"ทนายตั้ม" บุก พรรคพลังประชารัฐ ยื่นสอบนาย "ส." ปมคลิปเสียงหลุด เรียกรับสินบน "บอสพอล" เดือนละ 1 แสน

"ทนายตั้ม" บุก พรรคพลังประชารัฐ ยื่นสอบนาย "ส." ปมคลิปเสียงหลุด เรียกรับสินบน "บอสพอล" เดือนละ 1 แสน จี้ “ลุงป้อม” ฟันพ้นสมาชิกพรรค พร้อมเตือน “ลุงป้อม” เสียใจมาแล้วกี่ครั้ง อยากปกป้องก็ตามใจ

นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน เดินทางมายื่นหนังสือถึง พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ โดยมีเจ้าหน้าที่ภายในพรรคพลังประชารัฐลงมารับหนังสือแทน ทนายตั้ม ระบุว่าวันนี้อยากให้ตรวจสอบคลิปเสียงที่มีการหลุดออกมาในโลกโซเชียลเกี่ยวกับบอสพอล และบริษัทดิไอคอน ที่มีบุคคลมีการเรียกรับเงินเดือนละ 100,000 บาทจากบอสพอล และสามารถโยกย้ายเข้ามารับราชการว่าคลิปเสียง และบุคคลดังกล่าวใช่ “นายส.” สมาชิกพรรคพลังประชารัฐหรือไม่

แต่จากการตรวจสอบได้นำคลิปเสียงดังกล่าวไปให้บุคคลที่สนิทฟังไม่ว่าจะเป็นนายวัน อยู่บำรุง กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ นายสิระ เจนจาคะ อดีตสส.พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งทั้งสองยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นเสียงของนายส.สมาชิกพรรคพลังประชารัฐจริง ซึ่งส่วนตัวก็ไม่รู้ว่าพรรคพลังประชารัฐจะมีมติหรือแนวทางอย่างไรก็คงจะต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดถึงมาตรการการเอาผิดบุคคลดังกล่าว


ซึ่งส่วนตัวของทนายตั้ม มองว่าหากมีบุคคลที่อยู่ภายในพรรคกระทำความผิดเช่นนี้ก็ควรที่จะขับออกจากพรรคไป และอยากจะให้สื่อมวลชนช่วยตรวจสอบบุคคลดังกล่าวหลังมีข้อมูลว่านายส. ได้ใช้เงินสดซื้อบ้านในราคาหลาย 10 หลายในย่านราชพฤกษ์ นอกจากนี้นายส. ยังเคยเคลื่อนไหวโดยการก่อตั้งสมาคมต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย เพื่อเรียกรับผลประโยชน์ ซึ่งทนายตั้มก็ได้ตั้งข้อสังเกตว่าทางสมาคมดังกล่าวมีการตรวจสอบเอาผิดบริษัทขายตรง อื่นหลายบริษัทแต่ทำไม ถึงไม่ตรวจสอบบริษัทดิไอคอน


ส่วนกรณีที่ก่อนหน้านี้นายส.ออกมาบอกว่าตนเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคลิปเสียงดังกล่าว พร้อมบอกว่าเสียงดังกล่าวไม่ใช่เสียงตัวเองทนายตั้มบอกว่า ไม่อายบ้างหรือคนทั้งประเทศเขารู้กันหมดแล้ว การที่นายส. จะมาบอกว่าเป็นเสียง AI อยากให้ออกมายอมรับความจริงอยากลูกผู้ชาย ควรยอมรับแบบแมนๆ


ส่วนกรณีที่มีผู้สื่อข่าวโทรศัพท์สอบถามนายส. จะมีการมายื่นหนังสือที่พรรค นายส. บอกกับนักข่าวว่า “ถ้าจะยื่นก็ยื่นมาสิ ตนเองไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ได้กลัวอะไร“ กรณีนี้นายตั้มระบุว่า บอกว่านายส.เป็นคนที่ไม่ค่อยแคร์ใครซักเท่าไหร่ นายส.คิดว่าตัวเองมีความสนิทสนมรวมถึงเป็นลูกรักของ พลเอกประวิตรเป็นอย่างดี ทนายตั้ม จึงฝากไปถึงพลเอกประวิตร ว่าเสียใจกับบุคคลนี้มาแล้วกี่ครั้งแล้ว อะไรที่เขาเคยรับปากไว้เขาเคยทำได้หรือเปล่า ถ้าหากอยากปกป้องบุคคลนี้ก็ตามใจ


ส่วนกรณีที่นายส. ระบุว่าไม่ให้ความสำคัญกับการตรวจสอบของพรรค ทนายตั้มระบุว่า ก็เป็นเรื่องของคุณ เพราะเป็นพรรคของคุณเอง ก็อยู่ที่พรรคว่า จะพิจารณาอย่างไรหากนายส.ไม่ให้ความร่วมมือ


ทนายตั้ม ก็เชื่อว่าการตรวจสอบน่าจะใช้เวลาไม่นาน เพราะ มีวิธีการในการตรวจสอบหลายอย่างเช่น เชิญนายวัน อยู่บำรุง และนายสิระมายืนยัน หรือแม้กระทั่ง ให้บอสพอลมายืนยัน ทนายตั้ม ยืนยันว่าไม่ใช่การกลั่นแกล้งทางการเมือง เพราะตนเองไม่ได้สังกัดพรรคการเมืองใด ยืนยันว่าไม่ใช่การกลั่นแกล้งทางการเมืองอย่างแน่นอน


เมื่อถามว่าหลังจากยื่นหนังสือทางพรรคได้รับปากอะไรหรือไม่ ทนายตั้มบอกว่าก่อนหน้านี้ได้มีการติดต่อเข้ามาแต่ทางพรรคบอกว่าไม่มีใครที่จะสามารถลงมารับหนังสือได้ซึ่งตนเองคิดว่าถ้าไม่มีใครรับหนังสือก็จะยื่นหนังสือดังกล่าวให้กับรปภ. หรือฝากไว้ที่ศาลพระภูมิ แต่วันนี้ได้รับความร่วมมือได้มีเจ้าหน้าที่ลงมารับหนังสือก็รู้สึกดี