เลือกตั้งและการเมือง

'ดุสิตโพล' 3 เดือน รบ.อิ๊งค์ ยังไม่เชื่อมั่นแก้เศรษฐกิจ - 'ซูเปอร์โพล' อนุทิน-เอกนัฏ ผลงานเข้าตามากสุด

โดย passamon_a

15 ชั่วโมงที่แล้ว

46 views

เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.67 สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง 3 เดือนรัฐบาลแพทองธาร กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,162 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 10-13 ธันวาคม 2567 รวม 6 คำถาม (ผู้ตอบสามารถระบุความคิดเห็นได้มากกว่า 1 เรื่อง) สรุปผลได้ดังนี้


1. ประชาชนคิดว่าจุดแข็งของรัฐบาลแพทองธาร (น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี) คืออะไร อันดับ 1 มีที่ปรึกษาที่มีประสบการณ์ 49.38% อันดับ 2 คณะรัฐมนตรี (ครม.) ทำงานไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ค่อยมีความขัดแย้ง 37.17% อันดับ 3 เข้าถึงประชาชน เข้าถึงง่าย 35.42%


2. ผลงาน 3 เดือนของรัฐบาลเป็นอย่างไรในสายตาของประชาชน อันดับ 1 ยังประเมินไม่ได้ 39.85% อันดับ 2 ต่ำกว่าที่คาดหวัง 28.14% อันดับ 3 เป็นไปตามที่คาดหวัง 24.96% อันดับ 4 ดีกว่าที่คาดหวัง 7.05%


3. ประชาชนเชื่อมั่นการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลหรือไม่ อันดับ 1 ไม่เชื่อมั่น 54.99% อันดับ 2 เชื่อมั่น 45.01%


4. ประชาชนคิดว่านโยบายใดของรัฐบาลที่เห็นผลชัดเจนที่สุดใน 3 เดือนที่ผ่านมา อันดับ 1 แจกเงิน 10,000 บาท 71.44% อันดับ 2 กระตุ้นการท่องเที่ยว 56.69% อันดับ 3 บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 49.06%


5. ประชาชนคิดว่าเรื่องใดที่รัฐบาลควรเร่งดำเนินการแก้ไขโดยด่วน อันดับ 1 แก้ปัญหาค่าครองชีพ สร้างงาน เพิ่มรายได้ 70.84% อันดับ 2 แก้ปัญหายาเสพติด 61.53% อันดับ 3 แก้ปัญหาเศรษฐกิจทั้งระบบ 59.62%


6. สิ่งที่ประชาชนอยากฝากถึงนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ในฐานะผู้นำประเทศ อันดับ 1 ฟื้นฟูเศรษฐกิจ ลดค่าครองชีพ สร้างงาน สร้างรายได้ให้ประชาชนอย่างทั่วถึง 49.14% อันดับ 2 ปรับการสื่อสารให้ชัดเจน รับฟังปัญหา 44.50% อันดับ 3 ปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ ยาเสพติด ผู้มีอิทธิพล 39.36%


นางสาวพรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ระบุว่า จากผลโพลสะท้อนให้เห็นว่า ผลงาน 3 เดือนรัฐบาลแพทองธาร ยังประเมินไม่ได้ และบางส่วนมองว่าต่ำกว่าที่คาดหวังไว้ แม้นโยบายระยะสั้นจะสร้างความพึงพอใจให้กับประชาชนได้ระดับหนึ่ง แต่ในฐานะที่รัฐบาลมีที่ปรึกษามากประสบการณ์และขึ้นชื่อเรื่องการทำให้คนไทยมีกินมีใช้ ประชาชนจึงคาดหวังเห็นการเปลี่ยนแปลงที่สื่อสารเป็น เห็นผลชัด จับต้องได้ ให้มากขึ้น


ทางด้าน ผศ.ดร.เบญจพร พึงไชย ผู้ช่วยคณบดีโรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวเสริมว่า ภายใต้รัฐบาลแพทองธาร ผ่านมา 3 เดือน เสมือนช่วงทดลองงานสำหรับรัฐบาลไม้ต่อชุดนี้ ซึ่งในระยะเวลาที่เข้ามาต้องเผชิญสถานการณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาน้ำท่วม ความยากจน โดยเฉพาะปัญหาด้านเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อชีวิตของประชาชนมายาวนาน โดย 3 เดือนที่ผ่านมายังไม่เห็นการดำเนินงานแก้ไขปัญหาที่เป็นรูปธรรม สอดคล้องกับผลสำรวจที่สะท้อนว่าภาพรวมผลงาน 3 เดือนของรัฐบาลยังประเมินไม่ได้ ทำให้ประชาชนเกิดความไม่เชื่อมั่นในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ถึงร้อยละ 54.99 เพราะนโยบายที่รัฐบาลทำได้เพียงอย่างเดียว คือ แจกเงิน 10,000 บาท


สำหรับสิ่งที่ประชาชนต้องการมากที่สุด คือ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจเพื่อช่วยเรื่องปากท้องและรายได้ ซึ่งการแถลงครั้งนี้ไม่ได้มีการพูดถึงผลงาน แต่เป็นการกล่าวถึงสิ่งที่รัฐบาลจะทำในปีหน้า หากถึงเวลาที่ต้องแถลงผลงานครั้งต่อไปจะมีอะไรที่จับต้องได้และทัชใจประชาชนให้เกิดความเชื่อมั่นหรือไม่ คงต้องติดตามกันต่อไป


