เลือกตั้งและการเมือง

"โรม" สวน ป.ป.ช. เรียกแจ้งข้อกล่าวหาเสนอแก้ 112 ด้าน "ศิริกัญญา" เผยชิล ๆ เฉย ๆ

โดย nutda_t

16 ก.พ. 2568

225 views

16 ก.พ. 2568 น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ในส่วนของพรรคประชาชน ว่า ตอนนี้เรื่องประเด็น และตัวบุคคล หรือขุนพล ที่ทำหน้าที่ซักฟอกนิ่งแล้ว มีการซักซ้อม รีวิว ตรวจสอบข้อมูลกันอยู่ ขุนพล ที่พรรคประชาชน เตรียมเอาไว้นั้นประมาณ 20 กว่าคน จะไม่มีการพูดเรื่องเก่าๆ เดิม ๆ ซ้ำซาก ตามที่ฟากรัฐบาลออกมาพูดก่อนหน้านี้แน่นอน เราจะอภิปรายเฉพาะรัฐมนตรีที่อยู่ในรัฐบาลปัจจุบัน ขุนพลพรรค 20 กว่าคน ก็จะพูด 20 กว่า แต่ละคน ไม่ซ้ำกันแน่ ปล่อยทางรัฐบาลปลอบใจตัวเองไปว่าอภิปรายเรื่องเก่า หรือน้ำท่วมทุ่ง เราจะรักษามาตรฐานเรา อย่างไรก็ตาม เช่น เรื่องดิจิทัลวอลเล็ต จีนเทา แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หรือเรื่องที่สังคมให้ความสนใจ น่าจะสามารถคาดหวังได้ว่าพูดเรื่องเหล่านี้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ

น.ส.ศิริกัญญา เปิดเผยว่า รอบนี้ เราจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี เป็นรายบุคคล ซึ่งในวันนี้ (16 ก.พ.) เป็นวันนัดส่งญัตติซักฟอกของแต่ละพรรค ให้วิปฝ่ายค้าน นอกจากนี้ โดยจะใช้เวลาในการเรียบเรียงญัตติใหม่ของทุกพรรค ให้สอดคล้องกับผู้อภิปรายของทุกพรรค และรวบรวมรายชื่อ จากนั้น น่าจะได้ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจต่อประธานสภาฯ ไม่เกินวันที่ 27 ก.พ.แน่นอน

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวถึงกรณี อดีต สส.พรรคก้าวไกล ได้รับหนังสือจาก ป.ป.ช. เรียกไปรับทราบข้อกล่าวหา ฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงฯ กรณีลงชื่อเสนอแก้กฎหมายอาญามาตรา 112 ว่า ก็ความรู้สึก หรือฟิวส์ตนนั้น แบบเดียวกันกับ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา อดีตรองประธานสภาฯ และอดีต สส.พรรคก้าวไกล ก็ชิล ๆ เฉย ๆ มากๆ สู้ตามกระบวนการได้แน่นอน ก็มั่นใจว่า ไม่ได้ทำผิดตามที่ทางป.ป.ช.กล่าวหาว่าอะไรก็ตาม การยื่นแก้กฎหมาย มันไม่มีทางเป็นการผิดจริยธรรมร้ายแรงได้อยู่แล้ว และกรณี ป.ป.ช.ก็ยังคง เป็นชั้นเริ่มต้นมากๆ ที่จะเริ่มกระบวนการแจ้งข้อกล่าวหา เราต้องไปแก้ข้อกล่าวหา กว่าจะยื่นศาลต่างๆ กระบวนการยังจะต้องสู้กันอีกไกล

เมื่อถามว่า มีอะไรจะฝากถึงประธาน ป.ป.ช. ที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งใหม่ และเริ่มรันกระบวนการแจ้งข้อกล่าวหา หรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า กระบวนการเริ่มต้น ก่อนประธาน ป.ป.ช.คนใหม่ จะรับตำแหน่งด้วยซ้ำไป เราเห็นว่ามีการเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าไปด้วย ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นประธานป.ป.ช.คนไหน เราไม่กังวลใจ “เราเข้าใจว่า ประธาน ป.ป.ช.เอง ก็น่าจะต้องเตรียมสู้คดีของตัวเองอยู่เหมือนกัน ใช่ไหม”

