เลือกตั้งและการเมือง
"วันนอร์" ยันไม่ได้กลัวถูกฟ้อง ขอร้องตัดชื่อ "ทักษิณ" ออกจากญัตติ ด้าน "ศิริกัญญา" ชี้ข้อบังคับบอกห้ามพูดโดยไม่จำเป็น แต่นี่มันจำเป็น
โดย paranee_s
10 มี.ค. 2568
150 views
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎรไทย ให้สัมภาษณ์ในรายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอ เผยถึงกรณีจะไม่บรรจุวาระอภิปรายไม่ไว้วางใจ หากฝ่ายค้านไม่ตัดชื่อนายทักษิณ ชินวัตร ว่า ต้องขอร้อง เพราะประธานต้องทำตามกฎหมายรัฐธรรมนูญและข้อบังคับ เราจะปล่อยให้ไม่ทำตามข้อบังคับไม่ได้ สภาก็จะวุ่นวาย ประท้วงต่าง ๆ นานา
ข้อบังคับระบุชัดว่า ข้อ 19 ห้ามกล่าวถึงบุคคลภายนอก และข้อ 9 ประธานต้องดูแลความสงบ ซึ่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญก็วินิจฉัยแล้วว่า อำนาจในการบรรจุระเบียบวาระเป็นหน้าที่ของประธานสภา ซึ่งในข้อบังคับ 176 ก็บอกว่า ถ้ามีข้อบกพร่องที่หมายถึงการผิดกฎหมาย, ผิดข้อบังคับ และทำให้ที่ประชุมไม่เรียบร้อย ผมก็ให้เกียรติเชิญผู้นำฝ่ายค้านคุย ขอให้แก้นิดหน่อยได้ไหม เรื่องชื่อบุคคลภายนอก ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพื่อไม่ให้ขัดข้อบังคับ
แล้วจะมาบอกว่าประธานไม่มีสิทธิ์ ไม่ใช่ครับ มันต้องดูข้อบกพร่องในด้านกฎหมาย และข้อบังคับ ซึ่งไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้น เมื่อสมัยอุทัย เป็นประธานสภา และนายชวน เป็นผู้นำฝ่ายค้าน ก็เคยเกิดขึ้นแล้ว ซึ่งท่านชวนก็ยอมแก้ ตามที่ประธานแจ้งขอให้แก้ข้อความบางคำ
ตั้งแต่อยู่ในสภามา 44 ปี ไม่เคยเห็นมีญัตติใดที่กล่าวถึงบุคคลภายนอก เพราะแค่กล่าวก็ไม่ได้แล้ว นี่ใส่มาในญัตติแล้วประธานอนุญาต มันผิดตั้งแต่ประธานแล้ว จึงขอได้โปรดเข้าใจ ผมก็อยากให้อภิปรายเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีเนื้อหาสาระที่ฝ่ายค้านต้องการพูดอะไร ก็พูดได้เต็มที่ และประชาชนก็จะฟัง
ถ้าไม่ระบุชื่อจะพูดว่าบุคคลภายนอก ก็แล้วแต่วิธีการอภิปราย แต่ว่าถ้าใส่ชื่อท่านทักษิณ หรือบุคคลใด ก็ถือว่าผิดกติกา และข้อบังคับ จะใส่คนอื่นก็กระทำไม่ได้ กล่าวยังห้าม แล้วนี่ใส่ไปในญัตติ มันจะวุ่นวายใหญ่ และร้องถึงประธานสภาว่าทำได้ยังไง และบุคคลภายนอกก็ฟ้องร้องได้ ไม่ได้กลัวถูกฟ้อง มันเป็นเรื่องธรรมดา แต่มันรู้ว่าผิด จงใจกระทำความผิด ประธานสภาทำแบบนั้นไม่ได้ .
