เลือกตั้งและการเมือง
“ศุภโชติ” แฉรัฐบาลประกาศลดค่าไฟเหลือ 3.98 บาทโดยไม่ใช้งบแผ่นดิน ที่แท้คือดึงเงินสะสมเก่ามาโปะ
โดย chutikan_o
30 เม.ย. 2568
314 views
“ศุภโชติ” แฉรัฐบาลประกาศลดค่าไฟเหลือ 3.98 บาทโดยไม่ใช้งบแผ่นดิน ที่แท้คือดึงเงินสะสมเก่ามาโปะ ไม่ได้แก้ที่ต้นเหตุ จี้เดินแผนปฏิรูประบบพลังงาน 3 ข้อ ลดค่าไฟให้ประชาชนอย่างยั่งยืน
วันที่ 30 เมษายน 2568 นายศุภโชติ ไชยสัจ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีที่โฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) แถลงว่าเตรียมลดค่าไฟฟ้าลงเหลือ 3.98 บาทต่อหน่วยในรอบเดือนพฤษภาคมถึงสิงหาคม 2568 โดยไม่ใช้งบประมาณแผ่นดิน
นายศุภโชติ กล่าวว่า เรื่องนี้ดูเหมือนเป็นข่าวดีสำหรับประชาชน แต่ในความเป็นจริง วิธีการที่ใช้ก็คือการดึงเงินที่เคยเก็บเกินไว้ในอดีต หรือที่เรียกว่า “Claw Back” มาใช้ ไม่ใช่การลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้าจริง และไม่ใช่การปฏิรูปโครงสร้างระบบพลังงานตามที่เคยให้สัญญาไว้
นายศุภโชติกล่าวต่อไปว่า รัฐบาลได้นำเงิน Claw Back จำนวนกว่า 12,000 ล้านบาท จากทั้งหมดประมาณ 20,000 ล้านบาทที่สะสมไว้ มาใช้ลดค่าไฟรอบนี้ ซึ่งเงินส่วนนี้เป็นผลมาจากการชำระค่าไฟเกินต้นทุนจริงหรือกำไรส่วนเกินที่การไฟฟ้าเคยได้ในอดีต
“แม้วิธีนี้จะทำให้ค่าไฟดูถูกลงได้ในระยะสั้น แต่เงิน Claw Back มีจำกัด และไม่สามารถใช้ซ้ำไปเรื่อยๆ ได้ เมื่อใช้หมดแล้ว หากยังไม่แก้ปัญหาโครงสร้าง ก็ต้องกลับไปใช้วิธีเดิม เช่น การยืดหนี้ของ กฟผ. หรือใช้งบประมาณแผ่นดินมาช่วย ซึ่งล้วนไม่ยั่งยืนทั้งสิ้น” นายศุภโชติกล่าว
นายศุภโชติกล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้รัฐบาลเคยประกาศแนวทางปฏิรูประบบพลังงานอย่างเป็นรูปธรรม 3 ข้อ คือ 1. ทบทวนสัญญาซื้อไฟแบบ Adder และ FiT ที่ไม่มีวันสิ้นสุด และเอื้อผลประโยชน์แก่เอกชนบางรายอย่างไม่เหมาะสม 2. ลดภาระในสัญญารับซื้อไฟฟ้าระยะยาว โดยเฉพาะค่า AP และ EP ที่รัฐต้องจ่ายแม้ไม่ได้ใช้ไฟ และ 3. ปรับระบบบริหารจัดการไฟฟ้า เพื่อให้เลือกใช้แหล่งผลิตที่ต้นทุนต่ำที่สุดอย่างแท้จริง แต่จนถึงตอนนี้กลับยังไม่มีความคืบหน้าหรือแผนการชัดเจนที่จะดำเนินการตามแนวทางดังกล่าว
แม้รัฐบาลจะเปลี่ยนจากการ “ยืดหนี้ กฟผ.” มาเป็น “ดึงเงิน Claw Back” แทน แต่ทั้งสองวิธีนี้ก็เป็นเพียงการจัดการทางบัญชีเพื่อให้ค่าไฟดู “ถูกลง” ชั่วคราว ไม่ได้ทำให้ต้นทุนระบบไฟฟ้าจริงลดลง และยังเลื่อนภาระไปสู่อนาคต ที่สำคัญคือ การไม่แก้สัญญาที่เอื้อเอกชน และไม่ลดต้นทุนที่ต้นทาง จะทำให้ค่าไฟกลับมาแพงอีกครั้งเมื่อเงิน Claw Back หมดลง ผลลัพธ์ที่ได้คือ ประชาชนได้ค่าไฟถูกลงชั่วคราวจากเงินเก่าที่จ่ายเกินในอดีต แต่ไม่ได้เห็นการปรับโครงสร้างที่เป็นธรรม โครงสร้างพลังงานยังไม่เปลี่ยน เอกชนยังได้ประโยชน์มากเกิน หนี้และต้นทุนในระบบยังอยู่เหมือนเดิม
นายศุภโชติ กล่าวทิ้งท้ายว่า ถ้าอยากลดค่าไฟให้ได้จริงและยั่งยืน รัฐบาลต้องแสดงความจริงใจและกล้าหาญในการปฏิรูประบบพลังงาน โดยเร่งดำเนินการตามแนวทาง 3 ข้อที่เคยเสนอไว้ ไม่ใช่แค่บริหารตัวเลขเพื่อให้ค่าไฟลดลงชั่วคราว แล้วประชาชนต้องมารับผลในอนาคตอีก ค่าไฟที่ยั่งยืนเกิดขึ้นได้จากโครงสร้างที่โปร่งใส ยุติธรรม และแข่งขันได้ ไม่ใช่การดึงเงินเก่ามาใช้เพื่อกลบปัญหาใหม่
แท็กที่เกี่ยวข้อง ลดค่าไฟ ,ศุภโชติ ,ดึงเงินสะสมเก่า