เลือกตั้งและการเมือง

นายกฯ เยือนเวียดนาม คุย “หอการค้า-อุตสาหกรรม” หารือเอกชนสาเหตุเศรษฐกิจโตเร็ว

โดย JitrarutP

15 พ.ค. 2568

125 views

นายกฯ เริ่มต้นภารกิจแรกเยือนเวียดนาม พบหารือ “หอการค้า-อุตสาหกรรมไทย” ตั้งโจทย์ยกระดับหุ้นส่วนรอบด้าน บอกเวียดนามทวิภาคีไม่กี่ประเทศ ไทยเป็นหนึ่งในนั้น พร้อมถามเอกชนสาเหตุเศรษฐกิจเวียดนามเติบโตรวดเร็ว-แนวทางเจรจาภาษีสหรัฐฯ

15 พ.ค. 2568 เวลา 14.00 น. ณ โรงแรม Melia Hanoi กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เริ่มต้นภารกิจแรก หลังจากเดินทางถึงกรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ในโอกาสเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการ

โดยนายกรัฐมนตรีพบหารือกับหอการค้าและอุตสาหกรรมไทยในเวียดนาม (Thai Chamber of Commerce and Industry: ThaiCham) ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกมากกว่า 140 บริษัท เพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากภาคเอกชนไทยที่ดำเนินธุรกิจในเวียดนาม ซึ่งผู้เข้าร่วมหารือ ประกอบด้วยผู้บริหารระดับสูงจากภาคเอกชนไทยที่ดำเนินธุรกิจในเวียดนาม อาทิ นายประวีณ วิโรจน์พันธุ์ ประธาน ThaiCham และผู้จัดการทั่วไป SCG Vietnam, ผู้บริหารจากธนาคารกรุงเทพ สาขาโฮจิมินห์, Central Retail Vietnam, บริษัทอมตะ วีเอ็น, กลุ่มเซ็นทรัล, ธนาคารกสิกรไทย, เครือเจริญโภคภัณฑ์ รวมถึงบริษัท WHA, Super Energy และ Gunkul เป็นต้น

ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวยินดีและชื่นชม ThaiCham ที่เป็นหอการค้าไทยในต่างประเทศที่เข้มแข็งที่สุดแห่งหนึ่ง และกล่าวถึงการเยือนครั้งนี้ ว่าเป็นการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการครั้งแรกในฐานะนายกรัฐมนตรี และจะได้นำเข้าคณะรัฐมนตรีของไทยเข้าร่วมการประชุม Joint Cabinet Retreat ไทย - เวียดนาม ในวันพรุ่งนี้ โดยจะหารือประเด็นความร่วมมือและประเด็นความท้าทายต่าง ๆ ทั้งในด้านการค้า การลงทุน และการเชื่อมโยง รวมถึงผลักดันความร่วมมือในรวมตัวทางเศรษฐกิจทั้งในระดับทวิภาคีและในกรอบอาเซียน เพื่อร่วมรับมือกับความเสี่ยงที่มาจากปัจจัยภายนอกภูมิภาค

นายกรัฐมนตรี ยังได้ย้ำว่า ไฮไลต์ที่สำคัญของการเยือนครั้งนี้ คือ การประกาศยกระดับความสัมพันธ์ไทย - เวียดนาม เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์รอบด้าน หรือ Comprehensive Strategic Partnership ซึ่งเป็นรูปแบบความสัมพันธ์ทวิภาคีที่เวียดนามมีกับไม่กี่ประเทศ และไทยเป็นหนึ่งในนั้น ซึ่งจะเป็นพื้นฐานในการส่งเสริมความร่วมมือ ระหว่างสองประเทศให้ลึกซึ้งและรอบด้านยิ่งขึ้น ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ปัจจุบันเศรษฐกิจเวียดนามกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นทั้งความท้าทายของไทย ในแง่การดึงดูดการค้าและการลงทุน ในขณะเดียวกันเป็นโอกาสใหม่สำหรับประเทศไทยเช่นกัน จึงต้องการรับฟังและแลกเปลี่ยนมุมมองกับนักลงทุนไทยที่ได้เข้ามาขยายธุรกิจในเวียดนาม

โดยนายกรัฐมนตรีได้สอบถามเกี่ยวกับมุมมองและข้อเสนอแนะจากภาคเอกชนไทยในประเด็นต่าง ๆ เพื่อนำไปประกอบการประเมินและจัดทำนโยบายของไทยที่เกี่ยวข้อง อาทิ แนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจของเวียดนาม โดยเฉพาะจุดแข็งและแนวปฏิบัติของเวียดนาม ในการผลักดันการค้าและดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ผลกระทบและแนวทางของเวียดนามต่อมาตรการภาษีของสหรัฐฯ รวมถึงการขยายโอกาสด้านการค้าการลงทุนของไทย และการขยายร่วมมือกับเวียดนามในอนาคต

ด้านภาคเอกชนไทยในเวียดนามได้แลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจของเวียดนาม และบทเรียนที่ประสบความสำเร็จของเวียดนามซึ่งไทยสามารถนำมาประยุกต์ใช้ เช่น การสร้างระบบนิเวศเพื่อดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ การสร้างความเชื่อมโยงกับห่วงโซ่อุปทานโลก รวมถึงการปรับตัวต่อมาตรการภาษีของประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะสหรัฐฯ นอกจากนี้ ยังได้แลกเปลี่ยนข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อส่งเสริมการเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระหว่างไทยกับเวียดนามอย่างยั่งยืน

ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณภาคเอกชนไทยที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมความสัมพันธ์ไทย-เวียดนาม ในระดับประชาชนและเศรษฐกิจ พร้อมเน้นย้ำว่ารัฐบาลพร้อมสนับสนุนและอำนวยความสะดวกให้กับภาคธุรกิจไทยในต่างประเทศ โดยเฉพาะในเวียดนาม ซึ่งเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์รอบด้านของไทย และยินดีพิจารณาข้อเสนอที่ได้รับอย่างรอบคอบเพื่อนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อส่งเสริมศักยภาพของผู้ประกอบการไทยบนเวทีโลก และชื่นชมที่ ThaiCham เป็นกลไกสำคัญในการประสานความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและเวียดนามในระดับภาคเอกชน



คุณอาจสนใจ

Related News