นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับคำร้องยุบพรรคเพื่อไทย และ 6 พรรคการเมือง ได้มีการพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลในวงดินเนอร์วันนี้หรือไม่ ว่า ไม่ได้ตรงกับข้อกล่าวหาใดๆ ฉะนั้นจึงไม่มีใครมีความกังวล
เมื่อถามว่านายกฯ จะแก้ข้อกล่าวหาอย่างไรกรณี 6 พรรคร่วมรัฐบาลเดินทางไปที่บ้านจันทร์ส่องหล้า และพร้อมที่จะเข้าชี้แจงต่อ กกต. หรือไม่ นายกฯ กล่าวย้ำว่า ทุกอย่างมันไม่ตรงกับข้อกล่าวหาอยู่แล้ว แต่ในทางกฎหมายก็ต้องให้ให้ความร่วมมือ แต่ก็ไม่มีอะไรที่จะต้องห่วง
เมื่อถามว่านายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทยให้สัมภาษณ์ ว่า ที่ถูกยื่นร้องเพราะเอาพรรคพลังประชารัฐออกจากพรรคร่วมรัฐบาล นายกรัฐมนตรี ทำหน้างง ก่อนจะหันหน้าไปหานายสรวงศ์ แล้วถามผู้สื่อข่าวว่า “สรวงศ์ไหน ใช่ สรวงศ์นี้หรือเปล่าคะ”
ก่อนที่นายสรวงศ์ จะปฏิเสธว่า ไม่น่าจะใช่สรวงศ์นี้นะครับที่ให้สัมภาษณ์แบบนั้น พร้อมระบุด้วยว่า แต่จริง ๆ แล้วเรื่องนี้อยู่ในคำร้องข้อ 5 ของเขา
เมื่อถามว่าจากกรณีนี้พรรคร่วมรัฐบาลต้องออกห่างจาก นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเพื่อที่จะไม่ให้ถูกมองว่าครอบงำหรือไม่ นายกฯ ระบุว่า ถ้าเราไปทานข้าวร่วมกัน จะเรียกว่าครอบงำเลยหรือ ยกตัวอย่างถ้าดิฉันทานข้าวกับอดีตนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน จะเป็นการครอบงำหรือเปล่า ไม่แน่ใจว่าความสัมพันธ์ที่ดี มันคือความสัมพันธ์ที่ดี ซึ่งไม่ใช่การครอบงำ
“ซึ่งดิฉันเชื่อว่าหลายๆ ท่านในที่นี้รักเคารพคุณ ทักษิณ บางทีอาจไม่ใช่การคุยการเมืองเลยด้วยซ้ำ หรืออาจจะเป็นการคุยการเมืองแต่เป็นการเมืองเมื่อ 20 ปีที่แล้ว สมัยนั้นใครเป็นรัฐมนตรีสมัยแรก มันเป็นการคุยของคนที่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน มันเป็นเรื่องนั้นเป็นส่วนใหญ่”
เมื่อถามว่ามีความมั่นใจ ในทีมกฎหมายและข้อต่อสู้ใช่หรือไม่ และจะไม่ทำให้ตนเองสะดุดเหมือนในรัฐบาลนายเศรษฐา นางสาวแพทองธารกล่าวว่า ทุกๆ คนมีความคิดเป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นพรรคอื่นๆ ก็ตาม หากโดนเรื่องใดๆ พรรคต้องมีกรรมการบริหารพรรค ต้องได้รับคำปรึกษากันก่อน ถ้าไม่มีความเห็นด้วยก็ครอบงำอะไรไม่ได้ทั้งสิ้น ในพรรคต้องคุยกันเองและตกลงกันเอง ฉะนั้นถ้าจะพูดว่าการติดต่อคุณทักษิณ ซึ่งวันนี้กลับมาอยู่เมืองไทยแล้วเป็นการครอบงำก็ต้องครอบงำไปทุกอย่างแล้ว ถ้าพูดถึงคุณทักษิณ แล้วเป็นการครอบงำมันก็ไม่ได้