ผบ.ตร.ยอมรับ ปล่อยตัวอุยกูร์ 40 คน กลับจีน แจงรถปิดลูกกรงทึบเพื่อความปลอดภัย

“ผบ.ตร.” ยอมรับ เป็นเรื่องจริง ปล่อยตัวชาวอุยกูร์ 40 คน กลับประเทศ ตามหนังสือเรียกร้องอย่างเป็นทางการจากจีน แจงรถปิดลูกกรงทึบเพื่อความปลอดภัย ระบุ พรุ่งนี้รองนายกจะเป็นคนแถลงรายละเอียดทั้งหมด

พลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ หลังทั้งวันนี้มีกระแสข่าวเรื่องการส่งตัว ชาวอุยกูร์จากประเทศไทยไปยังประเทศจีน โดย ผบ.ตร. บอกว่า เรื่องดังกล่าวทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ สภาความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งทางการจีนมีหนังสือมาทางรัฐบาล เพื่อร้องขอให้ชาวอุยกูร์ 40 คน ที่ถูกกักอยู่ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดยในหนังสือได้แสดงความจริงใจและคำมั่น ยืนยันว่า จะดูแลเรื่องความปลอดภัย ที่อยู่ และให้ได้พบญาติ และเมื่อรัฐบาลได้รับหนังสือ ก็ได้พิจารณาตามหลักสิทธิมนุษยชน และรัฐบาลได้ประชุม โดยใช้ สภาความมันคงแห่งชาติพิจารณาเรื่องนี้ และมีมติออกมาแล้วว่า ให้ส่งตัวชาวอุยกูร์กลับไปยังประเทศจีน ซึ่งหลายท่านอาจไม่ทราบว่า ชาวอุยกูร์อยู่กับเรามากว่า 10 ปี ก็มีภาระที่ต้องรับผิดชอบในการดูแลมาตลอด



ซึ่งเมื่อได้รับมติมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็พิจารณาวางแผนการปฏิบัติตามหลักการ โดยมอบให้พลตำรวจเอกไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัยชาการตำรวจแห่งชาติดูแลเรื่องนี้ และมีการเสนอแผนการปฏิบัติให้นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พิจารณาผ่านทาง สมช. ทุกอย่าง ไม่ใช่คิดเองแล้วทำเลย และจะเห็นว่า การที่ชาวอุยกูร์เดินทางออกไปจนถึงตอนนี้ที่ส่งมอบให้ทางการจีนแล้ว ก็ยังไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ตอนนี้ทุกคนได้รับการตรวจสุขภาพ ได้พบญาติ ทำตามข้นตอนที่ทางการจีนให้คำมั่นสัญญากับทางการไทยไว้



เมื่อถามว่า ทำไมการนำตัวชาวอุยกูร์ออกจากสถานกักตัว ต้องปิดเทปดำไว้นั้น ผบ.ตร. บอกว่า เป็นเรื่องเทคนิคของการปฏิบัติ เพื่อความปลอดภัย ส่วนที่ดำเนินการในช่วงกลางคืน เพราะ จะได้ไม่รบกวนการจราจร ทำให้ประชาชนไม่ได้รับความสะดวก และที่ต้องใช้รถของหน่วยงานอื่น เพราะ เราไม่มีรถที่เหมาะสมในการดำเนินการ หากแคบเกินไปก็จะแออัด โล่งเกินไปก็จะยากในการดูแลความปลอดภัย แต่สิ่งสำคัญที่อยากให้มองคือ ชาวอุยกูร์ทุกคนไม่มีใครขัดขืนใดๆ และพวกเขาก็ถูกกักตัวมานานแล้ว การส่งตัวกลับเป็นเรื่องหลักสิทธิมนุษยชน ที่เราต้องปฏิบัติภายใต้กฎหมายอย่างถูกต้อง



ผบ.ตร. บอกด้วยว่า อยากขอให้เห็นใจตำรวจด้วย หากกักตัวต่อไป ก็ถูกตั้งคำถามว่า ทำผิดหลักสิทธิมนุษยชนหรือไม่ แต่พอส่งตัวกลับ ก็มีคำถามว่า ทำถูกต้องหรือไม่ ตำรวจอยู่ในจุดที่ซ้ายก็โดน ขวาก็โดน แต่อยากให้เข้าใจว่าเรารักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ และการส่งตัวผู้ต้องหาที่หลบหนีเข้าเมืองกลับไป ก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ชาวอุยกูร์ ไม่ต่างจากเวลาที่เราผลักดันคนต่างชาติที่กระทำผิดกลับประเทศ ถ้าไม่ส่งกลับ แล้วเราจะต้องกักตัวเขาไว้อีกกี่ปี เขาก็เป็นมนุษย์ที่ควรจะได้กลับบ้าน



โดยหลังจากนี้ พลตำรวจเอกไกรบุญ พร้อมตัวแทนของ, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ, เลขาธิการ สมช.  รวมถึงตัวแทนที่รัฐบาลมอบหมาย ก็จะไปสังเกตการณ์ที่ประเทศจีน ดังนั้น จึงไม่มีความกังวลใจ



ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายกังวลว่าจะเกิดผลกระทบตามมาเหมือนในอดีตนั้น ผบ.ตร. บอกว่า ในอดีต เราส่งกลับไปเลย โดยไม่เคยได้คำมั่นสัญญา แต่ตอนนี้ มีการประชุม ประสานงานกันผ่านทางการทูต ซึ่งต้องมีการนำบทเรียนจากอดีตมาใช้ในการวางแผนป้องกันผลกระทบในมิติความมั่นคงอยู่แล้ว ซึ่งพรุ่งนี้ รองนายกรัฐมนตรี จะมีการแถลงรายละเอียดเรื่องนี้ทั้งหมดอีกครั้ง