เลือกตั้งและการเมือง
ทร.เร่งเจรจาเมียนมา ช่วย 4 ลูกเรือไทย สั่งทัพเรือภาค 3 ลาดตระเวนรักษาอธิปไตยน่านน้ำ
โดย nutda_t
1 ธ.ค. 2567
166 views
พลเรือเอก พาสุกรี วิลัยรักษ์ โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยถึงกรณี เรือรบเมียนมาใช้อาวุธต่อเรือประมงไทย ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว ทัพเรือภาคที่ 3 ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 3 ได้รับแจ้งจากเรือมหาลาภธนวัฒน์ 4 เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 เวลา 00.45 น. ว่าขณะที่เรือกำลังทำการประมง ร่วมกับกลุ่มเรือประมงบริเวณพื้นที่ ด้านทิศตะวันตกของเกาะพยาม จังหวัดระนอง กลุ่มเรือประมงได้ถูกเรือรบเมียนมา ทำการใช้อาวุธ โดยตัวเรือได้รับความเสียหายน้ำเข้าเรือปริมาณมาก และมีผู้บาดเจ็บ จำนวน 2 คน โดยเรือรบเมียนมาได้เข้าจับกุมเรือประมงไทย จำนวน 1 ลำ คือ เรือ ส เจริญชัย 8 โดยมีลูกเรือจำนวน 31 คน ถูกจับกุมไปยังเกาะย่านเชือก ประเทศเมียนมา
ในการนี้ ทัพเรือภาคที่ 3 โดย พลเรือโท สุวัจ ดอนสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 ได้สั่งการให้ เรือ ต.274 ให้การช่วยเหลือเรือประมงที่ได้รับความเสียหาย รวมถึงเข้าค้นหาและช่วยเหลือลูกเรือประมง ดวงทวีผล 333 ที่ได้รับบาดเจ็บ และพลัดตกน้ำ ซึ่งผลการค้นหาพบว่ามีผู้เสียชีวิต 1 ราย คาดว่าเกิดจากการสำลักน้ำขณะโดดน้ำหนี และผู้รับบาดเจ็บ 2 ราย คือ นายศรีเพ็ชร อายุ 44 ปี ทำหน้าที่ไต๋เรือ มหาลาภธนวัฒน์ 4 ได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะ และลูกเรือชาวเมียนมา ไม่ทราบชื่อ ได้รับบาดเจ็บจากการถูกกระแสไฟฟ้าช็อตตามร่างกาย โดยได้นำผู้บาดเจ็บทั้งสองราย มาส่งท่าเทียบเรือน้ำลึก จ.ระนอง เพื่อเข้าทำการรักษาที่โรงพยาบาลจังหวัดระนองต่อไป โดยมอบให้ศูนย์ประสานงานชายแดนทางทะเลไทยเมียนมา ส่งกำลังพลเข้าไปร่วมสังเกตุการณ์และช่วยเหลือในการนำส่ง
โดยสรุป ได้ช่วยเหลือเรือประมงทั้งหมดจำนวน 2 ลำ ประกอบด้วย เรือดวงทวีผล 333 มีลูกเรือ 29 คน ( เสียชีวิต 1 คน ) และ เรือมหาลาภธนวัฒน์ 4 มีลูกเรือ 33 คน (บาดเจ็บ 2 คน)
โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า ในส่วนของการดำเนินการในขั้นตอนต่อไป คือการประสานงานตามกลไกของคณะกรรมการ ในการเจรจานำเรือและลูกเรือประมงกลับสู่ประเทศไทย โดยในส่วนของศูนย์ปฏิบัติการทัพเรือภาคที่ 3 ได้สั่งการให้ศูนย์ประสานงานประมงชายแดนทางทะเลไทย - เมียนมา ติดต่อประสานงานกับ ผู้บังคับการสถานีเรือ 58 เกาะย่านเชือก ประเทศเมียนมา เพื่อติดตามสถานการณ์เรือประมงและลูกเรือที่ถูกจับกุม ซึ่งทราบว่าเรือรบเมียนมาได้ดำเนินการจับกุมเรือประมงไทยจำนวน1 ลำจริง โดยทางการเมียนมา กล่าวอ้างว่ามีกลุ่มเรือประมง จำนวนประมาณ 15 ลำ เข้าไปทำการประมงในเขตน่านน้ำเมียนมา และจากการตรวจสอบพบว่า เรือประมงทั้ง 15 ลำ เป็นเรือจาก อ.คุระบุรี จ.พังงา ที่เข้ามาหากินทำการประมงในเขตน่านน้ำของ จ.ระนอง ซึ่งอาจไม่ชำนาญพื้นที่บริเวณดังกล่าว
ทั้งนี้ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจทหารราบที่ 25 ประธานคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย - เมียนมา จังหวัดระนอง (ประธาน TBC ฝ่ายไทย) จะมีการประชุมร่วมกับกับคณะกรรมการชายแดนไทยส่วนท้องถิ่นไทย - เมียนมา จังหวัดเกาะสอง (ประธาน TBC ฝ่ายเมียนมา) เพื่อพิจารณาแนวทางการให้ความช่วยเหลือลูกเรือประมงที่ถูกจับกุม พร้อมทั้งขอให้ปล่อยตัวลูกเรือสัญชาติไทยทั้ง 4 คน พร้อมเรือประมงกลับประเทศไทย นอกจากนี้เลขานุการ TBC ฝ่ายไทย ได้มีการประสานงานทางข้างไปยังเลขานุการ TBC ฝ่ายเมียนมาแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการประสานกับผู้บัญชาการยุทธศาสตร์ จังหวัดเกาะสอง
โฆษกกองทัพเรือ กล่าวต่อไปว่า ทัพเรือภาคที่ 3 ยังคงจัดกำลัง ลาดตระเวนในพื้นที่ และยืนยันการรักษาอธิปไตยในน่านน้ำไทย เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับชาวประมงที่ทำกินโดยสุจริต โดยศูนย์ปฏิบัติการทัพเรือภาคที่ 3 ได้เพิ่มเติมกำลังโดย จัดเรือ ต.993 ออกเรือลาดตระเวนในพื้นที่ เพื่อรักษาความปลอดภัยในเขตน่านน้ำไทย กับให้หน่วยปฏิบัติการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ที่ 451 ทำการตรวจการณ์ พลอตเป้าติดตามเรือในพื้นที่ และทำการแลกเปลี่ยนข้อมูลเป้าให้กับเรือที่ปฏิบัติการในพื้นที่เพื่อแจ้งเตือนให้กลุ่มเรือประมงในพื้นที่ได้รับทราบและหลีกเลี่ยงการทำการประมงในพื้นที่ที่อาจไม่ปลอดภัย พร้อมทั้งป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำ โดยประสานให้ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ประชาสัมพันธ์จังหวัดระนอง ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดระนอง ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือจังหวัดระนอง สมาคมประมงจังหวัดระนอง รวมถึงเครือข่ายประมงในพื้นที่ ประชาสัมพันธ์ให้เรือประมงไทย ทำการประมงในเขตน่านน้ำไทย โดยไม่เข้าไปทำการประมงในพื้นที่ที่มีความความเสี่ยงเพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าใจผิด
แท็กที่เกี่ยวข้อง กองทัพเรือ ,น่านน้ำไทย ,เมียนมายิงเรือประมง