เลือกตั้งและการเมือง
“วิโรจน์” ไม่เอาเรื่องมือขู่ยิง บุก กกต. จี้เร่งทำหนังสือแจ้งผู้ประกอบการให้ลูกจ้างลาเข้าคูหา
โดย JitrarutP
14 ม.ค. 2568
57 views
“วิโรจน์” บุก กกต. จี้เร่งทำหนังสือแจ้งผู้ประกอบการอนุญาตให้ลูกจ้างลาเข้าคูหาเลือกตั้ง 1 ก.พ.นี้ ชี้ หากมีผู้ไปใช้สิทธิน้อยกว่าที่ควรจะเป็น กกต.ต้องรับผิดชอบ ไม่ติดใจเอาเรื่องมือขู่ยิงเอาชีวิตศึกเลือกตั้ง อบจ.จันทบุรี เผยควรสู้กันด้วยนโยบายอย่างตรงไปตรงมา
14 ม.ค. 2568 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ฝ่ายกิจการพิเศษ เข้ายื่นหนังสือต่อ กกต. ที่ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ เร่งรัด กกต. ออกหนังสือถึงโรงงานอุตสาหกรรมทั่วประเทศ อนุญาตให้ลูกจ้างลาไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งในวันเสาร์ที่ 1 ก.พ. 2568
โดยนายวิโรจน์ ระบุว่า ตนมาเป็นตัวแทนของนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค ประชาชน ยื่นหนังสือถึงกกต. หลังจาก นายพริษฐ์ วัชรสินธุ์ สส.พรรคประชาชน ในฐานะ ประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมือง สภาผู้แทนราษฎรมีข้อสังเกตไว้ว่า ในวันที่ 1 ก.พ. 2568 ตรงกับวันเสาร์ ซึ่งสถานประกอบการ และโรงงานอุตสาหกรรม หลายแห่งเปิดทำงาน อาจเป็นอุปสรรค ทำให้ประชาชนไม่ได้ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งทั้งที่มีความประสงค์จะออกมาใช้สิทธิ์
ซึ่งทาง กกต.มีข้อสังเกตตอบกลับนายพริษฐ์ ว่า กกต.จะมีหนังสือแจ้งไปยังสภาอุตสาหกรรมจังหวัด หอการค้าจังหวัด และสถานประกอบการ ห้างร้านต่างๆให้อำนวยความสะดวกกับลูกจ้างหรือพนักงานในการออกไปใช้สิทธิ์ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ แต่เท่าที่ตรวจสอบ ยังไม่มีหนังสือหรือการแจ้งเตือนใดๆจากทางกกต. ไปยังสถานประกอบการต่างๆ โดยตรง วันนี้จึงมายื่นหนังสือ เร่งรัดให้ทางกกต. ได้ทำหนังสือ และประสานงาน รวมทั้งเน้นย้ำผู้ประกอบการให้อำนวยความสะดวก เปิดให้ประชาชนไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งท้องถิ่น ในวันที่ 1 ก.พ. 2568 ซึ่งเป็นวันเสาร์
หาก กกต.ไม่ดำเนินการใดๆเลยเกรงว่าจะมีผู้ใช้สิทธิ์น้อยกว่าที่ควรจะเป็น เพราะตามมาตรา 117 ของพ.ร.บ.การเลือกตั้งท้องถิ่น ได้กำหนดไว้แล้วว่าหากนายจ้างขัดขวาง หรือไม่อำนวยความสะดวกให้พนักงานหรือลูกจ้างไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งก็จะมีโทษจำคุกถึง 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท แต่ในโลกของความเป็นจริงคงไม่มีลูกจ้างคนไหนกล้าไปแจ้งความเอาผิดนายจ้าง
ดังนั้น กกต.จึงควรทำหน้าที่กระตุ้นเตือนผู้ประกอบการ เพราะหากมีผู้มาใช้สิทธิ์น้อย กกต.ต้องมีส่วนรับผิดชอบ เพราะขณะนี้ยังไม่เห็นบทบาทของ กกต. ในการกระตุ้นและสร้างการรับรู้ต่อการเลือกตั้ง อบจ. ในวันที่ 1 ก.พ. 2568 ทั้งที่เป็นการเลือกตั้งท้องถิ่นซึ่งมีความสำคัญ และเกี่ยวข้องกับการใช้งบประมาณจำนวนมาก
