เลือกตั้งและการเมือง

‘อนุทิน’ ไม่เห็นด้วย กม.จัดระเบียบกลาโหม - ‘ภูมิธรรม’ ขออย่าเพิ่งคิดไกล ยันไม่ล้วงลูก ลดอำนาจทหาร

โดย petchpawee_k

10 ธ.ค. 2567

17 views

เพื่อไทย ชงแก้ กม.กลาโหม ให้สิทธิ ครม.ตั้งนายพล ตัดท่ออำนาจ ผบ. ป้องทหาร ยึดอำนาจ-ก่อกบฏ

วานนี้ 9 ธ.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้เผยแพร่ในส่วนของการรับฟังความเห็นร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 77 ระบุว่า นายประยุทธ์ ศิริพาณิชย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) และคณะ ได้เสนอร่าง พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่…) พ.ศ. … โดยให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมแสดงความคิดเห็น เบื้องต้นได้รับคำวินิจฉัยจากประธานสภาว่าไม่เป็นร่างการเงิน และได้เปิดรับฟังความเห็นตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม ถึงวันที่ 1 มกราคม 2568 ทั้งนี้ จากการเปิดรับฟังความเห็นมาแล้ว 4 วัน พบว่ามีผู้ให้ความสนใจ 11,230 คน เห็นด้วย 88.89% และไม่เห็นด้วย 11.11%


สำหรับหลักการและเหตุผลของการแก้ไขร่างกฎหมายดังกล่าวระบุว่า ให้อำนาจคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีหน้าที่และอำนาจพิจารณาแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพลที่ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการที่แต่งตั้งขึ้น เพราะมองว่าการแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพล ตาม พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2551 แม้จะมีการแต่งตั้งกรรมการที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการเหล่าทัพเป็นกรรมการ แต่การแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพลมีการวางตัวบุคคลที่เป็นพวกพ้องของผู้บัญชาการเหล่าทัพ ให้สืบสายเป็นผู้บัญชาการเหล่าทัพต่อไป ซึ่งทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมกับนายทหารที่มีความรู้ความสามารถ แต่ไม่ใช่พวกพ้องของผู้บัญชาการเหล่าทัพ


ข้อมูลประกอบการพิจารณาร่างแก้ไข พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหมยังระบุอีกว่า คนที่ไม่ใช่พวกพ้องเสียโอกาสได้ก้าวหน้าในชีวิตราชการทหารและทำให้การแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพลขาดความโปร่งใส ดังนั้น จึงควรให้อำนาจ ครม.เป็นผู้พิจารณา อีกทั้งควรปรับองค์ประกอบของกรรมการให้เหมาะสม รวมถึงองค์ประกอบของสภากลาโหม ให้หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้ามาเป็นสมาชิกสภากลาโหม ให้นายกฯเป็นประธานสภากลาโหมแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และตัดกองทัพอออกจากสภากลาโหมบางส่วน ให้เหลือเพียง 1-2 คนก็เพียงพอ


ขณะที่ตัวร่าง พ.ร.บ.ฉบับแก้ไขนั้น ยังได้เพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณสมบัติของนายทหารชั้นนายพล มาตรา 25 ที่จะได้รับการแตั้งตั้งเป็นอย่างน้อยด้วย คือ


ไม่เคยมีพฤติกรรมเป็นผู้อิทธิพลหรือพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด การค้ามนุษย์ การทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม


ต้องไม่เป็นคู่สัญญากับหน่วยยงานในสังกัดกระทรวงกลาโหม หรือประกอบธุรกิจหรือกิจการอันเกี่ยวข้องกับราชการกระทรวงกลาโหม

ไม่อยู่ระหว่างถูกสอบสวนทางวินัยหรือถูกดำเนินคดีอาญา เว้นแต่ความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท หมิ่นประมาท หรือลหุโทษ

นอกจากนั้นยังเพิ่มเติมการจัดระเบียบปฏิบัติราชการทหารในมาตรา 35 ซึ่งเดิมกำหนดหน้าที่ทหารเพื่อปราบปรามจลาจล พบว่าร่างแก้ไขได้เพิ่มข้อห้ามใช้กำลังทหารหรือข้าราชการทหาร ในกรณีของการยึดหรือควบคุมอำนาจการบริหารราชการแผ่นดินจากรัฐบาลหรือเพื่อก่อการกบฏ รวมถึงขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ราชการส่วนราชการต่างๆ ห้ามใช้เพื่อธุรกิจหรือกิจการอันเป็นประโยชน์ส่วนตัวของผู้บังคับบัญชา และกระทำการอันมิชอบด้วยกฎหมายอื่นๆ ทั้งนี้ ได้กำหนดด้วยว่า ข้าราชการทหารที่ได้รับคำสั่งให้ทำ ย่อมมีสิทธิไม่ปฏิบัติตาม และไม่ถือว่าผิดวินัยทหารหรือกฎหมายอาญาทหาร

