เลือกตั้งและการเมือง

'แพทองธาร' แถลงผลงาน 90 วัน โชว์นโยบายปี 68 หนึ่งอำเภอหนึ่งทุน-ดิจิทัลวอลเล็ต-บ้านเพื่อคนไทย

โดย passamon_a

13 ธ.ค. 2567

43 views

เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.67 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการแถลงผลการดำเนินงานของรัฐบาลรอบ 3 เดือน ภายใต้ชื่อ 2568 โอกาสไทย ทำได้จริง : 2025 Empowering Thais: A Real Possibility และมอบนโยบายการบริหารราชการแผ่นดินโดยมีคณะรัฐมนตรี หัวหน้าส่วนราชการ ผู้ว่าราชการจังหวัด ผบ.เหล่าทัพ เข้าร่วมรับฟัง


โดยช่วงแรกเป็นการนำเสนอวีดิทัศน์ ในการเข้ามาทำงานตั้งแต่วันแรก การแก้ปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ การขับเคลื่อนนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ และกฎหมายสมรสเท่าเทียม เป็นต้น จากนั้นนายกฯแถลงผลงานและการแก้ปัญหา 11 นโยบาย โดยแบ่งเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกเป็นนโยบายระยะยาว ที่ต้องทำในเชิงโครงสร้าง 6 นโยบาย คือ การจัดการน้ำท่วม-น้ำแล้ง การแก้ปัญหาหมอกควัน PM 2.5 ปัญหายาเสพติด ที่มีแพลตฟอร์มแจ้งเบาะแส ทลายการผูกขาด การแก้ปัญหาธุรกิจนอกระบบ และนโยบายการลงทุนครั้งใหญ่ในอนาคต นอกจากนั้น ปลดล็อกให้เกษตรกรและผู้ค้าข้าว SME ส่งออกข้าวได้ทั่วโลก เรื่องค่าพลังงาน เรื่องสุราชุมชน ที่เป็นธุรกิจที่สามารถเติบโตได้


ขณะที่ช่วง 2 นำเสนอสิ่งที่รัฐบาลจะทำในปี 2568 และมอบหมายให้รองนายกฯรับไปดำเนินการ และเป็นนโยบายที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า จำนวน 5 นโยบาย คือ โครงการ SMLหนึ่งอำเภอหนึ่งทุน, ดิจิทัลวอลเล็ต การแก้หนี้ครัวเรือน และบ้านเพื่อคนไทย


นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า 90 วันที่ผ่านมาตั้งแต่แถลงนโยบายต่อรัฐสภา จนมาถึงวันนี้ ประมาณ 90 วัน เป็นช่วงเวลาของการปรับตัวปรับการทำงานระหว่างตนเอง คณะรัฐมนตรี เพื่อนข้าราชการ โดยผ่านแนวทางการทำงานที่อำนวยความสะดวก ตอบโจทย์นโยบายประชาชนได้จริงทำให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้นได้จริง ซึ่งเป็นช่วง 90 วันที่ผ่านมา ในฐานะนายกฯ เป็นช่วงเวลาที่สำคัญมากที่ได้เข้ามาเรียนรู้และทำเรื่องต่าง ๆ วันนี้ทีมข้าราชการ เราทั้งหมดคือทีมเดียวกัน


การทำงานวางรากฐานที่สำคัญ ในทศวรรษข้างหน้า ให้คนไทยมีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี อย่างที่เคยกล่าวไว้ ภาพของประเทศไทยต่อจากนี้ในปี 2567 จะเป็นปีของโอกาสที่จับต้องได้รัฐบาลจะสร้างผลงานที่เป็นรูปธรรม จะสร้างสิ่งที่คนคิดว่าเป็นความฝันให้เกิดขึ้นจริงทำให้มีสิ่งที่เรียกว่านโยบาย ที่ผ่านมามีความขัดแย้งเกิดขึ้นประเทศไทยอยู่ภายใต้ความขัดแย้งในเรื่องของการเมืองมานานกว่า 20 ปี วันนี้เราทุกคนพร้อมที่จะเดินต่อไปข้างหน้าและแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น เช่น ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง ที่ทุกคนทราบกันดีอยู่แล้ว


