เลือกตั้งและการเมือง
“เพื่อไทย” แถลงยืนยันให้ความสำคัญแผ่นดินไหว เชื่อเอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯ ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจได้
โดย chutikan_o
3 เม.ย. 2568
171 views
“เพื่อไทย” แถลงยืนยันให้ความสำคัญแผ่นดินไหว เชื่อเอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯ ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจได้ ลั่นไม่ตีหัวเข้าบ้าน ชี้ ไม่รู้เสร็จทัน รบ.ชุดนี้หรือไม่ ฉะนั้นต้องเร่ง เผยอยากให้มองผลประโยชน์ที่จะได้รับในภาพกว้าง วันนี้สังคมเปิด ใครทำอะไรในที่ลับเห็นหมด กระดิกได้ที่ไหน
วันที่ 3 เมษายน 2568 ที่รัฐสภา พรรคเพื่อไทยนำโดยนายสุทิน คลังแสง นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด และน.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ แถลงภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติเลื่อนระเบียบวาระร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เป็นเรื่องด่วนที่จะพิจารณาในวันที่ 9 เมษายน
นายอนุสรณ์ กล่าวว่า จากที่เสนอเลื่อนระเบียบวาระดังกล่าวขึ้นมานั้น ไม่ได้หมายความว่าจะเสนอเลื่อนขึ้นมาพิจารณาในวันนี้ แต่จะเป็นการเลื่อนขึ้นมาพิจารณาในการประชุมสภาฯ ครั้งถัดไปคือวันที่ 9 เมษายน ซึ่งเมื่อมีการเสนอเลื่อนแล้วก็มีการสื่อสารที่เข้าใจผิดไม่ว่าจะเป็นการทำหน้าที่ของฝ่ายค้าน หรือฝ่ายที่อาจจะไม่ได้เข้าใจการทำหน้าที่อย่างชัดเจน แต่วันนี้ทั้งฝ่ายค้านและพรรคเพื่อไทยได้เสนอญัตติด่วนด้วยวาจาเกี่ยวกับเหตุการณ์แผ่นดินไหว
“ยืนยันว่าทุกความเดือดร้อนของประชาชนจากเหตุการณ์เหตุการแผ่นดินไหวเป็นเรื่องที่พรรค พท.และรัฐบาลให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ ซึ่งเราเตรียมที่จะอภิปรายไว้แล้วอย่างครบถ้วนทุกมิติ ย้ำว่า ไม่มีความจำเป็นที่พรรคเพื่อไทยจะเลื่อนระเบียบวาระเกี่ยวกับร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯ มาตัดหน้าญัตติด่วนเรื่องเกี่ยวกับเหตุการณ์แผ่นดินไหว ส่วนที่ต้องมีการพิจารณาระเบียบวาระเกี่ยวกับร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯ ในสัปดาห์หน้านั้น เพราะเป็นนโยบายเรือธงของรัฐบาลที่จะเป็นการสร้างรายได้ใหม่ของคนไทย” นายอนุสรณ์ กล่าว
ด้านนายสุทิน กล่าวว่า อยากอธิบายให้ประชาชนได้ทราบว่าเรื่องเล็กทำเป็นเรื่องใหญ่ ไม่มีเรื่องแต่ทำให้เป็นเรื่องเท่านั้น วันนี้ทั้งสองฝ่ายทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลมีเจตนาที่จะมาพูดเรื่องแผ่นดินไหวเหมือนกัน แต่เรามีความจำเป็นต้องพูดถึงว่าสัปดาห์เราจะพิจารณาเรื่องอะไรกัน เพราะมีข้อบังคับการประชุมสภาฯ ว่าหากเป็นเรื่องเกี่ยวกับร่างพ.ร.บ.