รวมถึงยังเพิ่มบทลงโทษนายทหารที่ฝ่าฝืนหรือพบการเตรียมการผิดมาตรา 35 ด้วยการหยุดปฏิบัติหน้าที่ไว้ชั่วคราวตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี เพื่อให้เกิดการสอบสวนโดยไม่ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนการพักราชการตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ ในสาระสำคัญของมาตรา 35 ที่เสนอแก้ไขนั้น ย้ำความสำคัญคือ เพื่อป้องกันไม่ให้ทหารได้ใช้อำนาจในทางที่ผิดและเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

---------------------------

ภูมิธรรม ขออย่าเพิ่งคิดไกล ปมแนวคิด สส.เพื่อไทย ชงแก้ กม.กลาโหม ให้อำนาจ ครม.ตั้งนายพล ลดอำนาจการรัฐประหาร ชี้รอฟังผลศึกษา - ยันไม่ล้วงลูก   ลั่นไม่มีเจตนาลดอำนาจทหาร ชี้กองทัพ-การเมืองคุยกันดี

ขณะที่วานนี้ ( 9 ธ.ค.67) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่ นายประยุทธ์ ศิริพาณิชย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย หรือ พท. และคณะ เสนอให้การรับฟังความเห็นเขียน ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหมฯ ว่า ตนในฐานะประธานคณะกรรมการกลั่นกรองกอง ต้องรอดูเหตุและผลในที่ประชุม ซึ่งขณะนี้เข้าสู่ชั้นที่ประชุมสภากลาโหมแล้ว โดยจะมีข้อคิดเห็นและข้อแนะนำปรับปรุง ซึ่งต้องดูเรื่องหลักการและความเป็นจริงว่าจะจัดการอย่างไร เพราะการเปลี่ยนแปลงที่ดีทุกคนปรารถนาอยู่แล้ว แต่จะเปลี่ยนให้ได้ถึงขนาดไหนอย่างไร ก็ต้องดูข้อเท็จจริงและดูความเห็นจากทุกฝ่าย


เมื่อถามว่า เห็นด้วยกับหลักการที่ นายประยุทธ์เสนอหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนเป็นประธานที่ประชุมจึงไม่อยากพูดคุยไปก่อน ขอฟังทุกอย่างก่อน


เมื่อถามว่า แนวคิดดังกล่าวอาจจะเป็นการลดอำนาจของทหาร รมว.กลาโหม กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่รู้เลยว่าจะออกมาอย่างไรอย่าพึ่งไปคิดว่าลดหรือไม่ เพราะตนไม่มีเจตนาลดอำนาจทหารอยู่แล้ว เพราะเค้าก็มีกฎระเบียบกฎหมายของเขาในการควบคุมดูแลเหมือนพลเรือน ซึ่งหากมีปัญหาก็ต้องแก้ไข


เมื่อถามย้ำว่า แนวคิดการให้อำนาจ ครม.ตั้งนายพลลดลงแล้วหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า อย่าไปคิดแทนที่กฎหมายมี

เมื่อถามต่อว่า ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าหาก พ.ร.บ.ดังกล่าว ผ่านจริง และหากรัฐประหารจะรุนแรงกว่าที่ผ่านมา นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่เคยเห็นรายงานว่ามีใครพูด และตนยังไม่มีการคุยเรื่องนี้กับผู้บัญชาการเหล่าทัพคนใดเลย ฉะนั้นขอสื่ออย่าคิดไปก่อนว่ามันจะเกิดขึ้น พร้อมย้ำว่าขอรอฟังความเห็นจากคณะกรรมการกลั่นกองก่อน อย่ามองว่าจะมีข้อสรุปอย่างนั้นอย่างนี้เพราะฉะนั้นก็ไม่ต้องประชุม


เมื่อถามว่า หวั่นจะเป็นประเด็นรอยร้าวระหว่างการเมืองกับกองทัพหรือไม่ รมว.กลาโหม ระบุว่า ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น และยืนยันว่ากองทัพกับการเมืองตอนนี้ก็คุยกันดี ตนอยู่กระทรวงกลาโหมก็ได้รับการสนับสนุน ต้อนรับ สนับสนุนในการทำงาน และไม่มีเหตุอะไรที่ตนจะไปล้วงลูกฝ่ายข้าราชการประจำซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามหลักเหตุและผล ฉะนั้นอย่าไปคิดอะไรให้กันเลยเพราะมันจะสร้างแต่ความขัดแย้ง ขอให้พูดแต่ประเด็นที่เป็นจริงมีอะไรเกิดขึ้นแล้วค่อยมาถาม ไม่ใช่ “ถ้า” อย่างโน้นอย่างนี้เพราะเป็นการคิดฝันไปเอง ดังนั้นขอให้อยู่เป็นข้อเท็จจริง