ปีนี้เราได้เจอน้ำท่วมอย่างหนักมากในพื้นที่ภาคเหนือ ดินโคลนถล่ม ซึ่งปกติแล้วน้ำท่วมอย่างเดียวก็ลำบากแล้วแต่ปีนี้มีดินโคลนถล่ม และมีเรื่องของน้ำท่วมในบางพื้นที่ของภาคอีสาน และตอนนี้น้ำยังช่วงหนักในพื้นที่ภาคใต้ด้วยดินทุกคนถนนที่เกิดขึ้น ตนได้มีโอกาสไปพื้นที่ พูดจริง ๆ ตอนที่ไม่ได้เข้าไปมีมูลนิธิส่งความช่วยเหลือ คนเดือดร้อนน้ำท่วมเป็นเรื่องปกติ แต่เมื่อได้ไปเห็นจริงในตำแหน่งของนายกฯ มีความรู้สึกบางอย่างที่รู้สึกว่าเราได้มีตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้แล้วเราจะสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตพี่น้องประชาชนได้อย่างไรบ้าง จะสามารถช่วยเขาได้จริง ๆ อย่างไรบ้าง การเห็นดินโคลนถล่มเป็นความรู้สึกว่า ถ้าสิ่งนั้นเกิดขึ้นกับตัวเองคงต้องมีการจ้างงานเอาดินโคลนออกจากบ้าน ยังรู้สึกเศร้าใจ แต่พี่น้องภาคเหนือไม่ได้เตรียมการเรื่องนี้มาก่อน ไม่มีทุนสำรองมากมายในท่ามกลางเศรษฐกิจแบบนี้ รัฐบาลจึงเกิดการเยียวยาขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะรู้ว่าการเยียวยาของรัฐเท่านั้นที่ยังจะประคอง และช่วยชีวิตพี่น้องให้ไปต่อได้อย่างมีกำลังใจ ซึ่งปัญหาน้ำท่วมน้ำแรงมีมานาน แต่ปัญหานี้ไม่เคยถูกแก้อย่างบูรณาการ บางครั้งไม่ได้คุยกันหลายฝ่าย บางครั้งสร้างสะพานนี้แต่ไปล็อคทางน้ำทำให้น้ำท่วม


ฉะนั้นสิ่งที่ต้องแก้เป็นอย่างแรก คือการเปลี่ยนวิธีคิด การแก้ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งอย่างถาวรทำให้น้ำมีทางออก จากนี้จะต้องมีทางออกที่สามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมได้และในช่วงน้ำแล้งก็ยังต้องพอกับการอุปโภคบริโภคด้วย ไม่ว่าจะเป็นด้านของเกษตรและอุตสาหกรรม ต้องมีน้ำใช้เพียงพอ นี่คือสิ่งที่ต้องวางแผนในระยะยาว และน้ำท่วมทางภาคเหนือมวลน้ำมาจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเราต้องมีการเจรจากับประเทศเพื่อนบ้าน เพราะปัญหานี้เกิดขึ้นกับประเทศเพื่อนบ้านเช่นกัน เราจะต้องมีการเจรจากันเพื่อให้เกิดการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ นอกจากการศึกษาแก้กฎหมายอนุญาตให้ประชาชนสามารถปลดล็อกได้ เพื่อที่จะเอาดินไปขาย ไปใช้ เกิดอาชีพใหม่ นี่คือโครงการใหม่ที่เราจะศึกษาในรายละเอียดเรื่องนี้ให้เพิ่มมากขึ้น แต่การขุดไปขายนั้นต้องให้มั่นใจว่าจะไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อมและต้องมีกฎเกณฑ์ซึ่งหลายเรื่อง รัฐบาลต้องจัดสรรขึ้นนี่คือแนวทางใหม่ที่จะสามารถสร้างอาชีพให้กับประชาชนได้ อาชีพใหม่ ขายเรือท้องแบนขุดดินขนดินจะเกิดขึ้นอีกมากมาย