แล้วจะต้องมีการเลื่อนระเบียบวาระขึ้นมาพิจารณานั้น ต้องเลื่อนอย่างน้อย 1 สัปดาห์ ฉะนั้น หากจะพิจารณาในสัปดาห์หน้าต้องมีการเสนอเลื่อนในสัปดาห์นี้ จริงๆ เราใช้เวลาเพียงแค่ 5-10 นาทีเท่านั้น แต่ฝ่ายค้านไม่รู้ว่าเข้าใจหรือไม่เข้าใจ เพราะมีคนขึ้นมาคัดค้านทำนองว่าเราจะนำระเบียบวาระเกี่ยวกับร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯ ขึ้นมาแซงหน้าญัตติด่วนเรื่องเกี่ยวกับแผ่นดินไหว ย้ำว่า เราไม่มีเจตนาที่จะไปแซงหน้าแผ่นดินไหว วันนี้กว่าจะจบได้ก็เสียเวลากว่า 3 ชั่วโมง แม้ฝ่ายค้านจะบอกว่าเขาอยากพูดเรื่องแผ่นดินไหวเร็วๆ แต่ในที่สุดการกระทำของเขาก็ทำให้การพิจารณาเรื่องแผ่นดินไหวช้าไปกว่า 3 ชั่วโมง
นายสุทิน กล่าวด้วยว่า ส่วนเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯ นั้น เราต้องมีการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นเรื่องใหญ่เช่นเดียวกับเรื่องปากท้องที่ต้องเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจ รัฐบาลชุดนี้ก็คิดว่าหากเรายังหารายได้แบบเดิมๆ คิดตามกรอบเดิม หากไม่กล้าหารายได้แบบใหม่ๆ ก็จะไม่มีรายได้แบบใหม่ เมื่อไม่มีรายได้ใหม่เราก็ไม่มีทางที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจได้ จึงมีความกล้าหาญที่จะทำสิ่งใหม่ๆ และไม่ได้เสี่ยงแบบไม่มีหลักเกณฑ์ เราได้มีการศึกษาเรื่องดังกล่าวจนครบ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องเลื่อนระเบียบวาระดังกล่าวขึ้นมาพิจารณาในสัปดาห์หน้าเพื่อทำให้เศรษฐกิจฟื้นฟูโดยเร็ว
ขณะที่ น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวว่า เนื่องจากเป็นประเด็นที่มีข้อถกเถียงกันเยอะในเรื่องร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯ ดังนั้น การพิจารณาในวาระที่หนึ่งเพื่อตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญขึ้นมาศึกษาในช่วงปิดสมัยประชุมจึงเป็นเรื่องจำเป็น เพราะจะมีระยะเวลาในการพิจารณาและกมธ.ฯ สามารถพิจารณาได้อย่างรอบคอบ อีกทั้ง ต้องมีสส.ทั้งจากฝั่งรัฐบาลและฝ่ายค้านต้องเข้ามาร่วมกันพิจารณาอยู่แล้ว ซึ่งการตั้งกมธ.วิสามัญในขณะที่ปิดสมัยประชุม เรามุ่งหวังผลให้ข้อศึกษานั้นนำไปสู่ข้อสรุปที่ชัดเจนขึ้นนอกจากเรื่องเศรษฐกิจที่หวังให้มีการลงทุนมากขึ้น เพราะเราเพิ่งโดนเรื่องกำแพงภาษีที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ประกาศไป ฉะนั้น จึงต้องมีการกระตุ้นเศรษฐกิจในมิติอื่นๆ ด้วย
เมื่อถามว่า สัปดาห์หน้าเหลือเวลาการประชุมอีก 2 วัน คาดว่าจะสามารถพิจารณาได้ทันหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า เท่าที่คุยกันในวาระรับหลักการนั้นสามารถทำได้ทัน วาระสองค่อยไปว่ากันช่วงปิดสมัยประชุม ต่อข้อถามว่า จะเป็นการตีหัวเข้าบ้านหรือไม่ เพราะเป็นการพิจารณาในระยะเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด นายสุทิน กล่าวว่า ไม่มีตีหัวเข้าบ้าน ระยะเวลา 2 วันต้องเอาเหตุผลมาว่ากัน ไม่ใช่ว่าใครจะไปบังคับใครได้ 2 วันก็เพียงพอที่จะแสดงเหตุผลว่าเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม ในระยะเวลา 2 วันนี้เราสามารถคุยกันอย่างเต็มที่ได้ โดยในสัปดาห์หน้าจะมีการพิจารณาร่างกฎหมายต่างๆ ทั้ง 2 วัน เอาให้จบโดยที่ทุกคนได้แสดงความเห็นอย่างเต็มที่ก่อนที่จะไปวาระสองยาวๆ
