เลือกตั้งและการเมือง

‘โรม’ ไม่แคร์ ‘เสรีพิศุทธ์’ ไม่ร่วมแจงปม ‘ทักษิณ’ นอนชั้น 14 ชี้หมอใหญ่-จนท.สำคัญกว่า

โดย nattachat_c

8 ชั่วโมงที่แล้ว

30 views

'โรม' กมธ.มั่นคงฯ เกี่ยวข้องโดยตรง ปม 'ทักษิณ' ไม่ได้แทรกแซง ป.ป.ช. ด้าน 'เสรีพิศุทธ์' การันตี 7 พ.ย. นี้ ไม่ไปแน่นอน หลัง กมธ.มั่นคงฯ เชิญคลี่ปม ชั้น 14 'ทักษิณ' เหตุมี สส. 'เพื่อไทย' นั่ง กมธ.ด้วย รอดูปากคำ 'บิ๊กโจ๊ก' มีความสัมพันธ์อย่างไรกับอดีตนายกฯ ลั่น ส่วนนายกฯ ปัดตอบ ปม ป.ป.ช.ขอเวชระเบียบ ส่วน 'เทพไท' ชี้ช่องเอาผิดนักโทษเทวดา


วานนี้ (4 พ.ย. 67) นายรังสิมันต์ โรม รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึง การพิจารณาเรื่องการรักษาตัวของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ว่า โดยปกติ ในการสอบถามของ กมธ. เป็นไปตามกรอบอำนาจหน้าที่ของเราอยู่แล้ว ซึ่งมีหลายคนตั้งข้อสงสัยว่า เป็นอำนาจหน้าที่ของ กมธ.หรือไม่ แต่ตนยืนยันว่า กระบวนการยุติธรรมเป็นเรื่องความมั่นคง มันมีอำนาจโดยตรงในลักษณะที่ว่า เรามีชื่อเต็มคือการปฏิรูปประเทศ และยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรมด้วย


การพิจารณาเรื่องนี้ไม่ใช่พิจารณาครั้งแรก กมธ.เคยพิจารณามาก่อนหน้านี้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ก็เคยมาตอบข้อซักถาม และท่านยืนยันว่า การทำหน้าที่ของรัฐบาล โดยเฉพาะเรื่องกรณีนายทักษิณถูกต้องทุกอย่าง ซึ่งไม่เป็นไร เราเองก็พิจารณาให้รอบด้าน


ซึ่งประเด็นนี้ มีที่มาที่ไปจากกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า ได้เจอนายทักษิณ ซึ่งส่งผลให้มีประเด็นถัดมาว่า การที่ไปอยู่ชั้น 14 การเจ็บป่วยไม่สบายเป็นจริงหรือไม่ ทำให้มีการเชิญแพทย์เข้ามา การพบปะแบบนั้น ไม่สามารถมองเป็นเรื่องปกติได้เลย


ด้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า ตนบอกไปแล้ว เรื่องนี้มันอยู่ในกระบวนการยุติธรรมแล้ว อยู่ในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามมการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เขากำลังสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน ถ้าเราไปพูด ไปเปิดเผย ความลับก็จะรั่วไหล โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน กมธ.มี สส.จากหลายพรรค มีพรรคเพื่อไทยด้วย เราไปเปิดให้เขาแบบนั้น มันก็ดูไม่เหมาะสม จึงคิดว่าไปควรไป


เมื่อถามว่าการเชิญครั้งนี้ มี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ด้วย ได้พูดคุยกับ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ตอนนั้น ออกรายการ ตนบอกไม่รู้ เพราะไม่เคยได้ยิน แล้ว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะได้ขึ้นไปชั้น 14 หรือไม่ ก็ไม่ทราบ ก็โทรหาว่าตกลงเราไปชั้น 14 บ้างหรือไม่ เขาก็บอกมาตามตรงว่า “เคยไปครับ ไปครับ”


เมื่อถามว่า ว่าถ้า ป.ป.ช.เชิญ จะไปหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ก็บอกว่า “ไปครับ” ทั้งนี้ ตนคิดว่าต้องไปถามกับเจ้าตัวเองว่าไปทำอะไร “พี่น่ะ ไม่ได้รู้ว่าเขาไปหรอกนะ ก็เป็นเรื่องของเขานะ โทรถาม เขาก็ยอมรับว่าไปมาครั้งหนึ่ง”


พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ระบุว่า ป.ป.ช. พยายามขอเวชระเบียนจากแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ตนจึงบอกว่าแค่นี้ไม่พอหรอก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวนายทักษิณ เขาเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นผู้บัญชาการข้าราชการตำรวจ และ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็ได้รับมอบหมายให้ดูแล สตช. ก็ไปขอทางนี้สิ นายกรัฐมนตรี และนายภูมิธรรมต้องสั่งแพทย์ใหญ่ ไม่เช่นนั้นต้องรับผิดชอบฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่


พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังระบุอีกว่า ให้ ป.ป.ช. เชิญนางสาวแพทองธาร, คุณหญิงพจมาน และพี่น้อง ครอบครัวคนอื่น ๆ มาสอบถาม แต่ก็อยากถามว่า ป.ป.ช. จะกล้าเชิญ 'ครอบครัวทักษิณ'


ด้าน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. เปิดเผยถึง กรณีมีกระแสข่าวคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พยายามขอเวชระเบียนการรักษาตัวของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จากโรงพยาบาลตำรวจไปถึง 3 ครั้ง แต่ไม่ได้รับ โดยระบุว่าตนเองทราบเรื่องแล้วว่า มีหน่วยงาน หรือองค์กรอิสระได้มีการติดต่อขอข้อมูลการรักษาตัวของนายทักษิณจาก รพ.ตำรวจ แล้ว