---------------------------
"อนุทิน" ไม่เห็นด้วย ร่างพ.ร.บ. จัดระเบียบกลาโหมของเพื่อไทย ชี้ แก้ไปก็บังคับใช้ไม่ได้ เมื่อรัฐประหารก็ฉีกรัฐธรรมนูญ แนะนักการเมืองทำตัวให้ดี อย่ายุแยงให้เกิดความขัดแย้ง ก็ไม่มีเงื่อนไขให้ยึดอำนาจ

วานนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนี้ว่า ในส่วนของเรื่องอื่นนั้นยังไม่ทราบ แต่ในเรื่องของการสกัดปฏิวัติตนไม่เห็นด้วย เพราะเงื่อนไขการปฏิวัติมีอยู่ไม่กี่เรื่อง นักการเมืองก็ควรทำตัวให้ดี ซื่อสัตย์สุจริต รักษาความสงบ อย่าทำให้แตกความสามัคคีภายในบ้านเมือง เมื่อการเมืองไม่เข้าเงื่อนไขนั้นก็ปฏิวัติไม่ได้ ต่อให้ออกกฎหมายอะไรมาถ้าเขาจะปฏิวัติ ประกาศแรกก็คือการฉีกรัฐธรรมนูญ ดังนั้นการเสนอแก้กฎหมาย ก็เป็นการแสดงสัญลักษณ์แต่บังคับใช้อะไรไม่ได้ ทางที่ดีที่สุดคือทำตัวให้ดี อย่าให้ไปเข้าเงื่อนไข ซื่อสัตย์สุจริต อย่าขี้โกง อย่ายุแยงให้เกิดความแตกสามัคคี ไม่ลงถนน

หากพรรคเพื่อไทยไปจับมือกับพรรคประชาชน เพื่อสนับสนุนร่างกฎหมายฉบับนี้ นายอนุทิน กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ แต่ถ้าจะผ่านความเห็นชอบก็เป็นกระบวนการตามระบอบประชาธิปไตย เราจะไปทำอะไรได้ ต้องเคารพเสียงส่วนมาก ส่วนร่างกฎหมายฉบับนี้มีโอกาสจะไม่ผ่านความเห็นชอบของสว.หรือไม่นั้น นายอนุทินตอบว่าไม่รู้  แต่ยืนยันว่าพรรคภูมิใจไทยไม่เห็นด้วย มองว่าไม่มีความจำเป็น เพราะตนอยู่ในการเมืองมาตั้งแต่ ปฏิวัติ 23 กุมภาพันธ์ 2534 สมัยพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ เห็นว่าเงื่อนไขของการรัฐประหารเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงได้ทั้งนั้น


ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์หลังจากที่นายอนุทินไม่เห็นด้วยว่า  เป็นสิทธิ์ของนายประยุทธ์ ศิริพาณิชย์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ที่จะเสนอ แต่ส่วนตัวยังถือกฎหมายของสภากลาโหม แต่วันนี้ต้องฟังความเห็นของทุกส่วน ทุกอย่างอยู่ที่ความเป็นจริงว่าจะทำอย่างไรให้เหมาะสมที่สุด สิ่งสำคัญไม่ได้อยู่ที่ลายลักษณ์อักษร แต่ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติของกองทัพในการเข้ามาช่วยเหลือแก้ไขปัญหาประชาชน ส่วนเรื่องระเบียบต่างๆก็สามารถแก้ไขได้อยู่แล้ว

เมื่อถามว่า การเสนอร่างกฎหมายดังกล่าว เป็นเพราะพรรคเพื่อไทยกังวลว่าจะมีการรัฐประหารใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นความเห็นของคนสองคน ไม่ใช่ความเห็นของพรรคเพื่อไทย ส่วนจะดำเนินการอย่างไรก็ต้องมาพูดคุยกันอีกที โดยส่วนตัวเห็นว่ายังต้องดูความเป็นจริง

เมื่อถามว่าการเสนอร่างกฎหมายดังกล่าวจะทำให้ความไว้เนื้อเชื่อใจของกองทัพ รัฐบาล และคนชั้นนำ หายไปหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า กฎหมายดังกล่าวยังไม่ได้ผ่านความเห็นชอบ จุดยืนดังกล่าวไม่ใช่จุดยืนที่ผ่านการลงมติของพรรคเพื่อไทย แม้จะปฏิเสธไม่ได้ว่าสส.แต่ละคนจะมีจุดยืนอย่างไร


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/ZnS--GxYpd4


คุณอาจสนใจ

Related News