วันที่ 7 ก.พ.68 ที่สำนักงานเขตบางรัก นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้มีการฝากประเด็นอะไรไปหรือไม่ ว่า ก็เป็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศที่ดีอยู่แล้ว และมีอีกหลายประเด็นที่จะต้องมีการพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจ โดยเฉพาะประเทศไทยที่มีสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศพันธมิตรกันมาอย่างยาวนานและเก่าแก่ที่สุดในเอเชีย รวมถึงยังมีประเทศจีนที่เป็นเพื่อนบ้านและมีความสัมพันธ์ที่ดีกัน เราจึงต้องวางความเหมาะสมให้พอดี ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับทราบว่าการพูดคุยเป็นไปด้วยดี
เมื่อถามว่าความร่วมมือระหว่างไทยและจีนในการเดินหน้าปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ นายทักษิณกล่าวว่า ไทยกับจีนร่วมมือกันอย่างดีในการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และขอร้องประเทศเพื่อนบ้าน อย่างเช่นเมียนมา เนื่องจากมีปัญหาการสู้รบ และแน่นอนว่ารายได้ส่วนหนึ่งในการสู้รบก็มาจากกระบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์และยาเสพติด
เพราะฉะนั้นหากไม่จัดการที่ต้นเหตุก็ไม่จบ ซึ่งแน่นอนว่าหากจัดการที่ต้นเหตุ ชุมชนในฝั่งเมียนมาต้องได้รับความเดือดร้อน แต่ต้องคิดว่าจะไปโอบอุ้มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทำไม หากไล่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ออกจากเมียนมา เราก็กลับไปดูแลส่งไฟ ส่งสัญญาณโทรศัพท์ให้เหมือนเดิม
ส่วนในทางฝั่งประเทศกัมพูชา ก็มีข้อมูลชัดเจนขึ้นว่าใครเป็นใครต้องขอความร่วมมือให้ได้ ซึ่งเราก็รู้อยู่ว่าที่ปอยเปตตึก 25 ชั้นเป็นของใคร และคนนี้มีสัญชาติไทยด้วย เมื่อถึงเวลาจะถอนสัญชาติ
เมื่อถามว่า ขณะนี้เราได้ตัดไฟ แต่ดูเหมือนว่า เขาก็ไปใช้ไฟของ สปป.ลาว นายทักษิณ กล่าวว่า ไม่เป็นไร น้ำมันเราก็บล็อก เราไม่ให้เอาน้ำมันเข้าไปปั่นไฟ หากมีการส่งผ่านทาง สปป.ลาว คงไม่สะดวก