เลือกตั้งและการเมือง
'อุ๊งอิ๊ง' โชว์วิสัยทัศน์ 3 ทางรอดของไทย 'อาหาร-สุขภาพ-ซอฟต์พาวเวอร์' หากโดนสหรัฐฯ กีดกันการค้า
โดย nattachat_c
22 พ.ย. 2567
15 views
วานนี้ (21 พ.ย. 67) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานสัมมนา PRACHACHAT THAILAND 2025 โอกาส,ความหวัง,ความจริง และกล่าวปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ 'ประเทศไทย : โอกาส- ความหวัง-ความจริง' ณ ห้อง Ballroom 1 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ร่วมคณะในครั้งนี้
จากนั้นนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถา ภายใต้หัวข้อ 'ประเทศไทย : โอกาส-ความหวัง-ความจริง' ว่า โลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากมาย และตนกลับมาจากเปรู ได้คุยกับผู้นำทั่วโลก ซึ่งรัฐบาลมองเห็น ‘โอกาสที่จับต้องได้’ รัฐบาลเชื่อมั่นมาตลอดว่าคนไทยมีศักยภาพ รัฐบาลจึงตั้งเป้าหมายว่าจะต้องกระจายโอกาส โดยเฉพาะทางเศรษฐกิจ ไปให้ถึงประชาชนทุกคน อย่างเท่ากันทั้งประเทศ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ แก้ปัญหาความยากจน ให้สำเร็จภายใต้ข้อจำกัดที่มี ทำงานกันอย่างเต็มที่ ไม่ใช่เพียงวิธีเดียว และสิ่งแรกที่รัฐบาลต้องการทำคือการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะหากท้องอิ่ม ศักยภาพก็จะถูกผลักดันออกมา ทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ มีแรงที่จะผลักดันประเทศ และลดความเหลื่อมล้ำ
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองของสหรัฐอเมริกา หลัง โดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้ง ที่เขามีนโยบายพุ่งเป้าที่ประเทศ ‘เกินดุลการค้า’ กับอเมริกา ทั้ง จีน เม็กซิโก ญี่ปุ่นรวมถึงประเทศไทยด้วย ประเทศเหล่านี้ จะได้รับผลจากมาตรการกีดกันทางการค้าอย่างแน่นอน
แต่ไทยยังมีโอกาส 3 ทาง ประกอบด้วย
1. โอกาสด้านอาหาร ที่จะต้องมีการพัฒนาแบบภาพรวมผ่านการใช้เทคโนโลยีเพื่อยืดความสดและให้อาหารปลอดภัย และพยายามฟื้นครัวไทยสู่ครัวโลก รวมถึงการขายอาหารสำเร็จรูปทั้งครื่องสมุนไพร และเครื่องปรุง รวมถึงการพัฒนาศักยภาพของเชฟ ผ่านโครงการ 1 หมู่บ้าน 1 เชฟ
2. สุขภาพ หรือ Wellness อย่างนโยบาย 30 บาทที่ถูกยกระดับเป็น 30 บาทรักษาทุกที่ ให้ทุกคนเข้าถึงอย่างง่ายดาย และไม่เสียเวลา ซึ่งทั่วโลกมีการยอมรับ และต้องการศึกษาว่าจะทำอย่างไร ขณะที่แพทย์ในประเทศไทยมีศักยภาพสูง ได้รับการยอมรับจากชาวต่างชาติ และต้องการเข้ามารักษาตัวในประเทศไทย จึงจำเป็นต้องพัฒนาอุตสาหกรรมนี้ และส่งเสริมพืชสมุนไพรเพื่อให้เป็นยารักษาโรค ให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านสุขภาพ
3. ซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) คือเสน่ห์วัฒนธรรมไทยที่ชาวต่างชาติให้ความสนใจ จึงจำเป็นต้องผูกวัฒนธรรมของแต่ละภูมิภาคให้เข้าด้วยกันเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว พร้อมกับส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมการถ่ายทำภาพยนตร์ในไทยเพิ่ม โดยจะเพิ่มเครดิตเงินคืน จาก 20%เป็น 30% ของกองถ่ายจากต่างประเทศ เพื่อดึงดูดการท่องเที่ยว และให้เกิดการขยายการจ้างงานในพื้นที่ ส่วนภาพยนตร์ของไทยเองก็จะมีการสนับสนุนเนื่องจากปัจจุบันได้รับการชื่นชมจากต่างประเทศอย่างเรื่องหลานม่า ขณะเดียวกันเกมของไทยก็ได่รับความนิยม สามารถผลักดันสร้างเม็ดเงินให้กับประเทศด้วย
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรียังกล่าวด้วยว่า รัฐบาลจะมีการแถลงผลงานครบรอบ 90 วัน ในวันที่ 12 ธันวาคมนี้ รับรองว่าจะมีเรื่องของนโยบายดีๆมาเล่าให้ฟังว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต และแน่นอนว่าจะมีเรื่องของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า ในระหว่างที่เยือนต่างประเทศ ได้มีการแลกเปลี่ยนกับผู้นำระหว่างประเทศ ซึ่งตนพยายามย้ำว่าสถานการณ์ทางการเมืองไทยมีเสถียรภาพ ยิ่งมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้นนักธุรกิจต่างชาติก็จะมั่นใจ ซึ่งให้ความมั่นใจ และบอกนักลงทุนให้เชื่อมั่น ว่ารัฐบาลจะอยู่ยันครบเทอม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ที่เคยไปบอกทั่วโลก โดยจะสานต่อ
ทั้งนี้ รัฐบาลได้ให้ขวัญชิ้นใหญ่เพื่อประชาชนมาแล้ว คือ 'โครงการบ้านเพื่อคนไทย' ที่ทางรัฐบาลจะใช้ที่ดินรัฐในการก่อสร้าง ให้ผู็มีรายได้น้อยอาศัยอยู่ ไม่ต้องวางเงินดาวน์ ผ่อนเพียงเดือนละ 4,000 บาท มีสิทธิ์อยู่ได้นาน 99 ปี
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/IlTiYOLZQDU