เลือกตั้งและการเมือง

"จุลพันธ์"ชี้ลงทุน“เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ไม่จำกัดสัญชาติ “โรม” หวั่นถูก“จีนเทา”ฮุบ ใช้ฟอกเงิน

โดย paranee_s

14 ม.ค. 2568

116 views

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ ว่า เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไม่ได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ว่า ตนยังไม่ได้ยินเลย เพราะความเห็นของสภาพัฒน์ ที่ส่งมาที่คณะรัฐมนตรีไม่ได้มีประเด็นนี้ ถ้าตนจำไม่ผิด เขาให้ดูเรื่องผลกระทบ เพราะกฎหมายนี้ต้องออกมา ควบคุม กำกับ ดูแล พร้อมกับเยียวยา รวมไปถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งการพนันอาจไม่ทำให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจที่ถูกต้อง แต่การศึกษาของกระทรวงการคลัง เกิดผลกระทบใน 2 ช่วง คือ ช่วงก่อสร้าง GDP โตตกปีละ 0.2 % ซึ่งไม่รวมการพนันหรือ Gaming อะไร เป็นเรื่องปกติ และการที่จะนำมาคำนวณเป็น GDP จะต้องมีการผลิตเกิดขึ้นในหลายส่วน จึงยืนยันว่า มันมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจอยู่แล้ว เพราะมูลค่ามันกว่าแสนล้าน แต่ถ้าเรามีมากกว่า 1 จุดมันก็จะมีการเติบโตมากกว่านั้น ซึ่งตัวเลขนี้เป็นเพียงการประเมินเรื่องของการลงทุน ยังไม่ใช่ผลพลอยได้ เนื่องจากโครงการที่จะทำ คือ Man -made destination ซึ่งในพื้นที่จะต้องมี ธุรกิจเกี่ยวเนื่องอีกมากมาย ที่จะสร้างรายได้ให้กับประชาชนรอบพื้นที่ และสามารถเก็บรายได้เข้ารัฐได้



เมื่อถามว่าได้วาง Timeline ไว้หรือไม่ ว่า ร่างกฎหมายจะมีผลบังคับใช้เมื่อไร นายจุลพันธ์ กล่าวว่า เร็วที่สุด รัฐบาลชุดนี้ทำงานเร็วอยู่แล้ว ตนเข้าใจว่าหลายอย่างมีขั้นตอนตามกฎหมาย มันมีกระบวนการที่อยู่นอกเหนือมือของพวกตน แต่เราทราบว่า การขับเคลื่อนเรื่องนี้ เป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ จึงเชื่อว่า ไม่มีใครชักช้า ซึ่งขณะนี้ อยู่ในมือของคณะกรรมการกฤษฎีกา คาดว่า ไม่นาน เพราะความล่าช้าเป็นต้นทุนทางโอกาส และถ้าล่าช้าความแตกต่างของผลประโยชน์ ที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนมันจะเห็นได้ชัด พร้อมย้ำว่าเรื่องนี้เป็นประโยชน์ ไม่เหมือนกับที่หลายสำนักข่าวไปบอกว่าเป็นกาสิโน และ เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ มันก็ทำให้เกิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งมีความจำเป็นจะต้องออกกฎหมายเฉพาะ เพราะการลงทุนบางประเภท ไม่สามารถดึงดูดด้วยกลไกปกติได้ จึงต้องใช้กลไกและกฎหมายพิเศษ ในการที่จะขับเคลื่อนได้จริง แต่ก็ยอมรับว่าถ้าจะให้บังคับใช้ได้ไตรมาส 3 ก็ตรึงมาก ส่วนไตรมาส 4 ก็ตอบไม่ได้จริงๆ



นายจุลพันธ์ ยังกล่าวต่อด้วยว่า สำหรับบริษัทที่จะลงทุน จะต้องเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในไทย แต่ไม่ได้จำกัดเรื่องของสัญชาติ เพราะจะมีการเขียนกฎหมาย ให้ผู้ลงทุนต้องมีทุนจดทะเบียน 10,000 ล้านบาท เพื่อเป็นการคัดกรอง ให้รู้ว่าคนที่เข้ามาเป็นเบอร์ใหญ่ และเป็นนักลงทุนจริง เพราะการทำโปรเจ็กขนาดนี้ต้องเป็นคนที่มีความพร้อมและมีศักยภาพ มีประสบการณ์ เคยทำธุรกิจประเภทนี้มาก่อน



นายจุลพันธ์ ยืนยันด้วยว่าตนยังไม่เคยพบกับใครตามที่เป็นข่าว แล้วก็ไม่ต้องมีใครมาพบตนด้วย เพราะตนมีหน้าที่ทำกฎหมาย แต่เรื่องสถานที่ ใครทำอะไรที่ไหน จะมีคณะกรรมการที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยจะมีการเขียนกฎหมายให้รอบคอบและรัดกุม โปร่งใสตรวจสอบได้ ซึ่งเป็นหน้าที่ของตนที่จะทำกฎหมายให้คลีนที่สุด ใครจะได้ทำอะไรที่ไหน ต้องเสนอเข้ามาแข่งขันกัน และรัฐก็จะได้ประโยชน์จากมิติต่างๆทั้งการจัดเก็บภาษี มิติสังคมและสิ่งปลูกสร้างที่จะเกิดขึ้นมา อะไรที่จะว้าว ก็ต้องไปวัดกันข้างหน้า