แต่การบริหารราชการ ถึงแม้ตนเองจะกำกับดูแล รพ.ตำรวจ แต่อำนาจสิทธิ์ขาดขึ้นอยู่กับคณะกรรมการของ รพ.ตำรวจ ที่จะต้องพิจารณาคำร้องขอว่า สามารถให้ได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับพิจารณาของคณะกรรมการฯ หากเห็นว่ากระทบสิทธิส่วนบุคคลของผู้ป่วย ไม่ให้ก็ได้ อยู่ที่คณะกรรมการฯจะพิจารณา ดังนั้น เรื่องดังกล่าวต้องสอบถามจาก รพ.ตำรวจ เท่านั้น


ทั้งนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ยืนยันว่า ไม่ต้องขอความเห็นจาก ผบ.ตร. ส่วนเรื่องดังกล่าวจะมีนัยยะอะไรหรือไม่ ระบุว่า ผมไม่ทราบว่ามีนัยยะหรือไม่ แต่ได้กำชับให้ปฎิบ้ติตามกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้อง


ด้าน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธคำถามสื่อมวลชนทั้งก่อนประชุม และหลังประชุม หัวหน้าส่วนราชการ ถึงกรณีคณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ขอเวชระเบียนการพักรักษาตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ จะพร้อมมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือไม่ ซึ่งนายกรัฐมนตรี ฟังคำถาม แต่ไม่ตอบ


ผู้สื่อข่าวถึงถามย้ำว่า จำเป็นต้องใช้อำนาจนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่งเวชระเบียนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือไม่ แต่นายกรัฐมนตรี ตอบเพียงว่า "เราเจอกันวันพรุ่งนี้ เนอะ"


ในเวลาต่อมา นายรังสิมันต์ โรม รองหัวหน้าพรรคประชาชนในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ เรื่องการรักษาตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ว่าราเองอยู่ในฐานะของสภา รัฐบาลอยู่ภายใต้ความไว้วางใจของรัฐสภา จึงคิดว่าเรื่องนี้มีความสำคัญที่ต้องแสวงหาข้อเท็จจริง แน่นอนตนทราบดีว่าเรื่องนี้อยู่ในชั้น ป.ป.ช. เราก็คงไม่เข้าไปแทรกแซง หรือกระทำการขัดตรงกรอบกฎหมายที่ให้อำนาจองค์กรอิสระ แต่มันมีเรื่องของความรับผิดชอบทางการเมือง ซึ่งตรงนี้เป็นจุดที่เราพยายามแสวงหาข้อเท็จจริงอยู่


ผมคิดว่าบิ๊กโจ๊กเกี่ยวข้องกับหลายกรณีในช่วงที่ยังปฎิบัติหน้าที่เป็นตำรวจ ในหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่สมเด็จฮุน เซน ไปเจอคุณทักษิณ บิ๊กโจ๊กก็เข้าไปอยู่แถวนั้น เราก็คงได้ดูว่าตกลงแล้วบิ๊กโจ๊กกับคุณทักษิณ สุดท้ายเป็นอย่างไร เราคงได้รับฟังจากปากคำของบิ๊กโจ๊ก


ส่วน นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส. นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊ก เทพไท เสนพงศ์-คุยการเมือง ระบุว่าชี้ช่อง รังสิมันต์ โรม เอาผิดนักโทษเทวดา


ในฐานะที่ผมมีประสบการณ์ตรง ในเรื่องนักโทษป่วยต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล จึงขอแนะนำให้นายรังสิมันต์ โรม ประธานคณะกรรมาธิการฯ ได้ดำเนินการนอกจากจะเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้าให้ข้อมูลแล้ว อยากให้เรียกสมุดบันทึกสีน้ำเงินเล่มใหญ่ ที่มีการบันทึกการตรวจผู้ป่วยของเวรตรวจประจำวันทุกวัน ที่ต้องรายงานต่อผู้บังคับบัญชาการเรือนจำ พร้อมกับการถ่ายรูปผู้ป่วยที่เป็นนักโทษติดกุญแจโซ่ตรวนที่ขากับเตียงนอน ส่งรายงานทางแอแพลิเคชั่นไลน์ ถึงผู้บัญชาการเรือนจำทุกวันเช่นกัน


ซึ่งเป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่า นายทักษิณพักรักษาตัวอยู่ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจจริงหรือไม่ และมีใครได้เข้าเยี่ยมในแต่ละวันบ้างหรือไม่ เพราะหลักฐานจากทีวีวงจรปิดของโรงพยาบาลตำรวจที่อ้างว่าเสีย จึงไม่สามารถนำมายืนยันได้ จึงจำเป็นต้องใช้ข้อมูลจากเอกสารสมุดบันทึก และรายงานจากแอพพลิเคชั่นไลน์แทน ถ้าไม่มีหลักฐานชิ้นนี้ สามารถสันนิษฐานได้เลยว่า มีเหตุผิดปกติเกิดขึ้น


ขอให้คณะกรรมาธิการชุดนี้ได้สอบสวนและค้นหาความจริงเกี่ยวกับนายทักษิณให้กับสังคมได้รับรู้ ขออย่าเป็น“มวยล้มต้มคนดู”ก็แล้วกัน


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/B-pHAGMDF0Q


คุณอาจสนใจ

Related News