เลือกตั้งและการเมือง

ตบเท้าวิจารณ์ ฉายารัฐบาลพ่อเลี้ยง 'อิ๊งค์' ยิ้มรับ บอกเป็นแพทองแพด 'พิธา' ไม่เห็นด้วย มองด้อยค่านายกฯ

โดย passamon_a

24 ธ.ค. 2567

155 views

นายกรัฐมนตรี ไม่โกรธฉายาการเมือง มองเป็นสีสัน บอกตัวเองไม่ได้เป็นแพทองโพย แต่ เป็นแพทองแพด ยอมรับวาทะแห่งปีก็สามีเป็นคนใต้ เผยนึกไม่ออกว่าเกลียดใคร ไม่ชอบก็ถอยห่าง เพราะหากเกลียด-เคลียดแล้วเหนื่อย ส่วน ฉายา รัฐบาลพ่อเลี้ยง ก็ดีช่วยทำงาน เพราะพ่อมีประสบการณ์

วานนี้ 23 ธ.ค.2567 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯรัฐมนตรี เดินลงมาจากตึกไทย คู่ฟ้า มาหาสื่อฯประจำทำเนียบรัฐบาล โดยอ้างว่ามาพบสื่อฯเพื่อจะสอบถามเรื่องอาหารที่จะนำมาจัดเลี้ยงปีใหม่ทำเนียบรัฐบาลในวันพรุ่งนี้ ( 24 ธ.ค.) พร้อมพูดติดตลกว่า ”พรุ่งนี้ไม่สัมภาษณ์นะ” และกล่าวถึงฉายาที่ได้รับเป็นปีแรก ว่า “แพทองโพย” ว่าเราเป็นแพทองแพด เราใช้ไอแฟด ไม่ได้ใช้โพย ซึ่งสื่อฯก็บอกว่าข้อมูลอยู่ในไอแฟด ซึ่งนายกฯ ก็ตอบกลับว่าแซวเล่น ก่อนตอบกลับ ว่าปีใหม่แล้วสดใสกันหน่อย พร้อมชี้ตัวเองว่าใส่เสื้อสีสัน และบอกกับสื่อฯ ว่าไม่โกรธสื่อฯ

และพูดถึงฉายารัฐบาลพ่อเลี้ยง พร้อมหัวเราะ และกล่าวว่าไม่โกรธเลย โดยสื่อฯพยายามอธิบายกับนายกรัฐมนตรี ว่า พ่อส่งในเรื่องของแนวทางการทำงาน ซึ่งนางสาวแพรทองธาร กล่าวตอบว่าเป็นเรื่องดี เพราะคุณพ่อมีประสบการณ์ เรื่องเศรษฐกิจคุณพ่อก็ดี บางอย่างที่ปรับใช้กับยุคนี้ได้ ยิ่งเป็นเรื่องดี เราต้องหัดมองมุมที่มันดีบ้าง

“อย่าให้เป็นดราม่า ต้องทะเลาะกัน เหนื่อย ชีวิตทุกคนทำงานมาทั้งปีแล้ว เป็นโหมดต้องแฮปปี้แล้ว ทำงานผ่านมาแล้วปีหนึ่ง แฮปปี้ มีความสุข ภูมิใจกลับอะไรบ้าง ให้ทุกคนคิดแบบนี้ รวมถึงจะปรับปรุงอะไรบ้าง อย่าไปบี้ตัวเอง หรือทำให้รู้สึกว่าแย่ มันจะปีใหม่แล้ว อากาศก็ดี สดชื่น สดใส ขอให้ทุกคนได้พักผ่อน อย่าไปเครียดมาก มีเรื่องเครียดในชีวิตเยอะแล้ว”

ส่วนวาทะแห่งปี สามีเป็นคนใต้ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่าก็ยอมรับสามีเป็นคนใต้ คุณพ่อเป็นคนเหนือ คุณแม่ภาคกลาง ส่วนพี่ๆ เป็นลูกครึ่ง ดีค่ะ เพราะเป็นเรื่องจริง เป็นความจริง ก็เป็นคนใต้จริง ๆ พร้อมย้ำว่าตัวเองเป็นลูกครึ่ง พ่อคนเหนือ แม่เป็นคนภาคกลาง ก่อนถามสื่อว่าทุกคนเป็นคนภาคไหนกันบ้าง

