เลือกตั้งและการเมือง

'เจเศรษฐ์' สะอื้นกลางสภา - สส.ยืนไว้อาลัย ถกญัตติด่วน เหตุสลด 'ไฟไหม้รถบัส'

โดย nattachat_c

3 ต.ค. 2567

33 views

วานนี้ (2 ต.ค. 67) ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม พิจารณาญัตติด่วนเรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาศึกษาแนวทาง เสนอข้อคิดเห็น และการยกระดับมาตรฐานการป้องกันการเกิดขึ้น กรณีรถบัสทัศนศึกษาเกิดเหตุเพลิงไหม้ และหาแนวทางช่วยเหลือ และเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ ที่เสนอโดยนายเจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย, นพ.ทศพร เสรีรักษ์ สส.แพร่ พรรคเพื่อไทย และ น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กทม. พรรคประชาชน


โดย นายเจเศรษฐ์ แถลงหลักการด้วยน้ำเสียงสะอื้นตลอดเวลา ว่า สิ่งที่ตนจะพูดอาจจะทำให้เกิดการกระทบกระเทือนจิตใจของคนที่รับชมอยู่ แต่ตนต้องพูดเพื่อให้ประชาชนรับรู้ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ตนในนามคนอุทัยธานี ในนามครอบครัวผู้ที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ต้องขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปช่วยเหลืออย่างเต็มความสามารถ และขอขอบคุณทุกการโอบอุ้ม ปลอบประโลมของทุกท่านที่ส่งมาให้เรา แต่วันนี้ พวกเราขอเก็บความเจ็บซ้ำนั้น ขอให้เป็นพวกเราที่รวบรวมเอาความเจ็บซ้ำนั้นเก็บไว้กับเรา และขอให้เป็นสิ่งที่ได้รับการเรียนรู้ การแก้ไข การยกระดับการป้องกันเพื่อจะไม่ให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับใครอีก


นายเจเศรษฐ์ กล่าวต่อว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น น้อง ๆ ที่เดินทางมาเพื่อตั้งใจจะมาเรียนรู้ เก็บเกี่ยวประสบการณ์ในที่ที่บ้านเขาไม่มี มาในที่เขาใฝ่ฝันจะมา พร้อมกับไปบอกเล่าเรื่องราวให้ผู้ปกครองฟัง แต่ก็ยังมีน้องๆ และคุณครูที่ ขณะนี้ยังไม่ได้เดินทางกลับไปที่จ.อุทัยธานี


ทั้งนี้ เมื่อวานนี้ตนต้องเห็นสภาพที่คุณครูมือลวกไฟไหม้จากการช่วยเด็ก แต่ยังนั่งลงแล้วบ่นโทษตัวเองว่ายังทำได้ไม่มากพอ ยังทำได้ไม่ดีพอ ตนต้องเห็นพี่ชายที่ไม่สามารถดูแลน้อง ไม่สามารถพาน้องกลับบ้านได้ เฝ้าโทษตัวเองว่าเขาไม่สามารถดูแลน้องได้ ตนต้องเห็นพ่อแม่ผู้เสียชีวิตเดินแล้วเอ่ยชื่อของลูกตัวเองเพื่อสอบถาม เพราะอยากได้ยินว่าลูกของเขาไม่ได้อยู่บนรถคันนั้นหรือลูกเขาลงจากรถได้


ญาติผู้เสียชีวิตไม่ใช่แค่คนอุทัยธานีหรือประชาชนคนไทยเพียงอย่างเดียว แต่คนทุกคนที่เป็นมนุษย์เมื่อรับรู้เรื่องราวนี้ล้วนเศร้า วันนี้ พวกเรากำลังจะร่วมกันเพื่อหาแนวทางการแก้ไขในสิ่งที่เกิดขึ้น และขอให้รัฐบาลรวบรวมเพื่อออกมาตรการอย่างเป็นรูปธรรม


วันนี้ พวกเราไม่ขอเป็นบทเรียนหรือไม่ให้ใครมาถอดบทเรียนแล้ว เพราะมีการวนลูปซ้ำ ๆ หลายเหตุการณ์เกินไป แต่ขอเกิดเป็นการเรียนรู้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดการตื่นตระหนัก เพื่อให้พวกเราทุกคนตระหนักถึงมาตรการที่จะมาป้องกัน สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องของการเมือง ไม่ใช่เรื่องของพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่เป็นเรื่องของเราทุกคนที่จะต้องช่วยกันระดมความคิด แล้วเอาประสบการณ์มาสู่การแก้ไขจริง ๆ สักครั้ง สุดท้ายนี้ ผมขอสดุดีคุณครูทั้ง 3 คนที่ได้ปฏิบัติหน้าที่จนถึงลมหายใจสุดท้ายของชีวิต แต่พวกผมให้คำมั่นสัญญาว่าพวกผมจะสืบทอดเจตนารมณ์ของคุณครูที่พร้อมพลีกาย ปกป้องชีวิตน้อง ๆ นักเรียน


ด้าน พลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้แถลงข่าว โดยมีอาการมือสั่นน้ำตาคลออยู่ เป็นระยะ จนบางช่วง ต้องหยุดนิ่ง ชะงัก พูดต่อไม่ได้

