วันนี้ (30 ธ.ค. 2567) ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคประชาชน ถึงความเคลื่อนไหวของ สส. พรรคช่วงปีใหม่ โดยเป็นที่ฮือฮาในโลกออนไลน์ เมื่อนายฉัตร สุภัทรวณิชย์ สส.นครราชสีมา เขต 1 ขึ้นป้ายบิลบอร์ด อวยriปีใหม่ให้กับประชาชนในพื้นที่ ว่า “สวัสดีปีใหม่ ทำบาปมาทั้งปี สวดมนต์ข้ามปีแค่วันเดียว?”
จากนั้น ได้มีคนถ่ายภาพและแชร์ลงโซเชียล วิจารณ์กันเป็นเสียงแตก เช่น ซื้อใจประชาชนด้วยการด่า พี่ซื้อใจใครอะคะ แหะ ๆ , ชาวโคราชที่เลือก สส.ท่านนี้เข้ามาทำหน้าที่ จงไตร่ตรองให้ถี่ถ้วนเถิด ประเทศไทยเป็นเมืองพุทธ ประชาชนส่วนมากเข้าวัดเข้ามาทำบุญ ส่วดมนต์ ก็เป็นที่พึ่งทางใจ แต่กลับมีสส.โคราชบ้านท่านตั้งคำถามเหมือนกับไม่ใช่ชาวพุทธ ไม่รู้ขนบธรรมเนียมประเพณี บางคนเป็นสลิ่มมาครึ่งชีวิต จะมาเป็น ปชต. แค่ 6 ปี? , ขอแสดงความยินดีกับคนโคราชเขต 1 ด้วยนะครับที่มี สส.คุณภาพแบบนี้ เป็นต้น
ขณะที่นายฉัตร ยังได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับการทำความดีอีก ว่า รู้จัก “บุญกิริยาวัตถุ 10” ทางแห่งการทำดี 10 ประการ ในทางพระพุทธศาสนา มีการทำบุญด้วยกัน 10 วิธี เรียกว่า บุญกิริยาวัตถุ 10 ที่ตั้งแห่งการกระทำความดี ทางกาย วาจา และ ทางใจ ได้แก่
1. ทานมัย บุญสำเร็จจากการให้วัตถุเพื่อสงเคราะห์หรือบูชาแก่ผู้อื่น
2. สีลมัย บุญสำเร็จจากการงดเว้นจากทุจริต หรือประพฤติสุจริตทางกาย วาจา
3. ภาวนามัย บุญสำเร็จจากการอบรมจิตให้สงบจากกิเลส และการอบรมปัญญาเพื่อละกิเลสทั้งปวง
4. อปจายนมัย บุญสำเร็จจากการประพฤติอ่อนน้อมถ่อมตน
5. เวยยาวัจจมัย บุญสำเร็จจากการขวนขวายบำเพ็ญประโยชน์ต่อผู้อื่น
6. ปัตติทานมัย บุญสำเร็จจากการให้ส่วนบุญที่ได้บำเพ็ญมาแล้ว
7. ปัตตานุโมทนามัย บุญสำเร็จจากการยินดีในกุศลที่ผู้อื่นได้กระทำแล้ว
8. ธัมมัสสวนมัย บุญสำเร็จจากการฟังพระสัทธรรม
9. ธัมมเทสนามัย บุญสำเร็จจากการแสดงพระสัทธรรม
10. ทิฏฐุชุกัมม์ ทำความเห็นให้ตรงถูกต้องตามความเป็นจริง
ต่อมา นายฉัตร สุภัทรวณิชย์ สส.นครราชสีมา พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงดรามาป้ายอวยพรปีใหม่ ทำบาปมาทั้งปี สวดมนต์ข้ามปีแค่วันเดียว ว่า ป้ายนี้ เป็นความตั้งใจที่จะสวัสดีปีใหม่กับทุกคน ซึ่งเรามีภาษาที่อยากจะชวนให้คิด เช่น การสวดมนต์เป็นกิจกรรมที่ดี แต่วันเดียวจะพอหรือ สัก 2-3 วันได้หรือไม่ ตนคิดว่าหลายคนอ่านป้ายแล้วก็ยิ้ม มันก็ชวนให้คิดทบทวนในการส่งท้ายปีเก่า สิ่งที่เราได้ทำมาตลอดปี หลายคนคงนึกถึงว่าจะไปทำบุญที่นั่นที่นี่
“เราสื่อสารที่คิดว่าเวลาคนเห็น อ่านป้ายแล้วอมยิ้ม เพราะบางทีแทนที่จะสวัสดีปีใหม่ทั่วไป แต่ยอมรับว่าอย่างวันสองวันนี้ พอเริ่มมีการพูดถึงกัน เกิดคนที่ไม่สบายใจ ต้องกราบขออภัย แต่ย้ำว่าเราไม่ได้ถามว่าจะสวดไปทำไม ไม่ได้มีเจตนาแบบนั้น เราถามว่าสวดวันเดียว มันจะพอหรือ ถ้าสวดส่งท้ายปีเก่า ปีใหม่ส่วนอีกสักวันดีไหม” นายฉัตร กล่าว
นายฉัตร กล่าวต่อว่า หลายคนมีการพูดถึงบุญกิริยาวัตถุ 10 หลายคนนอกจากสวดมนต์ทุกวันเรื่อยๆ ยังมีการทำความดีด้านอื่น เช่น การสละทาน ฟังธรรม มีอีกหลายวิธี หากใครไม่ถูกใจตนต้องกราบขออภัย
“ถ้ามีหลายท่านไม่สบายใจ ผมกราบขออภัยจริงๆ ไม่เลี่ยง ไม่อะไรเลย ขอกราบขออภัย แต่ว่าอยากเชิญชวนให้ดูที่เจตนา ดูที่คำพูด ว่าสวดแค่วันเดียวอย่างนั้นหรือ เราไม่ได้โจมตีว่าสิ่งนั้นมันไม่ดี ผมบอกว่าไม่ดีนะ แต่วันเดียวมันจะพอหรือ เป็นการเปิดให้พูดคุยกันว่าเราควรไปทำสิ่งดีๆ เรื่องอื่น ๆด้วยและการสวดมนต์ ถ้าคิดว่ามันวันเดียวไม่พอ ถ้ามีโอกาสและสะดวก สวดมนต์ทุกวันถือเป็นเรื่องดี” นายฉัตร กล่าว