พร้อมกล่าวถึงกรณีที่ถูกคนข่มขู่หมายเอาชีวิต ในพื้นที่หาเสียง อบจ.จังหวัดจันทบุรี ว่า ตนคิดว่าในยุคสมัยใหม่ ชาวจันทบุรีก็ไม่ได้คาดหวังที่จะเห็นการเมืองที่ใช้ความรุนแรงอีกแล้ว และเชื่อว่าประชาชนอยากเห็นการเมืองที่วิพากษ์วิจารณ์นโยบายที่อยู่ในเนื้องานอย่างไปตรงมา และนำเสนอนโยบายที่แตกต่างกัน เพื่อให้ประชาชนตัดสินใจ
นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า ถ้าอีกฝั่งที่เป็นผู้แข่งขัน เห็นว่า นโยบายของเรายังไม่ตอบโจทย์ตรงไหน หรือมีช่องว่างช่องโหว่ตรงไหน จะวิพากษ์วิจารณ์กลับมา หรือเสนอนโยบายที่ดีกว่า เราก็น้อมรับ เพราะประชาชนได้ประโยชน์ แต่เรา และชาวจันทบุรีก็ไม่ได้คาดหวังว่า อีกฝ่ายไม่มีนโยบายนำเสนอ หรือวิพากษ์วิจารณ์นโยบายได้ ก็ใช้ความรุนแรง หรือใช้การข่มขู่แบบนี้ ซึ่งตนเชื่อว่า ชาวจันทบุรี และจังหวัดอื่นๆ จะตัดสินใจได้ ว่าควรจะเลือกใครที่พวกเขาสามารถฝากความหวังในการขับเคลื่อนนโยบายได้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ได้พูดคุยกับคู่กรณีแล้วใช่หรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า ตนก็พูดคุย โดยให้พนักงานสอบสวนเป็นพยานด้วย เพื่อความโปร่งใสว่าไม่ได้ไปกล่าวหาเขา ซึ่งจากการพูดคุย เขาก็ยอมรับใน 2 ข้อเท็จจริง คือ 1.เขาเป็นผู้รับติดตั้งป้ายของผู้สมัครอีกรายที่เป็นคู่แข่งขัน เราก็กังวล เพราะเขามีความเกี่ยวพันในฐานะผู้ติดป้าย 2. เขาก็ยอมรับว่าพูดจริง แต่ก็บ่ายเบี่ยงว่าไม่ได้เจตนาจะทำแบบนั้น
สำหรับตนนั้น ก็ไม่ได้อยากจะดำเนินคดีกับประชาชนอยู่แล้ว เมื่อเขายอมรับข้อเท็จจริงต่อหน้าตำรวจแล้ว และขออภัยกัน ตนก็ให้อภัย และตักเตือนว่าอย่าทำแบบนี้เลย ขอให้ทำการเมืองที่พูดตรงไปตรงมา หรือนำเสนอนโยบายที่ดีกว่า เพราะการวิพากษ์วิจารณ์ก็ต้องพูดปัญหา และทางออกอยู่แล้ว และควรจะยอมรับทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อให้ประชาชนได้ใช้วิจารณญาณตัดสินในวันที่ 1 ก.พ.นี้ ซึ่งตนเองก็ใจกว้าง และให้โอกาสเขา พร้อมเดินหน้าทำงานต่อไป
“เราในฐานะที่เราวิพากษ์วิจารณ์กับการทำงานที่เกิดขึ้น และเราเชื่อว่าจันทบุรีไปได้ไกลกว่านี้ด้วยนโยบายของเรา เราก็ยอมรับถ้านโยบายของเราจะถูกวิพากษ์วิจารณ์กลับมาเหมือนกัน และให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ” นายวิโรจน์ กล่าว
ส่วนจะทำให้ผู้สมัครของพรรค โดยเฉพาะพื้นที่บ้านใหญ่ จะใจเสียหรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า ไม่เลย เพราะเราก็แข็งขัน อย่างตนโดนวันรุ่งขึ้น ตนก็เดินหน้าหาเสียงต่อไป เพราะเราเชื่อว่า เราทำในสิ่งที่ถูกต้อง และนำเสนอทางออกของพี่น้องประชาชนแต่ละจังหวัด เช่น จังหวัดจันทบุรีก็บริหารแบบเดิมๆ มา 28 ปี จึงอยากให้ชาวจันทบุรีได้ตัดสินใจว่า จะเอาแบบเดิม หรือจะเอาแบบใหม่ เพื่อให้วันที่ 1 ก.พ.ได้ตัดสินใจ
แท็กที่เกี่ยวข้อง วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ,พรรคประชาชน ,ข่าวการเมือง