'อสส.' แจงเหตุไม่รับคำร้อง 'ทักษิณ-พท.' ล้มล้างการปกครอง - 'อุ๊งอิ๊ง' ปัดตอบเรื่องพ่อ โบ้ยให้ถามเจ้าตัวเอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี เมื่อช่วงบ่าย วันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา ที่นายไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ อัยการสูงสุด ได้ลงนามตอบถ้อยคำต่อศาลรัฐธรรมนูญ ในประเด็นที่ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร (ผู้ร้อง) ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 กล่าวอ้างว่า นายทักษิณ ชินวัตร (ผู้ถูกร้องที่ 1) และ พรรคเพื่อไทย (ผู้ถูกร้องที่ 2) ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข  

ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้มีหนังสือแจ้งอัยการสูงสุด เพื่อขอทราบว่าได้ดำเนินการตามคำร้องของผู้ร้องไปแล้วอย่างไร และรวบรวมพยานหลักฐานได้เพียงใด โดยให้จัดส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน

ซึ่งเดิมนั้น มีรายงานว่า ที่อัยการสูงสุดส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญมีข้อมูลในการสอบถ้อยคำ ทั้งทางฝั่งผู้ร้อง และผู้ถูกร้อง โดยในส่วนผู้ถูกร้องทราบว่า ไม่ได้มีการสอบถ้อยคำนายทักษิณ ชินวัตร

อย่างไรก็ตาม มีรายงานเพิ่มเติมพบว่า ในวันดังกล่าว (8 พ.ย. 67) นอกจากอัยการสูงสุดจะส่งบันทึกสอบถ้อยคำทั้งพยานฝ่ายผู้ร้อง และผู้ถูกร้อง ไปยังศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ยังมีความเห็นแจ้งไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เห็นว่าเรื่องนี้ไม่เข้าหลักเกณฑ์ว่าเป็นการล้มล้างการปกครอง อัยการสูงสุดมีคำสั่งไม่รับดำเนินการตามที่ร้องขอ ซึ่งเป็นไปตามความเห็นของคณะทำงาน ที่เสนอมายังอัยการสูงสุดก่อนหน้านี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 บัญญัติไว้ว่า บุคคลจะใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมิได้

ผู้ใดทราบว่ามีการกระทำตามวรรคหนึ่ง ย่อมมีสิทธิร้องต่ออัยการสูงสุดเพื่อร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้เลิกการกระทำดังกล่าวได้

ในกรณีที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งไม่รับดำเนินการตามที่ร้องขอ หรือไม่ดำเนินการภายในสิบห้าวัน นับแต่วันที่ได้รับคำร้องขอ ผู้ร้องขอจะยื่นคำร้องโดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญก็ได้ การดำเนินการตามมาตรานี้ ไม่กระทบต่อการดำเนินคดีอาญาต่อผู้กระทำการตามวรรคหนึ่ง

เท่ากับว่า แม้อัยการสูงสุดจะมีมติไม่รับดำเนินการตามที่ร้องขอ แต่ศาลรัฐธรรมนูญจะยังมีอำนาจพิจารณาคดีต่อไปได้

ด้าน นางสาวแพทอง​ธาร​ ชิน​วัตร​ นายก​รัฐมนตรี​ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน กรณีข้างต้นว่า ถ้าเรื่องแบบนี้ ก็ต้องให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมายทั้งหมด เพราะฉะนั้น เราก็ไม่ได้เข้าไปตรงนี้อยู่แล้ว

เมื่อถามว่า การที่อัยการสูงสุดไม่รับดำเนินการเรื่องดังกล่าว ถือเป็นสัญญาณบวกสร้างความมั่นใจให้กับรัฐบาลว่า จะไม่สะดุดเพราะองค์กรอิสระหลังจากนี้ ได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราให้ผ่านไปทีละเรื่อง ถ้าเรื่องนี้ไม่มีอะไรก็ให้ผ่านไปทีละเรื่องเพราะบางทีเราก็ไม่อยากตีเรื่องนี้ไปกระทบเรื่องนั้น ก็อย่าให้มันเป็นแบบนั้นเลย

เมื่อถามถึง กรณีที่มีบุคคลไปร้องเรียนนายทักษิณ​ ชินวัตร​ ถือ 2 สัญชาติคือสัญชาติไทย และสัญชาติมอนเตเนโกร การขึ้นเวทีปราศรัยอาจผิดกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น​ สรุปตอนนี้ นายทักษิณ​ ถือกี่สัญชาติ​ นายกรัฐมนตรี​ หยุดคิด ก่อนจะตอบว่า​ "นั่นสิ" ​พร้อมกับหัวเราะ​ แล้วบอกว่า "ท่านทักษิณกลับมาแล้ว​ เชิญสื่อมวลชนถามที่ท่านทักษิณได้เลย"

ด้าน Nikkei Asia เผยแพร่บทสัมภาษณ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งทักษิณบอกว่าพยายามสร้างความมั่นใจว่า น้องสาวของเขาจะสามารถกลับไทยได้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีหน้า ผมไม่เห็นว่าจะมีปัญหาอะไรที่ขัดขวางเธอ (ยิ่งลักษณ์) ไม่ให้กลับบ้าน ผมคิดว่าเธออาจจะกลับมาก่อนหน้านั้นนิดหน่อย ขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาส (ที่เหมาะสม)

ซึ่ง นางสาวแพทอง​ธาร​ ชิน​วัตร​ นายก​รัฐมนตรี​ กล่าวถึงกรณี​ นายทักษิณ​ ชินวัตร​ อดีตนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศว่า นางสาวยิ่งลักษณ์​ ชินวัตร จะกลับมาเล่นสงกรานต์ที่เมืองไทยในปีหน้า​ โดยนายกฯ ถอนหายใจ และยิ้ม​ ก่อนจะกล่าวว่า "อย่างที่บอกว่าท่านทักษิณ​ กลับมาแล้ว​ เชิญสัมภาษณ์ท่านทักษิณได้เลย"

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/uGbeHFyGJlU