“นายกฯ” เผย ซื้อหนี้ประชาชนเป็นแนวคิดของคนที่หวังดีกับประเทศ ไม่ซีเรียส “ทักษิณ” พูดก่อน

“นายกฯ” เผย “ซื้อหนี้ประชาชน” เป็นแนวคิดของคนที่หวังดีกับประเทศ ไม่ซีเรียส “ทักษิณ” พูดก่อน ขออย่าเพิ่งเล่นเป็นประเด็นการเมือง ชี้อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อชาติก็ไม่ขวาง

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พูดบนเวทีถึงแนวคิดรัฐบาลถึงการซื้อหนี้ประชาชน ออกจากระบบธนาคาร ว่า เรื่องหนี้เป็นเรื่องที่นายทักษิณเอง เป็นนักธุรกิจมาก่อน เคยคุยกันเรื่องนี้อยู่แล้ว แล้วท่านเป็นคนสนใจเรื่องเศรษฐกิจว่าปัญหาเรื่องหนี้ เป็นปัญหาใหญ่ของประชาชน ว่ามีอะไรบ้างที่จะสามารถคิดขึ้นมาได้ และแน่นอนว่าเป็นความคิดของคนที่หวังดีกับประเทศ อย่าพึ่งเล่นประเด็นการเมือง ถ้าเป็นการเมืองจริง ๆ แล้ว ต้องผ่านกระบวนการ ครม. ผ่านสภา ผ่านการพูดคุย มีอีกเยอะที่ต้องผ่าน ไม่ใช่ครอบงำอะไร แต่เป็นความคิดของคนที่มีความรู้เท่านั้นเอง

แนวคิดนี้มีความเป็นได้มากน้อยแค่ไหน เพราะปัจจุบันรัฐบาลแบกรับภาระหลายจุด นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ถ้าประชาชน ฟังให้มีความหวัง ส่วนเรื่องของการทำให้เกิดขึ้นจริง เดี๋ยวจะไปคุยกันอีกทีทั้งที่ปรึกษา และรัฐมนตรี ไปคุยกันเพื่อหาทางออก ส่วนจะเอกชนมาร่วมด้วยหรือไม่ ก็คงต้องดู และยังพูดอะไรมากไม่ได้ และอยากให้แนวคิดนี้เป็นจริง อะไรดี ๆ ก็อยากให้เป็นจริงอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า ไฮไลท์เรื่องต่าง ๆ มักจะออกมาจากนายทักษิณ แทนที่จะออกมาจากนายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี ถามกลับว่า “เราดูซีเรียสไหมคะ“ พร้อมหัวเราะ และกล่าวต่อว่า ที่จริงแล้ว ตัวตนก็เรื่องหนึ่ง เราก็มีตัวตนของเรา แต่อะไรที่เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ เราคงไม่เอาตัวตนเราไปขวาง ว่าถ้าฉันไม่ได้หน้า ฉันไม่ทำ อันนี้ก็ไม่ใช่ มันต้องเป็นสิ่งที่ ทำแล้วเกิดประโยชน์กับประชาชนจริง ๆ ถ้าคนที่อยู่ขึ้นอยู่ในตำแหน่งมาพูดว่า ถ้าฉันไม่ได้หน้า ฉันไม่ทำ มันก็ต้องไม่มีอะไรทำกันแล้ว มันจะแย่นะ หรือความคิดอะไรที่ดี ก็ต้องทำ

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ใกล้อภิปรายแล้ว มีไอเดียเหล่านี้ พูดออกมา อาจถูกมองว่าเป็นการพูดลอย ๆ ออกมาเพื่อกลบเกลื่อนประเด็นนั้น นายกรัฐมนตรี ทำท่านิ่งคิด พร้อมกล่าวว่า พูดลอย ๆ เพื่ออะไร คือจะอภิปรายพูดออกมาแล้วมันช่วยอะไร เพื่อกลบประเด็นอภิปราย คงไม่ได้หรอกมั้ง

เมื่อถามอีกว่า เหมือนเป็นการให้ความหวังว่านายกรัฐมนตรี ต้องผ่านครั้งนี้ เพื่อให้มีนโยบายดี ๆ ออกมา นายกรัฐมนตรี บอกว่า เดี๋ยวดูกันที่คะแนนโหวต