เลือกตั้งและการเมือง

ศาลฎีกาฯ ไม่รับคำร้อง “ชาญชัย” ขอไต่สวนปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 ชี้ไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง

โดย nicharee_m

30 เม.ย. 2568

520 views

ศาลฎีกาฯ ไม่รับคำร้อง กรณีที่ นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ที่ขอให้ศาลไต่สวน กระบวนการที่นายทักษิณ ชินวัตร เข้าพักรักษาตัวที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ เมื่อครั้งที่ต้องโทษจำคุก ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ โดยระบุว่า ผู้ร้องไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือผลได้เสียกับจำเลย จึงไม่มีสิทธิ์ยื่น และศาลขอแสวงหาข้อเท็จจริงเอง โดยเรียกนัดไต่สวนทักษิณและผู้เกี่ยวข้องในวันที่ 13 มิ.ย.นี้

ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำสั่งในคดีที่ นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เมื่อวันที่ 10 ม.ค.68 เพื่อขอให้ไต่สวนกรณีที่กรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกตัดสินจำคุก 8 ปี แต่ได้รับการลดโทษเหลือ 1 ปี ได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากศาล ซึ่งนายชาญชัย เห็นว่าการกระทำดังกล่าวอาจขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 89 มาตรา 89/2 (1) (2) และมาตรา 246 และไม่อาจอ้างกฎกระทรวง เรื่องการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ. 2563 ลงวันที่ 25 ก.ย.63 ซึ่งออกโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 55 วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ พ.ศ.2560 เพราะขัดต่อบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

ก่อนหน้านี้ นายชาญชัย เคยยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.66 และเมื่อวันที่ 15 ก.พ.67 ที่ผ่านมา ศาลมีคำสั่งยกคำร้องทั้ง 2 เรื่องโดยไม่ต้องไต่สวน โดยให้เหตุว่าเมื่อศาลออกหมายจำคุก เมื่อคดีถึงที่สิ้นสุดไปแล้ว การบังคับโทษและอนุญาตให้ส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ เป็นอำนาจหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ ปัญหาว่าเจ้าหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ปฏิบัติชอบด้วยกฎหมายหรือไม่นั้น ไม่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาล จึงไม่ต้องไต่สวนให้ยกคำร้อง

ต่อมาเมื่อวันที่ 10 ม.ค.68 นายชาญชัย ยื่นคำร้องอีกเพื่อขอให้เพิกถอนคำสั่งเดิม และขอให้รับคำร้องไว้ไต่สวนและมีคำสั่งบังคับโทษจำคุกให้เป็นไปตามคำพิพากษาที่ถึงที่สุด

โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ผู้ร้องไม่ใช่คู่ความในคดีหมายเลขแดง อม. 4/2551 คดีแดง อม. 10/2552 และคดีแดง อม. 5/2551 ของศาลนี้ และไม่ใช่ผู้เสียหายของคดีดังกล่าวจึงไม่มีสิทธิ์ยื่นคำร้องต่อศาลนี้

แต่เมื่อความปรากฏต่อศาลว่า อาจมีการบังคับตามคำพิพากษาที่ไม่เป็นไปตามหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดของศาลนี้ ศาลย่อมมีอำนาจไต่สวนและมีคำสั่งตามที่เห็นสมควร จึงเห็นควรให้ส่งสำเนาคำร้องให้โจทก์และจำเลยในคดีหมายเลขแดงที่ อม. 4/2551, จำเลยที่ 1 ในคดีแดงที่ อม 10/2552 และจำเลยในคดีหมายเลขแดงที่ อม. 5/2551 ของศาลนี้แล้วให้โจทก์และจำเลยดังกล่าวแจ้งต่อศาลว่า มีข้อเท็จจริงตามที่กล่าวอ้างในคำร้องหรือไม่ อย่างไร กับสำเนาคำร้องให้ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ / อธิบดีกรมราชทัณฑ์ / และนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อให้ชี้แจงข้อเท็จจริงประกอบการพิจารณาของศาลว่า การดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการบังคับโทษจำคุกแก่จำเลยเป็นไปตามหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดของศาลหรือไม่ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 6 โดยให้โจทก์จำเลยดังกล่าว ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ แจ้งให้ศาลทราบพร้อมกับแสดงหลักฐานที่เกี่ยวข้องภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับทราบคำสั่งศาล

สำหรับกรณีที่ผู้ร้องขอให้เพิกถอนคำสั่งนั้นเมื่อผู้ร้องไม่มีสิทธิ์ยื่นคำร้องต่อศาลกรณีจึงไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยข้อดังกล่าว ทางศาลมีคำสั่งให้นัดพร้อมหรือนัดไต่สวนในวันที่ 13 มิ.ย. 68 เวลา 09.30 น.

แท็กที่เกี่ยวข้อง  ทักษิณ ชินวัตร ,ชั้น 14

คุณอาจสนใจ

Related News