ซึ่งปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งจะมีการสร้างฟลัดเวย์ ที่จะช่วยทำให้น้ำท่วมน้ำแล้งดีขึ้นโครงการขนาดใหญ่จะแก้ปัญหาน้ำท่วมในกรุงเทพฯและปริมณฑล พื้นที่ภาคกลางได้อย่างดี ดูจากภูมิศาสตร์ของประเทศไทยน้ำมีสิทธิ์ท่วมได้มากในพื้นที่ภาคกลางและกรุงเทพฯนี้ก็แน่นอน ฉะนั้นจะต้องมีการคิดใหญ่เกิดขึ้น เพื่อแก้ปัญหาระยะยาว เรื่องนี้ขอมอบหมายให้นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และนายประเสริฐ ไปดูในเรื่องข้อกฎหมายต่าง ๆ การสร้างฟลัดเวย์ เพื่อแก้ปัญหาระยะยาวของปัญหาน้ำท่วม


ส่วนปัญหา PM 2.5 กระทบกับตัวเองที่เป็นแม่ลูก 2 ที่ชอบพาลูกออกกำลังกาย นับตั้งแต่รัฐบาลเศรษฐา KPI เรื่องของฝุ่น PM 2.5 ทำให้ต้องมีฝุ่นน้อยลงทุกปี ทั้งนี้การควบคุมการเผาไร่ พื้นที่การเกษตร จะทำให้เกิดฝุ่น PM 2.5 มาในเชียงใหม่ ภาคเหนือทุกวันนี้ ได้ลดพื้นที่การเผาไหม้ไปถึง 50% ซึ่งจะเห็นได้ว่าควันยังมี จะให้หมดไป เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลานาน แต่ตอนนี้พื้นที่เผาไหม้ลดลงแล้ว 50% ทำให้ฝุ่นควันลดลงมากเช่นกัน ถ้าเทียบกับช่วงฝุ่นที่มากสุดปีที่แล้วกับปีนี้ลดลงอีก 30% ซึ่งถือว่ารัฐบาลมาถูกทาง ไม่ว่าภายในประเทศหรือประเทศเพื่อนบ้าน เรามีนโยบายไม่รับซื้อผลผลิตการเกษตรที่มาจากประเทศเพื่อนบ้านที่ทำการเผาไหม้ ฉะนั้นต้องลดการเผาไหม้ทั้งประเทศเพื่อนบ้านและประเทศของเรา เราจะต้องจริงจังมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นการเผาข้าว หรืออ้อย โดยเฉพาะโรงงานน้ำตาลหรือภาคเอกชนก็ต้องมีส่วนเข้ามาช่วยด้วย ถึงบอกว่าเราต้องเป็นทีมเดียวกันทั้งประเทศ เพื่อที่จะแก้ปัญหาที่หมักหมุดมานานและเป็นปัญหาที่เรื้อรัง แน่นอนเป้าหมายของรัฐบาลต้องการที่จะคืนสภาพอากาศดีให้กับพี่น้องประชาชนมีสุขภาพที่ดีขึ้นสุขภาพดีให้ประชาชน มอบหมายให้นายประเสริฐติดตามในเรื่องนี้


ขณะที่ปัญหายาเสพติด ตอนนี้กลับมาระบาดในประเทศไทยมาก ทำให้พ่อแม่หลายคนสูญเสียลูกหลาน คุณตา คุณยาย กลับบ้านรู้สึกไม่ปลอดภัยเพราะลูกหลานติดยา คนไทยมีศักยภาพเยอะแต่มียาเสพติดเป็นอุปสรรค ฉะนั้นรัฐบาลเอาจริงเรื่องนี้ประชาชน ต้องช่วยกันตรวจสอบและเฝ้าสังเกตทั้งประเทศมีแหล่งมีบ้านเล็ก ๆ มากมาย ถ้ารัฐบาลไม่พึ่งความช่วยเหลือจากประชาชน เรื่องนี้จะสำเร็จได้ยากและต้องใช้เวลานานมาก เรื่องนี้ได้จัดทำแพลตฟอร์มเพื่อให้ประชาชนทุกคนสามารถแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับยาเสพติด ส่งข้อความตรงถึงนายกฯเพื่อรักษาความปลอดภัย หากมีบ้านที่ซื้อยาเสพติด สามารถแจ้งผ่านได้โดยจะปกปิดข้อมูลไม่ให้ถูกเปิดเผยที่มาว่ามีใครแจ้งจะมีแค่นายกฯและหน่วยงานของรัฐกลุ่มหนึ่งเท่านั้น ที่ทราบว่าการแจ้งเบาะแสมาจากไหน โดยใช้ท่าวังผาโมเดล ตั้งแต่สมัยรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ที่บอกว่า 90 วันยาเสพติดจะหมดไป โดยความช่วยเหลือจากภาคราชการ ตำรวจ คนไทยจะมีศักยภาพ และกลับมาสร้างอาชีพได้โดยเราจะวางแผนสร้างอาชีพต่อเพื่อให้คนที่ติดยาไม่กลับไปใช้ยา