เมื่อถามต่อว่า กังวลหรือเปล่า กับประธาน ป.ป.ช.คนใหม่ ที่น่าจะกำลังมีประเด็นปัญหาเรื่องจริยธรรมเหมือนกัน แต่จะมาเป็นประธาน ป.ป.ช. สอบจริยธรรม 44 อดีต สส.พรรคก้าวไกล ว่า น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า จริงๆ ทุกอย่างก็ต้องเป็นไปตามกระบวนการ แต่คราวนี้ ทางฝั่งของประธาน ป.ป.ช.เอง ก็อาจจะยังไม่ได้มีการเริ่มต้นกระบวนการที่ชัดเจน ในการที่เขาจะต้องโดนสอบจริยธรรมเหมือนกัน แต่ว่าของพรรคประชาชน เราก็อาจจะเริ่มไปก่อน ก็ให้เป็นไปตามกระบวนการดีกว่า ตนไม่มีความกังวลอะไรใดๆ เลย


ด้าน นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์กรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ออกหนังสือเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหากรณี 44 สส.อดีตพรรคก้าวไกล ลงชื่อเสนอแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 ว่า ตอนนี้น่าจะได้รับหนังสือเรียกกันหมดแล้ว แค่ติดอยู่ที่ความล่าช้าในการส่งไปรษณีย์ ดังนั้นก็เป็นสิ่งที่เราต้องรับมือกันต่อไป แต่ยืนยันว่าการทำหน้าที่ของพวกเรา เป็นการทำหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ

“วันนี้คุณอ้างเรื่อง ม.112 วันหน้าคุณก็อ้างเรื่องอื่นมาทำลายพรรคการเมืองที่ต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ก้าวหน้าเพิ่มขึ้น มันไม่มีกฎหมายห้ามในการเสนอแก้เรื่องดังกล่าว ก็ต้องยืนยันในการทำหน้าที่ของเรา”

นายรังสิมันต์ ถามกลับว่า อะไรคือภารกิจเร่งด่วนของ ป.ป.ช. ซึ่งภารกิจเร่งด่วนของ ป.ป.ช.คือการเคลียร์ตัวเอง วันนี้ตัวเองยังเคลียร์ไม่ได้ และอาจจะมีความผิดต่างๆ นาๆ เกี่ยวเรื่องทุจริต ดังนั้นมีความชอบธรรมอะไรมาทำหน้าที่ตรงนี้

“ประทานโทษ นายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข ท่านเป็นถึงประธาน ป.ป.ช. ตัวท่านเองจะอยู่แบบนี้เงียบๆ ต่อไปเรื่อยๆ เดี๋ยวเรื่องมันก็เงียบไปเองหรือไม่ ผมคิดว่าต้องฝากพี่น้องสื่อมวลชนในการติดตาม ประธาน ป.ป.ช. หรือ ป.ป.ช.ท่านเป็นองค์อิสระ ใช้เงินภาษีของประชาชน เมื่อมีเรื่องที่เป็นข้อกล่าวหาต่างๆ มากมายไปสู่ท่าน ท่านมีหน้าที่สร้างความกระจ่างให้กับประชาชน ถ้าท่านไม่ทำหน้าที่ตรงนี้ ท่านต้องสังวรณ์ว่าท่านกินภาษีของประชาชนอยู่ ต้องตอบคำถาม” นายรังสิมันต์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องนี้ทำให้เสียสมาธิหรือไม่ เพราะใกล้ช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าทำไม ป.ป.ช. ต้องรีบขนาดนี้ เรื่องชี้แจงเราพร้อมจะไปชี้แจงอยู่แล้ว เราในฐานะที่ต้องเตรียมชี้แจง ก็ยอมรับว่าเสียสมาธิในการเตรียมอภิปราย เพราะต้องมานั่งคิดเรื่องคดีความ รวมถึงบางคนก็ต้องถอนตัวจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่เราก็พยายามทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดเพื่อประโยชน์ของประชาชน ประเทศนี้ต้องการฝ่ายค้านที่มีคุณภาพในการตรวจสอบต่อไป

ส่วนจะกระทบเสถียรภาพของฝ่านค้านหรือไม่ นายรังสิมันต์ ระบุว่า อยากให้ประชาชนประเมิน พวกเราต้องโฟกัสเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โฟกัสเรื่องอภิปรายไม่ไว้วางใจ และคดีความอีกมันก็กินพลังไปมากแล้ว แต่ถ้าตัวเลขฝ่ายค้านลดลงก็ยอมรับว่ามีผลต่อการตรวจสอบอย่างแน่นอน

ส่วนจะกระทบไปถึงเลือกตั้งปี 2570 หรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนยังไม่อยากประเมิน ยังไม่รู้ผลจะจบอย่างไร พร้อมยิ้ม และกล่าวว่า “ตอนนี้ยังทำหน้าที่อยู่”

คุณอาจสนใจ

Related News