ขณะที่ สำนักวิจัย ซูเปอร์โพล รายงานผลสำรวจเรื่อง ประเมินผลงานกระทรวงสังคมและเศรษฐกิจ กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 1,156 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 10-14 ธันวาคม


เมื่อถามถึงรัฐมนตรีประจำกระทรวงด้านสังคมที่ประชาชนพึงพอใจ 3 อันดับแรก พบว่า กระทรวงมหาดไทย โดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ได้คะแนนสูงสุดอันดับหนึ่ง คะแนนเต็ม 10 คะแนน ได้ 7.52 คะแนน


โดยมีผลงานด้านการจัดระเบียบสังคม ทลายแหล่งมั่วสุมตามสถานบันเทิง การแก้ไขปัญหายาเสพติด การเยียวยาปัญหาน้ำท่วม ภัยพิบัติ การพัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยว เศรษฐกิจพอเพียง พึ่งพาตนเอง เศรษฐกิจสินค้าโอทอป (OTOP) และการพัฒนาท้องถิ่น สาธารณูปโภค น้ำ ไฟฟ้า ถนนหนทาง ที่ดินทำกิน สิ่งแวดล้อม พื้นที่สีเขียว ชีวิตความเป็นอยู่ทั่วไปของประชาชน การพัฒนาชุมชนและเมือง เป็นต้น


รองลงมาอันดับที่ 2 คือ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน ได้ 7.41 คะแนน โดยมีผลงานด้าน สิทธิประโยชน์ประกันสังคม การสนับสนุนให้ประชาชนมีงานทำ เพิ่มโอกาสการจ้างงานสำหรับประชาชน มีรายได้ มีความปลอดภัยในการทำงาน สวัสดิการสำหรับแรงงาน การดูแลผู้พิการ ทุพพลภาพ ผู้สูงอายุ พัฒนาทักษะฝีมือแรงงาน การฝึกอบรมในด้านเทคโนโลยีใหม่ ๆ สำหรับแรงงาน เป็นต้น


อันดับที่ 3 ได้แก่ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ 7.22 คะแนน โดยมีผลงานด้านการดูแลผู้สูงอายุในหลายด้านเช่น เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ การส่งเสริมสุขภาพ การพัฒนาดูแลผู้สูงอายุศูนย์พักฟื้นและกิจกรรมต่าง ๆ ของผู้สูงอายุ การให้ความรู้เพิ่มทักษะการเข้าถึงสิทธิและบริการต่าง ๆ การปกป้องคุ้มครองเด็กและเยาวชน การส่งเสริมรับรองสิทธิเด็ก การเยียวยาดูแลผู้ยากไร้ผู้ประสบภัยในชุมชนที่ขาดแคลน การพัฒนาที่อยู่อาศัย การแก้ปัญหาชุมชนแออัด เป็นต้น


เมื่อสอบถามถึงกระทรวงด้านเศรษฐกิจ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ที่ประชาชนพึงพอใจ 3 อันดับแรก ได้แก่ กระทรวงอุตสาหกรรม โดย นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม ได้คะแนนสูงสุดอันดับ 1 เมื่อคะแนนเต็ม 10 คะแนน ได้ 7.35 คะแนน


โดยมีผลงานการขยายตัวของอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า การพัฒนาการนิคมอุตสาหกรรม ทำคนไทยมีอาชีพในนิคมพื้นที่ต่าง ๆ อุตสาหกรรมรถยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ พลังงานทดแทนเป็นมิตรสิ่งแวดล้อม อุตสาหกรรมสีเขียว การแก้ปัญหากากสารพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม การใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ พัฒนาอาชีพคนไทยในนิคมอุตสาหกรรม การสนับสนุนธุรกิจ SME และการขับเคลื่อนเศรษฐกิจอุตสาหกรรมส่งออกสินค้าไทย เป็นต้น


อันดับที่ 2 ได้แก่ กระทรวงการคลัง โดย นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง ได้ 7.24 คะแนน โดยมีผลงานโดดเด่น ได้แก่ การแจกเงินดิจิทัลให้ประชาชนกระตุ้นเศรษฐกิจ การบริการของธนาคารออมสิน การส่งเสริมการลงทุน การกระจายรายได้ การยกเลิกการขึ้นภาษี การจัดการเงินทุนและสินทรัพย์ของรัฐ การบริการของธนาคารกรุงไทยกระตุ้นเศรษฐกิจกระจายรายได้ให้ประชาชนผ่านแอปพลิเคชันการเงินต่าง ๆ และการใช้เทคโนโลยีการเงินของกระทรวงการคลัง เป็นต้น


อันดับที่ 3 ได้แก่ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) โดย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดีอี ได้ 7.01 คะแนน โดยมีผลงานด้านการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีค้าขายออนไลน์ การซื้อสินค้า การบริการเทคโนโลยีดิจิทัล อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง การบริการของรัฐบาลดิจิทัล การสนับสนุนเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ Ai ในภาคธุรกิจ การแก้ปัญหามิจฉาชีพออนไลน์ แก๊งคอลเซนเตอร์ และความปลอดภัยทางไซเบอร์ เป็นต้น


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/O7HOZE4ch_g

คุณอาจสนใจ

Related News