นอกจากนั้น การทลายทุนผูกขาด ถือเป็นเรื่องสำคัญไม่ว่าจะเป็นภาครัฐหรือภาคเอกชน ที่จะเพิ่มต้นทุนให้กับประชาชน การผูกขาดทำให้ประชาชนจนลง ไม่ได้ทำให้ดีขึ้น เช่น เรื่องของข้าว ที่มีกฎหมายควบคุมตั้งแต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ให้เป็นยุทธภัณฑ์ การส่งออกโดยไม่ได้รับอนุญาตจะมีปัญหา ถึงจะมีการแก้ไขกฎหมายแล้วในปี 2522 เมื่อแก้เสร็จกฎหมายก็ยังไม่ทันสมัยไทย การส่งออกข้าวคนที่จะทำเรื่องข้าวต้องมีที่เก็บข้าวอย่างน้อย 500 ตัน ทำให้ SME ขนาดเล็ก หรือผู้ประกอบการใดและที่จะทำเกษตรกรไม่มีสิทธิ์ที่จะสามารถส่งออกค่าไปต่างประเทศได้ รัฐบาลจะปลดล็อกขั้นตอนนี้ เพื่อทำให้เกษตรกรมีโอกาสสามารถส่งออกข้าวด้วยตัวเองได้โดยไม่ต้องมาพึ่งพา หรือหาที่เก็บข้าว 500 ตัน เพื่อทำให้ SME ได้กลับมาเกิดขึ้นอีกครั้ง


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับการนำธุรกิจนอกระบบกลับเข้ามาสู่ในระบบเพื่อเสียภาษีตามหลักเอาธุรกิจใต้ดินมาบนดิน ซึ่งธุรกิจใต้ดินมีมูลค่ามากกว่า 49% ของจีดีพีประเทศ จึงเป็นช่องทางของมาเฟียและการคอรัปชั่น ทำให้ไม่สามารถดูแลประชาชนได้เนื่องจากรัฐมองไม่เห็นว่า ธุรกิจใต้ดินอยู่ตรงไหน แต่ถ้านำใต้ดินมาอยู่บนดิน จะสามารถเก็บภาษีได้ และนำภาษีมาให้ประชาชนเป็นทุนให้ประชาชนได้ต่อไป การเอาธุรกิจใต้ดินมาอยู่บนดินเพื่อปกป้องประชาชนประชาชน


ส่วนการลงทุนในธุรกิจในอนาคตหรือ AI โดยประเทศไทยจะต้องเป็นAI ฮับของภูมิภาคโดยดึง Google และ Microsoft เข้ามา ทำให้ต่างชาติเห็นว่าไทยพร้อมสำหรับธุรกิจแห่งอนาคตแต่ยังมีข้อจำกัดที่ต้องดูแลพัฒนา เช่น เรื่องคนที่ยังไม่มีความรู้มากพอ ซึ่ง AI มีประโยชน์มากที่จะช่วยเรื่องกำแพงภาษา สามารถคิดและวิเคราะห์ที่เป็นโอกาสใหม่ให้กับประชาชนทั้งเกษตรกรนักศึกษาและคนเพิ่งเริ่มทำงานหากใช้AIเป็นโดยรัฐบาลมีแผนลงทุนในธุรกิจนี้ทั้ง AIและรถยนต์ไฟฟ้าอีวี ภายใน 5 ปี จะให้มีการศึกษา 2.85 แสนคน เพื่อรองรับธุรกิจประเภทนี้