อภิปรายเผ็ดร้อนยังไง ก็อยู่ในญัตติอภิปรายได้ แต่จะใส่บุคคลภายนอกที่ข้อบังคับห้ามอยู่ ไม่ใช่เรื่องเอาชนะทัดทานอะไร
เหตุผลการบรรจุญัตติมันขึ้นอยู่กับความถูกต้อง ไม่ได้เอาชนะใคร ผมสนับสนุนให้สภาเป็นที่ถกเถียงอภิปราย แต่ขอความกรุณาอย่าผิดข้อบังคับ และทำให้การประชุมวุ่นวาย ไม่อยากเห็นสภาพสภาวุ่นวาย
ส่วนเรื่องการรับใช้ใคร อายุจนป่านนี้ อยู่ในสภา 44 ปี จะต้องไปรับใช้ใคร มีประโยชน์อะไร ผมต้องรับใช้สมาชิกทุกคน รับใช้กฎหมาย และประชาชน ปฏิบัติตามข้อบังคับ
ส่วนการพบนายทักษิณที่ นราธิวาส ก็เป็นธรรมดาของคนรู้จักกัน ยอมรับเรารู้จักกันมานาน เรามีบุญคุณกัน แต่บุญคุณก็ส่วนบุญคุณ ผมจะไม่ยอมกระทำเพื่อชดใช้บุญคุณ ไม่เกี่ยวกัน แต่เรื่องการปฏิบัติหน้าที่ต้องเป็นกลาง ผมมาเป็นตรงนี้ ไม่ได้เป็นเพื่อใคร
ยินดี หากฝ่ายค้านยื่นร้องเรียน หากตนปฏิบัติหน้าที่ไม่ถูกต้อง แต่ตนไม่ได้สามารถทำอะไรนอกเหนือกฎหมายหรือข้อบังคับได้ ตนแค่ขอร้องให้ความร่วมมือ แต่ถ้าไม่ร่วมมือ เห็นว่าทำผิดกฎหมายก็ไปร้องได้
ซึ่งเหตุผลหลักที่ไม่บรรจุ ยืนยันว่าเป็นเรื่องของความไม่เรียบร้อยในห้องประชุม และการฟ้องร้อง มันอาจจะมีการฟ้องร้องได้ ทั้งผมหรือคนอื่น แต่เราไม่ควรจะทำผิด เพราะรู้อยู่แล้วว่ามันผิด ไม่ได้เกี่ยวว่าทักษิณแตะต้องไม่ได้ จะพูดยังไงก็ได้ แต่ไม่ควรผิดกติกา ยังไงก็ตามตนต้องปฏิบัติตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ให้แก้แค่เรื่องนั้น ส่วนว่าจะอภิปรายยังไง ค่อยว่ากันในที่ประชุม
ด้าน นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคประชาชน ยืนยันว่าจะต้องสู้ที่จะไม่แก้ไขญัตติให้เต็มที่ก่อน อย่างที่บอกว่า ครั้งนี้ที่เราทำ ไม่ได้ดื้อเพื่ออยากจะพูดเรื่องคุณทักษิณ แต่ไม่อยากให้เกิดบรรทัดฐานใหม่ในสภา ว่าจะพูดถึงคนนอกไม่ได้เลย ไม่อย่างนั้นเราจะทำงานลำบาก แค่ทุกวันนี้ก็ต้องโดนประท้วง โดนเบรกว่าอย่าพูดถึงคนนอก เราก็ต้องลุกขึ้นมาสู้ว่า ท่านประธาน ข้อบังคับไม่ได้บอกว่าห้ามพูด เขาบอกว่าห้ามพูดโดยไม่จำเป็น แต่นี่มันจำเป็น ก็เป็นสิทธิ์ของเราที่จะพูดได้ เรื่องที่มันจะเป็นการฟ้องร้อง ขอให้เป็นเรื่องที่ผู้อภิปรายไปฟ้องร้องในภายหลัง
ถ้าไม่ได้อยู่ในญัตติ มันจะวุ่นวายกว่าอีก เพราะเรายังย้อนมาบอกว่า เราอภิปรายตามญัตติที่ได้ยื่นมา เพราะถ้ายิ่งไม่อยู่ในญัตติก็จะยิ่งแตะไม่ได้เลย พูดถึงปุ๊บประท้วง พูดถึงปุ๊บประท้วง
เมื่อถูกถามว่าให้ตัดเรื่องนี้ออกไปเลย ได้หรือไม่ นางสาวศิริกัญญา ยืนยันว่า ไม่ได้ เพราะมันคือหัวใจ คิดว่าถ้าตัดออกไป เนื้อหาของหลาย ๆ คนนี่ บางคนอาจจะไม่ต้องอภิปรายเลยก็ได้มั้ง มันต้องมีอยู่ในญัตติถึงจะพูดได้ เรื่องข้อกล่าวหา ถ้าตัดตัวที่เป็นหัวใจสำคัญว่านายฯ ไม่ได้ใช้อำนาจโดยตัวเอง มีผู้ที่ให้กระทำหรืองดเว้น ตรงนั้นก็จะไม่สมบูรณ์สำหรับการอภิปรายได้
แต่หากอ่านญัตติ เราไม่ได้กล่าวหานายทักษิณ แต่เรากล่าวหานายกฯ ไม่ใช่ว่าญัตติโดยทั่วไป ไม่ใช่ว่าไม่เคยมีการใส่ชื่อคนนอกมาก่อน แต่ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจอาจจะไม่เคยมาก่อน แต่ว่าญัตติก็คือญัตติ ยืนยันว่าเราก็ดูกฎหมายมาเหมือนกัน เราไม่อยากให้เป็นบรรทัดฐานใหม่ต่อไป ซึ่งในก่อนหน้านี้ ในสภาฯสมัยอื่น การเอ่ยชื่อเท่าที่จำเป็นทำเป็นปกติ
ซึ่งถ้าหากทักษิณ รู้สึกระคายเคืองก็ฟ้องมา หรือจะโต้แย้งเราไปควบคู่กันระหว่างที่เราอภิปรายเลยก็ได้
แท็กที่เกี่ยวข้อง