เมื่อสื่อถามว่า คำว่าสามีเป็นคนใต้ ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียล ซึ่งนายกฯก็ย้อนถามกลับว่าวิจารณ์ในเรื่องอะไร สื่อฯ กล่าวต่อว่านายกรัฐมนตรีไม่ลงพื้นที่พักใต้เพราะไม่มีฐานเสียงในภาคใต้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ชาวเน็ตสะท้อนมา น.ส.แพทองธาร ก็กล่าวว่า ไม่ว่าจะอยู่จังหวัดไหน ต้องดูแลหมด การที่จะลงพื้นที่ สมมุติว่าน้ำท่วมทุกจังหวัด นายกฯไปคนเดียวไม่ไหวแน่นอน ครม.มีหลายคนก็ช่วยกันไป รวมถึง สส. ขั้นแรกต้องดูแลประชาชนในพื้นที่ก่อน ยืนยันตนเองถ้าไปเองได้ไปทันที ตอนต้นเดือนสื่อฯก็น่าจะเห็นตารางงานแล้วว่าแน่น ตั้งแต่เดือน พ.ย.จนถึง ธ.ค. ซึ่งถ้าไปได้ก็ไป

ส่วนการเยียวยาเคาะให้ภาคใต้เร็วที่สุด ซึ่งถ้ามีประเด็นกับภาคใต้คงไม่เคาะให้เร็วที่สุด และคงไม่ทำ พร้อมบอกว่าตนเองเป็นหนึ่งคนที่ผ่านอะไรมาเยอะในชีวิต ตั้งแต่เด็กที่เจอเรื่องการเมือง แต่จะให้นึกว่าให้เกลียดใครนึกไม่ออก เพราะไม่ค่อยเกลียดใคร เพราะมันเหนื่อย “จึงรู้สึกว่าไม่ต้องเกลียด ถ้าเราไม่ชอบ เอ็นเนอร์จี้เรากับคนนั้นๆไม่ได้ ก็แค่ถอยมา ถ้าจะต้องไปเกลียดหรือไม่ชอบใครมันเหนื่อย พร้อมถามกลับว่าเคยไม่ชอบคนหรือไม่ มันเหนื่อย”  

เมื่อสื่อถามว่าแสดงว่า นายกรัฐมนตรีมีภูมิคุ้มกันทางการเมืองมาตั้งแต่เด็ก นายกฯ กล่าวว่าก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเรียกว่าภูมิคุ้มกันหรือไม่ แค่รู้สึกว่าเราไม่ชอบตรงไหนเราก็ถอยออกมา อยู่ในจุดที่เราโอเค เราแฮปปี้ เราเป็นประโยชน์ได้ก็ตรงนั้น อย่าไปเกลียดใครมากเพราะมันเหนื่อย

เมื่อถามว่า เมื่อฟังเสียงสะท้อนจากสื่อและโซเชียลในปีหน้า นายกฯตั้งเป้ายังไง น.ส.แพทองธาร กล่าวว่าเป้าของตัวเองคือความเดือดร้อนของประชาชน จะต้องได้รับการแก้ไข อะไรเดือดร้อนต้องแก้ก่อน แต่บางอย่างต้องใช้เวลาในการแก้ เช่นการวางแผนในเรื่องเศรษฐกิจ เพิ่มการสร้างรายได้ ต้องรีบทำคู่กัน อะไรที่คิกออฟได้ต้องออกให้หมด อะไรที่จะซัพพอร์ตประชาชนได้ต้องออกให้หมด นั่นคือเป้าหมาย ส่วนจะมีการดราม่าก็ขอให้เป็นเรื่องๆ ไป

----------------------------------

"พิธา" ไม่เห็นด้วยฉายา "แพทองโพย" มองด้อยค่านายกฯ แนะ “อุ๊งอิ๊ง” ใช้เวทีสภา  แสดงภาวะผู้นำเชื่อจะลบข้อครหา รัฐบาลพ่อเลี้ยงได้ ลั่นต้องทำให้เห็น ว่า ไม่ได้พึ่งบารพ่อ เหน็บ "รอพี่ทวีคนเดิมอยู่" หลังได้ ฉายา "ทวีไอพี" เชื่อยุติธรรมได้มากกว่านี้

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงการตั้งฉายารัฐบาลของสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล ว่า สำหรับฉายานายกรัฐมนตรี "แพทองโพย" ตนมองว่า คุณอุ๊งอิ๊ง ชื่อ แพทองธาร การเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ที่เนื้อหา อยู่ที่วิสัยทัศน์ การสื่อสารมันต้องมีข้อมูลมีโพยบ้าง อย่าไปถือสาหรือไปติดใจอะไรแบบนี้เลย ให้ดูการทำงานดีกว่า ว่า มีกลยุทธ์หรือมีการบริหารจัดการคณะรัฐมนตรี บริหารอย่างไรให้องคาพยพสามารถแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน อย่าติดที่ฟอร์มเล็กๆน้อยๆดูที่เนื้อหาดีกว่า ตนรู้จักกับคุณอุ๊งอิ๊ง มานาน แกชื่อแพทองธาร ไม่ใช่ แพทองโพย และฉายาอะไรที่ตนคิดว่าไปด้อยค่าหรือเป็นเรื่องส่วนตัว ตนก็ไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่ เขาก็คงพยายามตั้งใจทำงานเต็มที่ ถือโอกาสปีใหม่ก็เป็นกำลังใจให้กับคุณแพทองธารด้วย และก็ให้คุณณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ด้วยเช่นเดียวกัน