เมื่อถามถึง กรณีที่ฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตว่ารัฐบาลเร่งรีบที่จะนำเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯ เข้าสู่การพิจารณาในสภาฯ นั้น นายสุทิน กล่าวว่า เรื่องเศรษฐกิจต้องเร่งฟื้นฟู จะช้าไม่ได้ และเชื่อว่ากว่ากฎหมายฉบับนี้จะมีผลนั้น มันต้องเดินทางไปไกล แล้วจะทันรัฐบาลของเราหรือไม่ ฉะนั้น เวลาที่เสียไป 2 วันนั้นมีผลต่อการฟื้นเศรษฐกิจ รวมถึงระยะเวลาที่เราทำงานนั้นก็มีอย่างจำกัด รัฐบาลอยู่อีกแค่ 2 ปีเอง ไม่รู้ว่าจะเสร็จทันหรือไม่ ฉะนั้น เราต้องเร่ง ส่วนที่มีการโต้เถียงกันในสภาฯ วันนี้นั้น ตนเชื่อว่าประชาชนเข้าใจ ทุกคนทำหน้าที่กันเต็มที่ซึ่งจะต้องมีการปะทะกันบ้าง เป็นธรรมชาติของสภาฯ แต่ถ้ารุนแรงกว่านี้เหมือนต่างประเทศที่ถึงขั้นชกต่อยกันเลยนั้น ประชาชนอาจจะรับไม่ได้
เมื่อถามว่า มองว่าหากร่างกฎหมายฉบับนี้ผ่านความเห็นชอบจะเกิดความขัดแย้งในสังคมหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ตนคิดว่าเราสามารถเห็นต่างได้ การริเริ่มสิ่งใหม่ๆ ที่เป็นความท้าทายทั้งในและนอก แต่ต้องมีกลไกที่จะหาข้อยุติกันได้คือ การพูดคุยกันในสภาฯ แต่หากทุกคนเคารพกลไกนี้ความขัดแย้งก็เป็นศูนย์
เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าการพยายามเร่งรัดร่างกฎหมายฉบับนี้จะมีผลประโยชน์อะไรแอบแฝงหรือไม่ เพราะยังไม่ได้มีการทำรายงานศึกษาความเป็นไปได้ นายสุทิน กล่าวว่า คิดได้ทั้งนั้นทั้งจากคนที่คิดโดยสุจริตและไม่สุจริต รัฐบาลนี้มาจากการเลือกตั้ง พรรคการเมืองที่จะอยู่นาน เขาต้องรับผิดชอบอนาคตเขา ใครที่คิดไม่ดีไม่งามแล้วเอาประโยชน์ใส่ตัว ไปไหนไม่รอด เราสามารถอธิบายได้และต้องสามารถพิสูจน์ได้ ส่วนจะเหมือนร่างกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอยของพรรคเพื่อไทยในอดีตหรือไม่ ตนคิดว่าไม่ เพราะเป็นการยืนอยู่บนผลประโยชน์ของประชาชน อีกทั้งยังมีการศึกษาเรื่องดังกล่าวมานานแล้ว เพื่อนบ้านเรามีหมดแล้ว เราช้าไปด้วยซ้ำ ส่วนตัวตนคิดว่าหากประเทศไทยลองสักครั้งจะเป็นอะไรไป หากลองแล้วไม่เกิดผลดีก็ยกเลิกกฎหมายได้ ไม่เป็นอะไร แต่หากไม่ลองเลยก็จะคาใจกันอยู่
“เรื่องนี้ไม่ได้สุกเอาเผากิน และเรื่องนี้ในสภาฯ ก็มีการถกเถียงกันและตั้งกมธ.ศึกษาเมื่อ 4 ปีก่อนด้วยว่าควรทำ ส่วนนอกสภาฯ นักวิชาการก็มีการศึกษาเรื่องเหล่านี้ไว้ด้วยเช่นกัน ฉะนั้น ผมคิดว่าข้อมูลว่าควรจะทำหรือไม่นั้นมีเพียงพอที่จะตัดสินใจ” นายสุทิน กล่าว