ส่วนที่ภาคเอกชนมีความสนใจเป็นอย่างมากก็ต้องขอขอบคุณ เพราะมันแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยมี ความพร้อมและศักยภาพ ทำให้ทั้งในและต่างประเทศพร้อมโดดมาลงทุน โดยยืนยันว่า ไม่มีเรื่องของเส้นสาย หรือ เกี้ยเซียะอะไรในรัฐบาล เพราะในรัฐบาลไม่มีใครกล้าทำ



เมื่อถามว่าภาคเอกชนกังวลเรื่องความการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม นายจุลพันธ์ กล่าวว่า อยู่ที่การร่างกฎหมายและกลไก การตรวจสอบมีเยอะแยะ ทั้งนักร้อง จึงเชื่อว่าไม่มีใครกล้าทำ



ขณะที่ นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงท่าทีของฝ่ายค้านหลังจากที่ ครม.มีมติผ่านร่างพระราชบัญญัติ การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) ว่า ในเรื่องนี้ที่ผ่านมามีกลุ่มจีนเทามาถึงรัฐสภา เพื่อมาพรีเซนต์ราวกลับเข้ามาขายงาน ซึ่งกลุ่มจีนเทาไม่ใช่ใครคือบริษัทหย่าไถ้ คือเจ้าของชเวโก๊กโก ที่เป็นประเด็นมาก่อนหน้านี้



ดังนั้นหากรัฐบาลจะเดินหน้าในเรื่องนี้ต้องเผชิญกับความต้องการ ความมุ่งหมายของกลุ่มจีนเทาที่จะเข้ามา ซึ่งตนเป็นห่วงว่าอาจจะเข้ามาในฐานะผู้ประกอบการ และอาจจะนำเงินที่ผิดกฎหมาย มาฟอกเงินผ่านกาสิโนที่จะเปิดขึ้นในประเทศไทย จึงคือสิ่งที่รัฐบาลจะต้องเตรียมการ ตนในฐานะ สส. แทบไม่เห็น รัฐบาลสื่อสารหรือออกมาพูดเรื่องนี้เลย และไม่เห็นความพยายามของรัฐบาล ที่จะทำความเข้าใจต่อประชาชน ดังนั้นส่วนตัวของตนเป็นห่วงว่าหากมีการเปิดกาสิโน สิ่งที่จะตามมาคือจะรับมือกับทุนจีนสีเทาอย่างไร



ปัญหาที่สองคือเรื่องโครงสร้างกฎหมายระบบราชการ มีความพร้อมเพียงใดในการรับมือกับเรื่องนี้ นอกจากเจอปัญหาเรื่องบัญชีม้า ซิมม้า ปัญหาของทุนจีนสีเทาที่ใช้การฟอกเงิน และเจอปัญหาเรื่องการค้ามนุษย์ที่ใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน ดังนั้นคำถามคือรัฐบาล มีแนวทางการแก้ปัญหาเหล่านี้อย่างไร และประเด็นที่สาม เรื่องของความโปร่งใส ถ้าร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ เป็นร่างที่เคยมีการรับฟังความเห็น จากประชาชนมาแล้ว ตนมีความเป็นห่วงในเรื่องของการคอร์รัปชันที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเลือกสถานที่ว่าใครจะได้ประโยชน์ในการเลือกให้ใบอนุญาต ตนจึงเป็นห่วงว่า อาจเกิดปัญหาเรื่องการล็อกสเป็ก ดังนั้นเมื่อนำเหตุผลมาประกอบทั้งหมดตนจะมีความกังวลจริงๆ ว่าการที่รัฐบาลจะเร่งรัดเรื่องของ เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ อาจจะอันตรายต่อประเทศไทยได้



เมื่อถามเหตุผลของรัฐบาลที่จะดึงเม็ดเงิน 1 แสนล้านบาท เข้าสู่ประเทศจึงเกิดการเร่งรัดในเรื่องนี้ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าประเทศไทย กำลังเจอปัญหา 2 อย่าง คือการถูกดึงเม็ดเงินออกด้วยธุรกิจสีเทาด้วยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 1 แสนล้านบาท เรื่องพนันออนไลน์ และ ปัญหายาเสพติด ซึ่งก็เข้าใจว่าทุกรัฐบาลอยากให้มีเม็ดเงินไหลเข้ามา แต่ประเด็นประเด็นที่ต้องพิจารณาต่อ จะได้เม็ดเงินเป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่ ซึ่งอย่าลืมว่าเรื่องนี้ต้องมีคู่แข่ง เช่น มาเก๊า สิงคโปร์ หรือที่โอซาก้าประเทศญี่ปุ่น หากมีการสร้างสำเร็จ อาจทำให้ประชาชนรู้สึกว่าไม่มีความจำเป็น ขณะเดียวกันในพื้นที่ กทม. ก็มีโรงแรมและห้องประชุม ครบอยู่แล้ว เพียงเติมกาสิโนเข้าไป ก็กลายเป็นเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หรือเช่นที่พัทยา และ ภูเก็ต ก็มีทุกอย่างพร้อมอยู่แล้ว เติมกาสิโนไปก็เป็นเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ดังนั้นแทบจะไม่มีความจำเป็น จะต้องคิดถึงการลงทุนจำนวนมากมายมหาศาล

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