ส่วนฉายารัฐบาลพ่อเลี้ยง นายพิธา กล่าวว่า ถ้าในเชิงการเมือง ในอาเซียน มักจะมีผู้นำตัวแทนหรือเรียกว่า Proxy Leadership ทุกประเทศในอาเซียนตอนนี้ก็จะเหมือนว่ามีพ่ออยู่แล้ว ก็จะมีลูก เป็นผู้นำประเทศ อันนี้เป็นคำถามระดับนานาชาติ ที่คิดว่าคุณแพทองธาร ต้องพิสูจน์ตัวเอง ว่า เป็นตัวของตัวเอง สามารถคิดได้ด้วยตัวเอง ตั้งยุทธศาสตร์ได้ด้วยตัวเอง บริหารคนได้ด้วยตัวเอง และก็ตอบโจทย์ความท้าทาย ศักยภาพของประเทศได้ด้วยตัวเอง ก็จะทำให้คำสบประมาทอันนี้ ก็จะหายไป

"อันนี้มันสำคัญที่จะต้องโชว์ให้เห็นว่า เขาไม่ได้ต้องพึ่งบารมี ความคิดของคุณพ่อเขา หรือคุณทักษิณ อันนี้เป็นเรื่องสำคัญ แต่แพ้ท่องโพยเขาชื่อแพทองธาร"

เมื่อถามว่าคุณทักษิณ มีอิทธิพลเหนือคุณแพทองธารมากใช่หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ทุกวันนี้ ขึ้นอยู่กับคุณแพทองธาร ว่า จะพิสูจน์อย่างไร ว่า เขาสามารถเป็นตัวของตัวเองได้ โดยไม่ต้องรอคุณพ่อ เพราะหลายๆเรื่องที่พูดคุยกันมา ก็ไม่ได้ออกมาจากปากคุณแพทองธาร ตนในฐานะที่รู้จักกันมานาน ขอแนะนำ ให้คุณแพทองธาร ใช้เวทีสภาให้เป็นประโยชน์ แสดงภาวะผู้นำให้เป็นประโยชน์ เพราะคุณทักษิณ ลงพื้นที่ปราศรัยหลายพื้นที่ ทั้งอีสาน แล้วก็มีการโชว์วิสัยทัศน์ แต่ในขณะเดียวกันพื้นที่ ที่เป็นพื้นที่คุณแพทองธารเข้าได้ และคุณทักษิณเข้าไม่ได้ ตนก็เข้าไม่ได้ คือ รัฐสภา ดังนั้น ถ้าผู้นำฝ่ายค้านใช้กลไก คุณแพทองธาร ควรใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์ เข้าสภาบ่อยๆจะได้โชว์ภาวะผู้นำโชวิสัยทัศน์ ความเป็นตัวของตัวเองให้คนไทยได้ทราบ เชื่อว่าครบปีหน้าคำว่า "รัฐบาลพ่อเลี้ยง" ก็จะหมดข้อครหาไปในตัว

เมื่อถามว่า อย่างรัฐมนตรียุติธรรมได้ฉายา "ทวี ไอพี" นายพิธา กล่าวว่า ตนคิดถึงคุณทวี ช่วงที่เคยเป็นฝ่ายค้านด้วยกันมา อย่างเรื่องเกี่ยวกับเขากระโดง เขาก็เริ่มต้นอภิปรายไม่ไว้วางใจ และจำได้ว่าคุณทวี มีบทบาทเยอะกับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ตอนนี้ทุกเรื่องกลับมาเป็นเรื่องใหญ่ แต่ยังไม่เคยได้ยินคุณทวีพูดถึงเลย รวมถึงเรื่อง "โกทร" ที่ปราจีนบุรีด้วย

"ตนจึงอยากเห็นพี่ทวีคนเดินกลับมา ว่าตอนที่เป็นฝ่ายค้าน ได้พูดเรื่องนี้ฉะฉาน มีข้อมูลเยอะ พอมันมีคำถามพวกนี้ขึ้นมา ในฐานะที่เป็นรัฐมนตรียุติธรรม ก็ต้องยุติธรรม ตนก็รอพี่ทวีในปีหน้าอยู่"

เมื่อถามว่าแสดงว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ไม่ยุติธรรมใช่หรือไม่ นายพิธา ตอบว่า" มันก็ยุติธรรมได้มากกว่านี้" นายพิธา กล่าว

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/Vn2KBe5SPtM

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