นางสาวแพทองธาร กล่าวต่อถึงสิ่งที่จะทำในปี 2568 ว่า นายกฯอยากจะสร้างนโยบายที่ดีให้กับประเทศไทย ไม่ว่านายกฯจะเป็นใคร หรือรัฐบาลชุดไหนแต่นโยบายดี ๆ ยังต้องอยู่กับประชาชน โดยไม่ต้องเอ่ยว่าใครเป็นคนทำนโยบายไหนเรื่องของนโยบายยังอยู่ประโยชน์ยังตั้งอยู่ที่ประเทศไทย และประชาชน นี่คือสิ่งที่ตั้งใจ


ทุกนโยบายที่จะเกิดขึ้นในปี 2568 จะนำนโยบายที่ดีกลับมาใช้ เช่น นโยบายหนึ่งอำเภอหนึ่งทุน จะกลับมาอีกครั้งเพราะการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญต่อพื้นฐานการสร้างคนการสร้างทรัพยากรบุคคลให้มีคุณภาพเพื่อพัฒนาประเทศในอีก 10 ปี 20 ปี หรือ 100 ปี เราต้องสร้างคนคุณภาพเพื่ออนาคตข้างหน้าโดยรัฐบาลจะจัดทุนการศึกษาที่เป็นเด็กเรียนดี เรียนเก่งไปต่างประเทศกระจายไปทั่วประเทศทั่วโลก โดยนำโอกาสที่ดีกลับมาสู่ประเทศไทยอย่างทั่วถึงโดยจะใช้เงินจากกองสลากส่งเด็กเก่งไปเรียนปริญญาตรีในมหาลัยทั้งในและต่างประเทศ ได้ดูความสามารถของเด็กและเพิ่มโอกาสให้เด็ก


โครงการที่สองคือ หนึ่งอำเภอหนึ่งซัมเมอร์แคมป์ โดยจะส่งไปซัมเมอร์สที่ต่างประเทศ โครงการนี้ต้องการให้เด็กไทยออกไปต่างประเทศไปเรียนในระยะสั้น 5-8 สัปดาห์ จะได้อะไรมาก เช่น ตัวของนายกที่มีโอกาสได้ไปตอนเด็กช่วงเวลาสั้น จะเห็นวัฒนธรรมการเติบโตและวิถีชีวิตของคนที่ไม่เหมือนเราเป็นการเปิดโลก


และโครงการที่สาม จะนำเงินมาสร้างโรงเรียนต้นแบบของแต่ละอำเภอในการสอนสองภาษา หรือสอนเรื่อง AI โดยซื้อลิขสิทธิ์การเรียนมาเพื่อให้หลักสูตรถูกต้องและแม่นยำเข้มข้น เพื่อเตรียมพร้อมให้เด็กไทยเติบโตเข้มแข็ง และมีการศึกษาดี โดยจะเริ่มให้ลงทะเบียนในปี 2568 ซึ่งเป็นโอกาสที่จะเกิดขึ้น


หลังจากนั้นจะมีโครงการเอส SML กระจายอำนาจสู่ชุมชน และให้โอกาสคนทุกตำบลหมู่บ้านในการคิดและลงมือแก้ไขปัญหาในพื้นที่ผ่านโครงการ SML ของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง จะกระจายโอกาสและเงินลงไปในทุกหมู่บ้าน โดยปี 68 เรากำลังจะเริ่มกองทุนนี้ และ เพิ่มจำนวนเงินให้มากขึ้น ในปีถัด ๆ ไป SML แต่ละหมู่บ้านอาจจะใหญ่ไม่เท่ากัน แต่ประชาชนจะเท่าเทียมกัน เพราะทุกคนมีสิทธิ์เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้หมู่บ้านของตัวเอง และนอกจากกองทุน SML ยังมีโครงการ Soft Loan สำหรับ SME ไทยเพื่อฟื้นฟู SME  ที่เป็นฐานรากของเศรษฐกิจไทย ให้กลับมายืนได้อีกครั้ง