พลตำรวจเอกเพิ่มพูน ได้ขอชี้แจงกับสื่อและโซเชียล ที่แสดงความเห็นว่า เหตุการณ์นี้สร้างความสูญเสีย แต่ทำไมบุคลากรบางคนมีหน้าตายิ้มแย้ม ว่า ทุกคนต่างเสียใจ และเจ็บปวดทุกคน แต่เมื่ออยู่หน้างานต้องเข้มแข็ง และเป็นกำลังใจ สร้างขวัญกำลังใจให้กับครูและนักเรียนกลับคืนมา เพราะทุกคนตกใจกันมาก ดังนั้นหน้างานจำเป็นต้องยิ้มแย้ม แต่ในความจริงแล้วตนเองปวดร้าวอย่างมาก


พลตำรวจเอกเพิ่มพูน กล่าวว่า ได้ออกคำสั่งให้งดกิจกรรมทัศนศึกษาทันทีในโรงเรียนทุกสังกัดทั่วประเทศ กรณีจำเป็นบางกิจกรรมต้องเรียนรู้ อาจห้ามไม่ได้ แต่จำเป็นต้องดูรายละเอียดความปลอดภัยและเตรียมแผนตรวจสอบเส้นทาง


รวมถึงจะประสานให้กรมการขนส่งทางบก มาตรวจสภาพรถก่อนทุกครั้ง และจะออกคำสั่งว่า รถที่จะนำมาใช้ในการทัศนศึกษา ต้องมีอายุไม่เกิน 5 ปี เพราะอุบัติเหตุครั้งนี้ พบว่า รถที่นำมาใช้เป็นรถเก่ามีอายุหลายสิบปี


พร้อมกันนี้ จะไปดูอายุเด็กเล็กและเด็กโต หากจำเป็นต้องไปทัศนศึกษาต้องใกล้บ้าน และให้ผู้ปกครองเดินทางไปด้วย เพราะเด็กเล็กยังช่วยเหลือตนเองไม่ได้ อีกทั้งจะต้องซักซ้อมแผนอพยพเมื่อมีเหตุฉุกเฉินให้นักเรียน


ด้าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ท่านนายกฯ ท่านได้สั่งการว่า เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่มีความรุนแรง จะต้องดูแลกันเต็มที่ ซึ่งทุกฝ่ายน้อมรับไปปฏิบัติ ล่าสุด มีการส่ง นักจิตวิทยาเข้าไปดูแลครอบครัวผู้สูญเสีย ช่วยกันให้กำลังใจกัน และการช่วยเหลือส่วนต่าง ๆ จะตามมา


ผู้ปกครองขอให้อย่ามีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นอีก ขอให้มีมาตรการมีมาตรฐานที่ดีในการดูแลลูกหลานของพวกเขา ซึ่งรัฐบาลก็ต้องน้อมรับเรื่องนี้ไป ดำเนินการอย่างเต็มที่


ตัวคนขับเอง ตัวเจ้าของรถ ผู้ประกอบการ ได้รับแจ้งจากทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติว่า ต้องดำเนินการตามกฎหมาย ต้องพิสูจน์ให้ชัดในทุกเรื่อง เช่น จริงหรือไม่ที่ว่า มีถังแก๊ส ที่มันเกิน จำนวนที่กำหนดไว้ในรถ กฎหมายบอกมี 6 ถัง ถ้ามันมีเกิน ก็ต้องจัดการ ที่กำหนดว่าจะต้องมีพนักงานขับรถต้องมีกี่คน แล้วรถที่เกิดเหตุเกิดอะไรขึ้น อันนี้ ต้องมาดูให้ละเอียด


นายอนุทิน บอกอีกว่า สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุนี้คือเรื่องมาตรฐานของคนขับรถ มาตรฐานการจัดรูปขบวนในการเดินทาง คุณภาพของรถ อย่างกรณีนี้ เราต้องไปดู เพราะตนเห็นกับตา ทำไมรถบัสคันหนึ่งถังแก๊สเยอะขนาดนี้ ตนนับๆ ดูเป็น 10 ถัง ตนไม่ทราบเพราะไม่เคยอยู่กรมขนส่ง ก็ต้องไปดูก่อนว่ากฎหมายเขากำหนดไว้อย่างไร มีถังแก๊ซตั้งแต่หน้ารถ กลางรถ ท้ายรถ ข้างรถ จะเดินทางอะไรกันกะจะแบบไม่ต้องพักต้องผ่อนกันเลยเหรอ


โดยมองจากสายตา ที่ตนเคยเป็นวิศวกรคุมงานมาก่อน ตนก็มองว่าควรจะมีแผ่นเหล็ก ที่คอยกั้นไม่ให้ประกายไฟถึงตัว คือจะต้องเซฟตี้มากกว่านี้ เป็นพื้นที่นิรภัย ตนมั่นใจว่ามาตรฐานของกรมขนส่งทางบก ของเรามีอยู่แล้ว แต่เราไม่รู้ว่ารถคันนี้ผ่านการตรวจสภาพมาอย่างไร ตำรวจก็คงจะต้องทำหน้าที่การสืบขยายผล แต่ที่เห็นเมื่อวานถามว่าปลอดภัยหรือไม่ ยืนยันว่าไม่ปลอดภัยแน่นอน


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/JNIJUmgSjj8



คุณอาจสนใจ

Related News