เลือกตั้งและการเมือง

“ชวน” สะเทือนใจ “บัสไฟไหม้” กรีดเจ้าหน้าที่ ถ้าเป็นลูกหลานท่านจะรู้สึกอย่างไร ย้ำยกเลิก “ทัศนศึกษา” ไม่ใช่ทางออก

2 ต.ค. 2567

302 views

วันนี้ (2 ต.ค. 2567) ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาคนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธานในการประชุม วาระการพิจารณาญัตติด่วนศึกษาแนวทางเสนอข้อคิดเห็นและยกระดับมาตรฐานในการป้องกันการเกิดเหตุ กรณีรถบัสทัศนศึกษาไฟไหม้


ช่วงหนึ่ง นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ขอใช้สิทธิ์อภิปรายว่า ตนต้องพูด เนื่องจากเรื่องทำนองนี้เคยเกิดขึ้นหลายครั้ง เรื่องนี้เป็นกรณีที่กระทบกระเทือนคนจำนวนมากเป็นพิเศษ เราต้องเสียทรัพยากรสำคัญที่สุดของชาติที่เป็นนักเรียน กระทบกระเทือนความรู้สึกของพ่อแม่ผู้ปกครองรวมถึงคนที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง หรือคนที่มีลูกหลานก็มีความรู้สึกเช่นเดียวกัน ตนได้ฟังเพื่อนสมาชิกหลายท่านกล่าว จึงคิดว่าควรนำประสบการณ์บางเรื่องมาเสนอเพื่อเป็นประโยชน์



ประเด็นแรก โรงเรียนทุกแห่งเริ่มวิตกกังวลว่าโรงเรียนจะพาเด็ก ไปทัศนศึกษาหรือไม่ พ่อแม่อาจจะไม่ให้ไปโรงเรียนอาจจะยกเลิก ตนอยากเรียนว่า เราต้องไม่ยกเลิก การทัศนศึกษาคือเรื่องสำคัญมากของเด็กไทย ให้เขารู้จักบ้านเมืองตัวเอง ให้มีประสบการณ์ ดังนั้น สิ่งเหล่านี้จะต้องทำต่อไป



“เพียงแต่เหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้เราระมัดระวังมากขึ้น ว่าวัยใด ชั้นใด ควรไปไกลแค่ไหนอย่างไร แต่ได้โปรด อย่าตัดสินแก้ปัญหาโดยวิธีหนีปัญหา คือต่อไปนี้ไม่พาเด็กออกไปแล้ว เหมือนต้นไม้ล้ม 1 ต้น เกิดรถเสียหาย โค่นต้นไม้ตลอดแถวทั้งถนน วิธีนี้ไม่ได้เป็นการแก้ปัญหา แต่เป็นการหนีปัญหา ขอท่านผู้ปกครองและโรงเรียนทั้งหลายทำความเข้าใจ อย่าหนีปัญหาครับ เราเผชิญปัญหาเพียงแต่เราใช้เหตุการณ์นี้เป็นวิธีการในการที่จะหาทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำขึ้นมาอีก” นายชวน กล่าว



นายชวน กล่าวว่า รถคันที่เกิดเหตุเมื่อวานนี้อายุมากกว่าเพื่อนสมาชิกในห้องประชุมนี้เป็นส่วนใหญ่ ไม่เคยมี สส. คนใดอยู่ในสภาตอนที่จดทะเบียนใช้รถคันนี้



“มีผมอยู่คนเดียว ผมเป็นผู้แทนสมัยแรก ปีที่ 2 พ.ศ.2513 ก็นับว่าเก่งที่รถอายุ 54 ปี ยังใช้ได้ ก็มองในทางที่ดี เขาคงดูแลรักษาคุณภาพได้ดี แต่หากมองอายุรถ ไม่มั่นใจครับ ขอฝากกรรมาธิการที่ศึกษาต่อไปว่าสภาพรถเป็นอย่างไร ยานพาหนะที่ใช้ต้องระมัดระวัง ผมทราบดีว่าเรามีกฎเกณฑ์ที่ดี แต่ไม่มั่นใจว่าเวลาตรวจคุณภาพของยานพาหนะเหล่านี้ การตรวจสอบนั้น สามารถตรวจสอบได้จริงหรือไม่ หรือปล่อยเลยตามเลย หรือจ่ายเงินมาแล้วไม่ต้องตรวจ ขอฝากว่าอย่างไรก็ตามฝ่ายเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบในกระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคงต้องดูแลต่อไป” นายชวน กล่าว



นายชวน กล่าวต่อว่า ประการต่อไปคือความรับผิดชอบในการดูแลรถ นอกเหนือจากผู้ประกอบการที่จะต้องตระหนักถึงอันตรายมากกว่าต้นทุน ซึ่งเรื่องนี้มีหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแล หากดูแลเข้มงวดก็จะผ่านไปได้ โดยกลุ่มที่ขับรถเหล่านี้ มีสมาคมต่างๆ ที่รวมกลุ่มกัน ก็จะต้องคอยตรวจสอบสมาชิกของสมาคม ให้จัดรถให้เป็นไปตามคุณสมบัติที่สมาคมกำหนด



เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้น เราก็หวังว่าเป็นเหตุการณ์ครั้งสุดท้าย แต่ในที่สุดมันก็ไม่ได้เป็นครั้งสุดท้าย เช่นเดียวกับครั้งนี้ หากเรายังคงมีวิธีการเหมือนเดิม ไม่ยกระดับขึ้นมา เหตุการณ์ที่อาจจะรุนแรงกว่านี้หรือน้อยกว่านี้ในอนาคตก็อาจจะเกิดขึ้นมาอีก ก็ต้องกราบเรียนว่าหน่วยงานทั้งหลายที่มีหน้าที่ดูแลกฎเกณฑ์ต้องเข้มงวดกวดขันและปฏิบัติให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด



นายชวน ย้ำว่า ประเทศเราเป็นประเทศที่มีอุบัติเหตุติดอันดับโลก ตนต้องกราบเรียนว่าสมัยที่เป็นประธานรัฐสภานั้น ต้องทำหนังสือถึงเอกอัครราชทูตเกาหลี เพราะนักกีฬาเหรียญทองถูกรถกระบะชนเสียชีวิตที่เชียงใหม่ รวมถึงเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทย ต้องฝากขอโทษครอบครัวเยาวชนที่มาเสียชีวิตที่ภูเก็ต เรื่องเหล่านี้ก็มาจากความประมาทและความไม่จริงจังต่อการรักษาระเบียบวินัย โดยส่วนตัวได้สนับสนุนและอภิปรายเรื่องนี้มาโดยตลอด และคิดว่าทุกหน่วยงานให้ความเอาใจใส่แต่เมื่อถึงเวลาจริงจะมีปัญหาในทางปฏิบัติ



“ขอให้เจ้าหน้าที่นึกว่าถ้านักเรียนที่เสียชีวิตไปลูกหลานท่าน ผมเชื่อว่าถ้าไม่ใช่ลูกหลานท่าน ท่านก็รู้สึกแหละครับว่ากระทบกระเทือนแน่ แต่ถ้าเป็นลูกหลานท่าน ท่านจะคิดอย่างไรต่อกรณีที่ท่านละเลย ปล่อยให้มีการใช้ยานพาหนะที่ไม่เหมาะสม ดังนั้น สิ่งนี้น่าจะเป็นบทเรียนที่จะทำให้เรื่องการดูแลให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์กติกาจะดีขึ้น พวกเราได้ร่วมแสดงความเสียใจ แล้วผมขอให้กำลังใจกับครอบครัวนักเรียน” นายชวน กล่าว

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