นายก ลั่น ปัญหาฝุ่น PM 2.5 เป็นวาระอาเซียน เดินหน้าคุยเพื่อนบ้าน ศกพ. ชี้ ฝุ่นมีแนวโน้มสูงถึง 27 ม.ค.

ขณะที่ในประเทศเราก็มีการเผา ทุกประเทศต้องมีมาตรการที่จะช่วยกัน ต้องขอความร่วมมือ เพราะสภาพอากาศที่มีลมพัดไปมา ต้องลดปริมาณการเผาในแต่ละพื้นที่ เช่นในไทยทุกกระทรวงต้องมีมาตรการ มีการเตรียมการตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายน ว่า ถ้าหากมีการเผาจะต้องมีการปรับ หรือบังคับใช้กฎหมาย อย่างไร

ขณะที่ด้านอุตสาหกรรมการเผาก็ลดน้อยลงกว่าปีที่แล้วเป็นอย่างมาก ส่วนฝุ่นเป็นเรื่องของการสะสม มันถึงเวลาแล้วไม่ใช่คนใดคนหนึ่งหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง ประชาชนทุกคนต้องช่วยกันคนละไม้คนละมือ เพื่อให้เกิดพลังที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งในขณะนี้สิ่งที่รัฐบาลทำ คือการแก้ปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นให้ทันการณ์ ให้ดีที่สุด ระยะกลาง ระยะยาวก็ทำแล้ว ระยะสั้นก็ทำอยู่

ส่วนการให้เวิร์กฟอร์มโฮม จะต้องมีประกาศจากหน่วยงานราชการหรือไม่ จากเดิมที่ให้มีการพิจารณาเอง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นไปได้ สามารถคุยกันได้ว่า ที่ไหนที่เวิร์กฟอร์มโฮมแล้วไม่กระทบกับการทำงานมากเกินไป จะช่วยลดเรื่องการเดินทางได้เยอะ

และเมื่อถามย้ำว่าหน่วยงานราชการ ที่ไม่ต้องบริการประชาชน และสามารถทำงานผ่านออนไลน์ได้ รัฐบาลควรจะประกาศให้เวิร์กฟอร์มโฮมหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าขอไปคุยรายละเอียดก่อน แต่จากที่คุยกันเบื้องต้น คิดว่าเป็นไปได้ เพราะช่วงนี้ฝุ่นเยอะจริงๆ

สำหรับภาคเอกชนจะมีมาตรการจูงใจเพื่อเวิร์กฟอร์มโฮมอย่างไรนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าหลายที่ก็ทำเรื่องนี้อยู่แล้ว ขณะที่รัฐบาลก็มีมาตรการเร่งด่วน เช่น การขึ้นรถไฟฟ้าฟรี ใช้งบฯ 140 ล้านบาท ซึ่งเอกชนหลายที่ก็ได้ใช้ด้วย ถือเป็นภาพรวมในการแก้ปัญหา

ขณะที่ ศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) กรมควบคุมมลพิษ รายงานคุณภาพอากาศประจำวันที่ 25 มกราคม 2568 ณ 07:00 น ภาพรวมปริมาณฝุ่นละออง PM2.5 ในประเทศ พบเกินค่ามาตรฐานในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล หลายพื้นที่อยู่ในระดับที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ (สีแดง) พื้นที่ภาคกลาง/ตะวันตก ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สถานการณ์โดยรวมเกินเกณฑ์มาตรฐานหลายจังหวัด โดยภาคเหนือ ตรวจวัดได้ 14.1 – 91.0 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 39.8 – 87.0 มคก./ลบ.ม. ภาคกลางและตะวันตก 32.5 – 106.9 มคก./ลบ.ม. ภาคตะวันออก 46.3 – 94.9 มคก./ลบ.ม. ภาคใต้ 9.3 – 44.2 มคก./ลบ.ม. กรุงเทพมหานครและปริมณฑล 50.9 - 111.0 มคก./ลบ.ม.


ศกพ. ขอย้ำการคาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 ระหว่างวันที่ 25 – 27 มกราคม 2568 ยังคงมีแนวโน้มเกินเกณฑ์มาตรฐานหลายพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล และพื้นที่อื่นที่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ได้แก่ พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง พื้นที่ภาคตะวันออก และพื้นที่ภาคกลาง/ตะวันตก ทั้งนี้ สถานการณ์จะบรรเทาลงอย่างมีนัยสำคัญหลังวันที่ 27 มกราคม เนื่องจากอัตราการระบายอากาศที่เพิ่มสูงขึ้น ลมที่ค่อนข้างแรง และสภาพอุตุนิยมวิทยาที่เอื้อต่อการระบายฝุ่นละอองมากยิ่งขึ้น


ปัจจัยทางด้านอุตุนิยมวิทยายังคงส่งผลต่อการระบายของฝุ่นละออง อิทธิพลของมวลอากาศเย็นที่ยังคงปกคลุมประเทศไทย ส่งผลให้อากาศนิ่งและจมตัว ร่วมกับการพบเจอค่าอัตราการระบายอากาศที่ต่ำ การเกิดสภาพอุณหภูมิผกผันใกล้ผิวพื้น สภาพเพดานการลอยตัวอากาศที่ต่ำมาก เกิดลักษณะคล้ายฝาชีครอบ ส่งผลให้ฝุ่นละอองไม่สามารถระบายออกจากพื้นที่ได้ จึงมีการสะสมและแขวนลอยในชั้นบรรยากาศมาก ข้อมูลจาก GISTDA ประเทศไทยยังพบเจอจุดความร้อนในหลายพื้นที่ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง/ตะวันตก ภาคเหนือตอนล่าง วันที่ 24 มกราคม 2568 พบจุดความร้อนทั้งสิ้น 420 จุด


ศกพ. ยังคงขอความร่วมมือประชาชนทุกท่าน งดการเผาทุกชนิด ทั้งการเผาในพื้นที่เกษตร เผาขยะ เผาริมทาง ใช้รถโดยสารสาธารณะ เพื่อลดปริมาณการจราจรบนท้องถนน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการบรรเทาความรุนแรงของสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 และผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ผู้ป่วย เด็ก ผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์ ขอให้พี่น้องประชาชนดูแลสุขภาพ ลดกิจกรรมกลางแจ้ง เมื่อต้องออกจากบ้านควรสวมใส่หน้ากากอนามัยและอุปกรณ์ป้องกันตัวเอง ปฏิบัติตนตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข ติดตามสถานการณ์ฝุ่นละอองได้ผ่านเว็บไซต์ Air4Thai.pcd.go.th หรือ แอปพลิเคชัน Air4Thai