เลือกตั้งและการเมือง

นายกฯ สั่งเด็ดขาด กำหนดไทม์ไลน์ 30 วัน ปราบ “บุหรี่ไฟฟ้า” ซีลผู้นำเข้าทุกจุด จับคนขายจริงจัง

โดย JitrarutP

26 ก.พ. 2568

2.2K views

นายกฯ สั่งเด็ดขาด วางไทม์ไลน์ 30 วัน ให้ จิราพร - ผบ.ตร. ปราบ “บุหรี่ไฟฟ้า”ในเยาวชนและสถานศึกษาอย่างเด็ดขาด พร้อมสั่งซีลผู้นำเข้าทุกจุด จับกุมผู้ขายอย่างจริงจัง สั่งฟันหากพบ ตำรวจ-ข้าราชการ เอี่ยวมีโทษทั้งวินัยและอาญา

พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังนายกรัฐมนตรีเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหามาตรการป้องกันปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า โดยระบุว่า นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการป้องกันและปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า เนื่องจากเป็นมติครม. ตั้งแต่เดือนเม.ย.67 โดยในส่วนของการปฏิบัติตำรวจได้มีการสืบสวนป้องกันปราบปรามมาโดยตลอด ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำ 2 เรื่อง คือ การสืบสวนจับกุม การนำเข้า โดยให้ตำรวจบูรณาการกับศุลกากร ซึ่งถ้าป้องกันการนำเข้าได้ก็จะทำให้บุหรี่ไฟฟ้าลดลง และยังเน้นย้ำกรณีที่หลุดจากการป้องกันการนำเข้าแล้วนำมาซุกซ่อน พักพิงและจำหน่าย

ส่วนกรณีของผู้ใช้อยู่ในขั้นตอนของการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชน ส่วนกรณีที่มีการระบาดไปยังพื้นที่สถานศึกษา พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำมากเช่นกัน ซึ่งขณะนี้ พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นผู้รับผิดชอบ โดยมาตรการป้องกันปราบปรามของตำรวจก็เน้นไปที่สถานศึกษาด้วย ซึ่งในปี 2567 มีการจับกุมเกือบ 2,000 คดี และในปี 2568 ก็มีการจับกุมอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีการรับแจ้งเบาะแสจากประชาชนเข้ามาโดยตลอด และฝากเตือนไปยังผู้ที่เข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าไม่มีกฎหมายบังคับใช้ จริงๆมีข้อกฎหมายเรื่องนี้อยู่แล้ว หากจำหน่าย นำเข้าหรือซุกซ่อนหรือทำผิดกฎหมายมีโทษจำคุก ซึ่งตำรวจมีข้อมูลบางส่วนแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการปราบปรามจับกุม

ส่วนควรจะมีชุดเฉพาะกิจบริเวณหน้าสถานศึกษาหรือไม่เนื่องจากขณะนี้ปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าลุกลามไปถึงเด็กประถม พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า เรื่องชุดเฉพาะกิจ ขณะนี้ พล.ต.อ.ประจวบ รับผิดชอบอยู่ รวมถึงมีผู้ช่วย ผบ.ตร.คนอื่นๆดูแลตามที่ได้รับมอบหมาย โดยในการปฏิบัติการได้ให้ชุดสืบสวนภูธรจังหวัด ชุดสืบสวนกองบังคับการตำรวจนครบาลที่เป็นชุดปฏิบัติการรับผิดชอบ เข้าไปตรวจสอบตามนโยบายและการสั่งการ โดยตนได้กำชับว่า ให้ทำอย่างเข้มข้นรอบสถานศึกษาหากพบการแอบจำหน่ายหรือมีแหล่งพักพิงต้องจับกุมทั้งหมด

ขณะเดียวกันได้เข้มข้นกับตำรวจหรือข้าราชการ หากพบมีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องจะดำเนินการทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด ซึ่งเรื่องนี้ได้มีการออกหนังสือตั้งแต่ปี 2567 พร้อมย้ำว่า ใครที่บอกว่ายังไม่มีกฎหมายจับไม่ได้นั้นไม่ใช่ เรื่องนี้มีกฎหมายชัดเจนทั้งนำเข้า ครอบครอง จำหน่าย และการใช้

ส่วนกรณีที่มีข้อสั่งการให้กลับมารายงานความคืบหน้าภายใน 15 วัน จะได้เห็นผลในด้านใดบ้าง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า จะเห็นผลด้านการปราบปราม โดยในระยะเวลา 1 เดือนจะมีการประเมิน โดยให้น.ส.จิราพร สินธุไพรรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งจะมีการประชุมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้เพื่อหารือ และดำเนินมาตรการเชิงรุกในการปราบปราม




โดยนางสาวแพรทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีโพสต์ข้อความภายหลังประชุมร่วมกับนางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ถึงการปราบบุหรี่ไฟฟ้าโดยเฉพาะในเยาวชน-พื้นที่ใกล้โรงเรียนที่ต้องปราบปรามจริงจัง และใช้มาตรการกฎหมายอย่างเข้มงวด ว่า

วันนี้พูดคุยกับ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ และนางสาวจิราพร ซึ่งตนได้มอบหมายให้ช่วยดูแลเรื่องนี้เป็นหลัก พูดคุยกันถึงมาตรการคุมเข้มและปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า โดยเฉพาะในเด็กและเยาวชน ดิฉันขอให้ทุกฝ่ายดูแลอย่างเข้มงวด พื้นที่ใกล้โรงเรียน-สถานศึกษาต้องไม่มีการขายให้เยาวชน

นอกจากนี้ยังได้เน้นย้ำให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำความเข้าใจเกี่ยวกับโทษของบุหรี่ไฟฟ้าและข้อกฎหมายให้กับประชาชนได้เข้าใจอย่างถูกต้อง เริ่มต้นที่การจัดการกับผู้นำเข้า seal ทุกจุด และจับกุมผู้ขายอย่างจริงจัง ซึ่งตนให้ไทม์ไลน์ 30 วัน กับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย และกรมศุลกากรในการปราบปรามอย่างเด็ดขาด

แน่นอนว่าเรื่องการปราบปรามนี้เป็นการดูแลของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ความปลอดภัยของเด็กและเยาวชน ถือเป็นหน้าที่ร่วมกันของทุกคนในสังคม ดิฉันจึงอยากขอความร่วมมือจากทุกคน ทุกภาคส่วน ให้ช่วยดูแลเยาวชนในสังคม หากพบเห็นการขายให้แก่เด็ก และเยาวชน ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินคดีต่อไป


แท็กที่เกี่ยวข้อง  ข่าวการเมือง ,บุหรี่ไฟฟ้า

คุณอาจสนใจ

Related News