น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวเสริมว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เราเร่งด่วน รัฐบาลมีการพิจารณากฎหมายฉบับนี้มายาวนานแล้ว คณะกรรมการกฤษฎีกามีการตรวจสอบและแก้ไขจนนำไปสู่ข้อสรุปของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาในสภาฯ โดยสถานบันเทิงครบวงจรไม่ใช่เป็นแค่คาสิโนหรือบ่อนเท่านั้น แต่วันนี้เราจาดการเปิดประตูสู่การท่องเที่ยวในมิติใหม่ วันนี้เราจะได้มองเห็นโอกาสที่ขาดหายไปไม่ว่าจะเป็นคอนเสริตหรือศิลปินระดับโลก ซึ่งสามารถมาจัดได้ที่ประเทศไทยแต่ตอนนี้ไม่มีสถานที่ที่จะรองรับได้ ซึ่งเมื่อมีเราจะสามารถกระตุ้นเม็ดเงินได้จากเรื่องเหล่านี้ นี่เป็นสิ่งที่รัฐบาลอยากให้มองเห็น 90% และจะได้รับประโยชน์ แต่ขณะนี้กลับมีการไปโฟกัสเรื่องเล็กๆ จึงมองไม่เห็นผลประโยชน์ที่เราจะได้รับในภาพกว้าง
เมื่อถามว่า เอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯ จะสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริงใช่หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า เราเชื่อว่าจะสามารถฟื้นได้ เราไม่มีทางอื่นที่จะดึงนักลงทุนมาได้เป็นกอบเป็นกำได้เช่นนี้ เมื่อดึงมาได้เช่นนี้ก็ต้องเชื่อด้วยว่าเศรษฐกิจจะโต
เมื่อถามว่า เรื่องนี้ สว.ก็เหมือนไม่เห็นด้วยเช่นกันและเตรียมที่จะตั้ง กมธ.ฯ ด้วย มองอย่างไร นายสุทิน กล่าวว่า ไม่เป็นอะไร ก็ไปแลกเปลี่ยนความเห็นกัน ซึ่งหากมีการไปดูรายละเอียดก็อาจจะเปลี่ยนใจได้
เมื่อถามว่า สว.ถูกมองว่าเป็นกลุ่มเดียวกับพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรค จะถูกมองว่าเป็นเกมการเมืองหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ตนคิดว่าไม่ เพราะเรื่องนี้อยู่ในความสนใจของประชาชน สว.ต้องพิสูจน์ตัวเองว่าตัวเองยืนอยู่บนผลประโยชน์ของประชาชน จะทำเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว ต่อไปนี้บทเรียนหรือบริบทใหม่ๆ เกิดขึ้นกับสว. เชื่อว่าสว.จะคิดเรื่องนี้อย่างรอบคอบ
เมื่อว่า สามารถสรุปได้หรือไม่ว่าสิ่งที่เรามีอยู่แล้วเช่น เรื่องสถานที่จัดคอนเสริต สวนน้ำต่างๆ ไม่สามารถดึงดูดเม็ดเงินได้ จึงต้องสร้างเอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯ ขึ้นมาเพื่อดึงดูดเม็ดเงินเข้าประเทศ นายสุทิน กล่าวว่า เรื่องพวกนี้คล้ายกับนิคมอุตสาหกรรม ที่หากปล่อยกระจัดกระจายและต่างคนต่างลงทุน รัฐก็จะดูแลไม่ทั่วถึงรายได้จะลอดใต้ดินบ้าง เมื่อเราจับมาทำเป็นสถานบันเทิงครบวงจร ก็จะสามารถช่วยเขาได้ มีการลงทุนง่าย รายได้ก็จะถูกจับจุดได้อย่างเป็นระบบ แต่หากปล่อยไว้เช่นนี้เราไม่สามารถจัดเก็บรายได้ได้อย่างเต็มที่ ยังมีรายได้หลุดลอดไปใต้ดินเยอะ
เมื่อถามย้ำว่า ยืนยันว่าได้คุ้มเสียแน่นอนใช่หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า “เรามั่นใจ เราจึงได้ผลักดัน เพราะเราต้องประกันด้วยอนาคตของพรรคและตัวเรา หากรู้ว่าเสี่ยงมากเราก็ไม่ทำ ที่วิตกกันว่าจะมีผลประโยชน์แอบแฝงนั้น ผมว่าวันนี้สังคมเปิด ใครจะไปทำอะไรในที่ลับก็เห็นหมด ใครจะไปเสี่ยงก็ลองดู วันนี้กระดิกได้ที่ไหน”
แท็กที่เกี่ยวข้อง พรรคเพื่อไทย ,เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์