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะมีโครงการบ้านเพื่อคนไทยโดยใช้พื้นที่รัฐที่ไม่ได้ทำประโยชน์มีทำเลดีเดินทางสะดวกใกล้รถไฟฟ้าและตัวเมืองและสิ่งอำนวยความสะดวก โดยจะเริ่มจากพื้นที่การรถไฟแห่งประเทศไทย ในการสร้างคอนโด ที่มีคุณภาพขนาด 30 ตารางเมตร มีเฟอร์นิเจอร์ที่อยู่แล้วสบายใจ โดยจ่ายเป็นค่าเช่า ไม่มีเงินดาวน์เริ่มต้นประมาณ 4,000 บาทผ่อนไม่เกิน 30 ปี มีสิทธิ์อยู่ 99 ปี สำหรับคนที่ยังไม่มีบ้าน และเป็นเด็กจบใหม่ ในปี 2568 จะมีบ้านและคอนโด เป็นปีแห่งโอกาสและความสุขของคนไทย


สำหรับคนกรุงเทพฯ มีเรื่องรถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสาย เพื่อลดรายจ่ายประชาชน ที่หลายคนบอกว่าจะมากี่โมงตอนนี้สายสีแดงและสีม่วงผ่านไปแล้ว และเรื่องนี้ทำให้เห๋นว่าการเดินทางแต่ละเที่ยวบางครั้งใช้เงิน 150 บาท ต่อเที่ยว ดูไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าเดินทางทุกวันก็เป็นลมได้ การทำเรื่องนี้เพื่อลดรายจ่ายให้ประชาชน


โครงการต่อไปคือการเติมเงินผ่านดิจิทัล Wallet 10,000 บาท จะทำให้จีดีพีไตรมาส 4 เกิน 3% แน่นอน โดยเฟสหนึ่งให้กลุ่มคนเปราะบาง 14 ล้านคน ได้ทำสำเร็จไปแล้ว ส่วนเฟสสอง กลุ่มผู้สูงวัยจำนวน 4 ล้านคน จะรับภายในตรุษจีน 2568 ในรูปแบบของเงินสดและในเฟสสาม สำหรับบุคคลทั่วไปจะจ่ายในระบบดิจิทัล Wallet เพื่อเป็นเครื่องมือเชื่อมต่อระหว่างประชาชนและรัฐบาลยกระดับสู่เศรษฐกิจดิจิทัล


นอกจากนั้นปัญหาสำคัญคือการแก้หนี้ครัวเรือน ที่เป็นปัญหาใหญ่ เรื้อรัง หมักหมม สร้างทุกข์ให้กับพี่น้องประชาชน ทำให้เริ่มต้นทำอะไรใหม่ได้ยาก เพราะมีหนี้ต้องรับผิดชอบ โดยหนี้ที่เราจะให้ความสำคัญก่อน คือ หนี้รถยนต์ และ บ้าน เพราะรถยนต์ คือ เครื่องมือทำมาหากินของคนทำงาน บ้าน คือที่อยู่อาศัยที่เป็นหลังพิงของพี่น้องประชาชน วันนี้บ้านและรถ ของหลายคนกำลังถูกยึด พอยึดไปแล้ว รัฐก็เสียหายด้วย เพราะคนไม่มีเครื่องมือทำมาหากิน และเราจะไม่สามารถเก็บภาษีมาบำพัฒาประเทศ เราอยากจะแก้ปัญหาหนี้ให้หมดไป เป็นวาระแห่งชาติ


