็นว่า ตนเองอยากเห็นความเจริญทางด้านกีฬา และมอบหมายงานให้นางนฤมล ดูแลพรรค และคนอื่น ๆ ดูแลพรรคต่อไป ส่วนตนเองจะคอยเป็นพี่เลี้ยงให้
ล่าสุดวันนี้ (17 พ.ค.) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย นำแถลงกรณีที่มีสมาชิกพรรคไทยสร้างไทยบางส่วนได้ลาออกจากพรรค หรือไม่ปฏิบัติตามมติพรรค ทางพรรคยอมรับว่าเกิดจากความแตกต่างทางแนวคิดตั้งแต่หลังการเลือกตั้ง ซึ่งสมาชิกส่วนหนึ่งต้องการที่จะไปร่วมรัฐบาล อีกส่วนหนึ่งต้องการรักษาจุดยืนและคำมั่นสัญญาที่ให้กับประชาชน โดยขอทำหน้าที่ฝ่ายค้าน เรามีการประชุมกันหลายครั้ง ซึ่งเสียงส่วนใหญ่เห็นว่าพรรคไทยสร้างไทยต้องรักษาจุดยืนอุดมการณ์ของพรรค ในการมุ่ง “สร้างการเมืองสุจริต” โดยพรรคไทยสร้างไทย ขอยืนหยัดทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลอย่างสร้างสรรค์ โดยยึดถือผลประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง
หลังจากนั้น จึงเกิดเหตุการณ์ อย่างที่ทุกท่านทราบว่ามีสส.บางส่วนไม่ปฏิบัติตามมติพรรค แสดงตัวไปร่วมรัฐบาล ซึ่งคณะกรรมการจริยธรรมของพรรค ที่มีดร.โภคิน พลกุล เป็นประธาน กำลังดำเนินการตามกฎหมาย ต่อการกระทำผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง ของสมาชิกที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อประชาชนที่เลือกเข้ามา และไม่ซื่อสัตย์ต่อพรรค ทั้งที่พรรคได้ทุ่มเทให้เขาอย่างสุดกำลัง จนทำให้คนเหล่านี้ได้เป็นผู้แทนราษฎรผู้ทรงเกียรติ และหวังว่าเขาเหล่านั้นจะทำหน้าที่รักษาผลประโยชน์ของประชาชนมากกว่าผลประโยชน์ของตนเอง
ซึ่งในประเด็นนี้ พรรคไทยสร้างไทย ต้องกราบขอโทษพี่น้องประชาชนในความผิดพลาดนี้ เนื่องจากเรามีเวลาน้อยมากในการหล่อหลอมอุดมการณ์ความคิด เพราะหลังจากที่พวกเราออกจากพรรคเดิม ไม่นานก็ต้องเข้าสู่การเลือกตั้ง
ส่วนกรณีของนอ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ และนายการุณ โหสกุล ที่ได้แสดงความจำนงไปร่วมงานกับพรรคกล้าธรรมนั้น ไม่ได้เป็นปัญหาต่อการทำงานของพรรคไทยสร้างไทยแต่ประการใด เราขอแสดงความยินดีที่ทั้งสองได้ตัดสินใจไปอยู่ในที่ ๆ คิดว่าเหมาะสมกับตนเอง โดยทั้งสองคนได้มาแจ้งต่อคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หลายเดือนมาแล้ว ซึ่งคุณหญิงสุดารัตน์ก็ไม่ขัดข้อง เข้าใจในความจำเป็น เพียงแต่ก่อนหน้านี้ทั้งสองยังไม่ได้ลาออกจากสมาชิกพรรค
พรรคไทยสร้างไทยขอยืนยันว่า กรณีที่เกิดขึ้นทั้งหมด ไม่ได้กระทบต่อความมุ่งมั่นของพรรคไทยสร้างไทย แต่กลับจะ “เป็นพลังในการเปลี่ยนแปลงพรรคไทยสร้างไทยให้เข้มแข็งขึ้น” เพราะปัญหาที่คนไทยกำลังเผชิญอยู่นี้มันยิ่งใหญ่กว่าปัญหาที่เกิดขึ้นกับพรรคไทยสร้างไทยมากนัก
