"ธรรมนัส" เผยพรรคกล้าธรรม พร้อมหนุนรัฐบาลศึกซักฟอก ขอไม่วิจารณ์ "ลุงป้อม" นำทัพอภิปราย

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม เปิดเผยภายหลังเสร็จทำบุญพรรค ถึงจำนวนเสียงของพรรคกล้าธรรมขณะนี้ ว่าถ้าหากนับอย่างไม่เป็นทางการคือ 34 เสียง จากจำนวน สส. 24 คน และการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะถึงนี้ พรรคกล้าธรรมเสียงจะไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมด

ส่วนจะบอกได้หรือไม่ว่า 34 เสียง มาจากพรรคพลังประชารัฐ กี่เสียง ร.อ.ธรรมนัส อธิบายว่า 24 เสียง จากพรรคกล้าธรรม ส่วนอีก 10 เสียง ไม่ได้อยู่ในพรรคร่วมรัฐบาล

เมื่อถามว่าจะมี สส.พรรคพลังประชารัฐ มาเพิ่มอีกหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส ตอบว่าไม่ทราบ

ส่วนก่อนหน้านี้ร้ ร.อ.ธรรมนัส บอกว่า สุดท้ายแล้ว สส.พรรคพลังประชารัฐ จะย้ายมาอยู่ด้วย ขณะนี้มีการแสดงความจำนงแล้วหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส บอกว่า วันนี้เป็นวันมงคล ไม่อยากพูดถึงพรรคนู้นพรรคนี้ แต่เรายืนยันเสียงสนับสนุนรัฐบาลมี 34 เสียง

ร.อ.ธรรมนัส ยังกล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะนำอภิปรายในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ ว่าจะต้องเตรียมทีมประท้วงช่วยนายกรัฐมนตรีด้วยหรือไม่ ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องการเมือง ในฐานะที่เป็นหัวหน้าพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง มีสิทธิที่จะอภิปรายตามสไตล์ของท่าน

ส่วนจะมีข้อมูลเด็ดหรือไม่นั้น ร.อ.ธรรมนัส ตอบว่า ไม่ทราบ

เมื่อถามว่าในฐานะที่เคยใกล้ชิดกับพลเอกประวิตร พอจะทราบว่ามีข้อมูลหรือลีลาการอภิปรายเป็นแบบใด ร.อ.ธรรมนัส ตอบทันทีว่า ในฐานะที่เคยใกล้ชิด “ถ้าผมยังอยู่ ผมคงไม่ให้ท่านอภิปราย”

เมื่อถามต่อว่าถือเป็นมิติใหม่หรือไม่ ที่ พลเอกประวิตร จะอภิปรายด้วยตัวเอง ร.อ.ธรรมนัส ตอบว่า “ถ้าคนรักท่าน ก็ต้องรักท่านจริงๆ”

เมื่อถามย้ำว่า แปลว่าถ้ารักท่านก็ไม่ควรให้ท่านอภิปรายใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ แต่หมายถึงถ้าผมยังอยู่

ขณะเดียวกัน ร.อ.ธรรมนัส ยังไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ ว่าพลเอกประวิตร ถูกหลอกหรือไม่ เพราะไม่ใช่พรรคเรา

ส่วนกรณีที่คณะรัฐมนตรีทำหนังสือถึงศาลรัฐธรรมนูญ สอบถามความชัดเจน คุณสมบัติรัฐมนตรีในเรื่องจริยธรรม ที่ถูกดำเนินคดีว่าเห็นควรมีกรอบอย่างไร ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าเป็นการถามเพื่อเปิดทางให้ ร.อ.ธรรมนัส กลับมาเป็นรัฐมนตรี ว่า ไม่น่าจะเกี่ยวกัน และการที่คณะรัฐมนตรีถามไปยังศาลรัฐธรรมนูญนั้น ตนก็ไม่ทราบเรื่อง

ส่วนมั่นใจว่ามีคุณสมบัติรัฐมนตรีหรือไม่นั้น ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ต้องอย่าลืมว่าตนเป็นรัฐมนตรีมาแล้ว 2 สมัย และมีคำพิพากษาศาลรีฐธรรมนูญชัดเจน ซึ่งเป็นประเด็นของตน อย่าไปหลงประเด็น

ส่วนหากมีการปรับคณะรัฐมนตรี พร้อมรับตำแหน่งหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส บอกว่า อย่าเพิ่งไปมองอะไรไกลขนาดนั้น รัฐมนตรีทั้ง 3 คน ที่ตนส่งไปดูแลกระทรวงเกษตรฯ ก็ยังทำหน้าที่ได้ดี อย่าไปคิดเรื่องปรับคณะรัฐมนตรี

เมื่อถามว่าหากมีเสียง สส. เพิ่มขึ้น จะต้องเพิ่มโควตารัฐมนตรีหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส ตอบว่า ไม่ทราบ ไม่ใช่อำนาจของเรา

ส่วนเคยมีการพูดคุยกับแกนนำรัฐบาล หรือพูดคุยกับอดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ ชินวัตร หรือไม่ เพราะมีความสนิทสนมคุ้นเคยกัน ว่าในเรื่องของการเมืองในฐานะที่เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ แม้ว่าเราจะเป็นประธานที่ปรึกษาพรรค แต่การพูดคุยต้องคุยกับหัวหน้าพรรค คือนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ จะเป็นผู้ตัดสินใจ พร้อมย้ำว่าการประสานงานเรามีหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค การประชุมพรรคร่วมทุกครั้ง ก็จะเชิญหัวหน้าและเลขาธิการพรรค รวมถึงก่อนจะไปประชุมพรรคร่วม ก็ได้มีการปรึกษากันในพรรคทุกเรื่องอยู่แล้ว

ขณะที่ นางนฤมล กล่าวเสริมว่า ยังไม่มีสัญญาณเรื่องของการปรับคณะรัฐมนตรีแต่อย่างใด

ส่วนกรณีที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย เข้าพบ นายทักษิณ ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ท่ามกลางปัญหาความขัดแย้งในพรรคร่วม โดยเฉพาะ ฮั้วเลือกตั้ง สว. ที่กำลังเป็นประเด็น ร.อ.ธรรมนัส มองว่า ส่วนตัวมองเป็นเรื่องปกติ ไม่ว่าพรรคใดก็ตาม ที่เข้าไปหารือทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องพรรคร่วมรัฐบาล หลายพรรคก็เข้าไป แต่ไม่เป็นประเด็น ดังนั้นเราอย่าไปคิดมาก พร้อมย้ำว่าเป็นเรื่องปกติ มีทุกพรรคไม่ใช่เฉพาะพรรคภูมิใจไทย

ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาล ทำงานครบเทอมหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส บอกว่า ต้องแยกแยะระหว่าง 2 สภาฯ สส.กับการได้มาซึ่ง สว. ไม่เกี่ยวกัน และในเมื่อพรรคร่วมรัฐบาลมีการคุยปรับความเข้าใจกันแล้ว รัฐบาลก็เดินหน้าต่อได้