โดยวิธีการแก้ปัญหา เราได้รับความร่วมมือจากธนาคารแห่งประเทศไทย และธนาคารพาณิชย์ของไทย โดยทั้งสองฝ่าย ตกลงที่จะลดการส่งเงินเข้ากองทุนฟื้นฟู 0.23% เป็นเงินกว่า 39,000 ล้านต่อปี แล้วธนาคารพาณิชย์ จะสมทบให้อีก 39,000 รวมกันเป็น 78,000 ล้านบาทต่อปี เงินตรงนี้จะเอาไปจ่ายดอกเบี้ยแทนประชาชน พักจ่ายดอกเบี้ย 3 ปี ต่อจากนี้เงินทุกบาท ทุกสตางค์ จะไปใช้หนี้เงินต้นแบบลดหนี้ทั่วหน้า และภายใน 2 ปี ที่เหลือของรัฐบาลนี้ เศรษฐกิจไทยจะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอนเรื่องนี้ ประชาชนจะต้องมาสมัครเข้ากระบวนการก่อน โดยจะเริ่มต้นภายในต้นปี 2568


นอกจากหนี้บ้าน-หนี้รถ ประชาชนที่มีหนี้ NPL ในระบบต่ำกว่า 5,000 บาท มีกว่า 335,000 บัญชี รัฐบาลจะมีกระบวนการประนอมหนี้แบบพิเศษ ล้างหนี้ให้ทั้งหมด คนกลุ่มนี้อาจเคยมีปัญหาติดขัด ทำให้ไม่สามารถเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้ การเคลียร์หนี้ตรงจุดนี้ จะทำให้หลายคนได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ ได้ตั้งหลัก และเริ่มฝันได้อีกครั้ง และเราเข้าใจดีเรื่อง Moral Hazard ขอย้ำว่า มีเงื่อนไขสำหรับคนที่ทำถูกต้องตามกฏหมาย และให้เฉพาะคนที่เดือดร้อนจริงๆโดยทั้งหมดนี่เป็นส่วนหนึ่งที่จะเกิดขึ้นในปี 2568 จะได้เห็นว่าความหวังและความช่วยเหลือที่จะเกิดขึ้นเป็นสิ่งที่เป็นไปได้และเป็นอนาคตที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทีมรัฐมนตรี และข้าราชการว่า นักการเมือง และข้าราชการ ต่างมาจากภาษีของประชาชน เราต่างมีหัวใจเดียวกันคือ การทำงานเพื่อรับใช้พี่น้องประชาชน การทำให้ประไทยดีขึ้น วันนี้อยากให้เพื่อนข้าราชการทุกท่านยึดคติในใจว่า หลังจากนี้ จะเป็นปีแห่งการสร้าง People Empowerment เพิ่มอำนาจประชาชน ลดอำนาจเรา หรือการลดและเพิ่มประสิทธิภาพของภาครัฐ ทุกคนคือทีมเดียวกันเราต้องช่วยกันโดยจะลดอำนาจรัดลงเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนมากยิ่งขึ้นประชาชนไทยมี 66ล้านคน ราชการมี 3 ล้านคน ซึ่ง 3 ล้านคน คือกลไกที่สำคัญในการช่วยผลักดันประเทศ


จึงขอเชิญชวนทุกคนร่วมกันทุกภาคส่วนทำเพื่อประเทศไทยที่เรารักทำเพื่อประชาชนคนไทยที่เรารักเราทางที่เข้มแข็งไว้ให้กับลูกหลานเราในอนาคต 10 ปีและ 20 ปี เพื่อเป็นการสร้างรากฐานที่มั่นคงให้กับประเทศไทยในวันที่เรามีโอกาสหน้าที่มีตำแหน่งในการดูแลประชาชนฉะนั้นขอให้ร่วมกันทำวันนี้เพื่อพี่น้องประชาชนคนไทยอย่างดีที่สุดเชื่อว่าศักยภาพของคนไทยจะออกมาให้ทุกคนทนได้อย่างไม่น่าเชื่อ ปีหน้าเป็นปีแห่งโอกาสและความหวังและมีความหวังไปด้วยกัน


จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้เข้าร่วมพูดคุยกับกลุ่ม เสวนา 6 กลุ่ม ตามภารกิจงานแต่ละด้าน โดยมี รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าส่วนราชการ ผู้ว่าราชการกลุ่มจังหวัด เข้าร่วมในแต่ละกลุ่ม


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/KNiaHnIse0g

คุณอาจสนใจ

Related News