ประเทศไทยในวันนี้ กำลังยืนอยู่บนรอยร้าวลึกในหัวใจของคนไทยที่ “หมดศรัทธา” กับการเมืองไทย เพราะบ้านเมืองนี้ถูกกัดกร่อนจาก “นักการเมืองสกปรก” และ “ระบบสีเทา” เราเห็นนักการเมืองที่ไม่เคยยึดประโยชน์ประชาชน เราเห็นระบบที่เปิดทางให้ทุนสีเทาเข้ามายึดเศรษฐกิจไทย กฎหมายถูกบิดเบือน การใช้อำนาจเพื่อเอื้อพวกพ้อง การทุจริต กลายเป็นเรื่องธรรมดา ที่เราชาชินจนทำให้คนไทยต้องเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ รายได้ลด รายจ่ายเพิ่ม หนี้สินท่วมหัว ศักยภาพในการแข่งขันของประเทศตกต่ำ แถมด้วยยาเสพติด การพนัน ที่ผิดกฎหมายแต่เข้าถึงคนไทยได้ง่ายยิ่งกว่าเข้าร้านสะดวกซื้อ “เป็นประเทศที่เสมือนไม่มีรัฐบาลบริหารประเทศ ไม่สามารถแก้ไขปัญหาใด ๆ ได้ เราเข้าใกล้การเป็น “รัฐล้มเหลว” เต็มทีแล้ว
ประเทศไทยไม่ควรอยู่ในสภาพเช่นนี้ ทั้งที่ประเทศไทยเต็มไปด้วยทรัพยากร เรามีคนเก่ง และคนดีมากมาย แต่กลับติดหล่มเพราะระบบการเมืองที่เน่าเฟะ ใช้เงินซื้อเสียง ซื้อ สส. แล้วก็เข้าไปโกง อย่างมโหฬาร ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้อง “รื้อระบบสีเทา” ที่เต็มไปด้วยการทุจริต “พรรคไทยสร้างไทย เราจะไม่ยอมจำนน” พรรคไทยสร้างไทยไม่ใช่พรรคของใครบางคน แต่คือพรรคของประชาชนที่ “ไม่ทน” กับความเหลวแหลกตกต่ำที่กำลังครอบงำประเทศ
เราขอเชิญชวน “คนดี คนมีความรู้ และกล้าสู้” มารวมพลังเป็นแสงสว่างฉายลงไปบนความมืดมิดของการเมืองไทย เพื่อกู้วิกฤตเศรษฐกิจ ทวงคืนเงินในกระเป๋าของประชาชน แก้หนี้อย่างเป็นระบบ ทุ่มกำลังฟื้นฟูการผลิต ปรับเปลี่ยนสู่อุตสาหกรรม High Tecnology ที่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกพลิกฟื้น SMEs ให้เข้มแข็ง ปฏิรูปการศึกษา พร้อมพัฒนาทักษะแรงงานไทยให้สูงขึ้น ซึ่งเป็นทางออกที่สำคัญที่จะทำให้คนไทยมีรายได้สูงขึ้น พร้อมเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้ธุรกิจไทย กอบกู้ภาพลักษณ์ของประเทศ เพื่อทำให้การท่องเที่ยวกลับคืนมา โดยเฉพาะ ในด้านความปลอดภัย สิ่งแวดล้อมต้องถูกฟื้นฟู สยามเมืองยิ้มต้องกลับมา เพื่อคืนความสุขให้คนไทย
เป้าหมายไทยสร้างไทยคือ
• สร้างการเมืองสุจริต
• สร้างเศรษฐกิจดี
• สร้างไทยให้โดดเด่น
• กล้าผ่าโครงสร้างที่ฉุดรั้งประเทศ
• ส่งเสริมสถาบันหลักให้เข้มแข็ง
“พรรคไทยสร้างไทย ขอยืนยันว่าเราจะไม่มีวันยอมแพ้ ต่อระบบที่กำลังทำร้ายประเทศไทย” แต่เราทำงานใหญ่นี้เพียงลำพังไม่ได้ จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนที่ยังเชื่อใน #ความถูกต้อง มาร่วมกันสร้าง #การเมืองสุจริต มาร่วมกันเปลี่ยนประเทศไทยไปกับพรรคไทยสร้างไทย เพื่อให้ทุกคนรอดในวิกฤตนี้
แท็กที่เกี่ยวข้อง