เลือกตั้งและการเมือง

นายกฯ เปิดทำเนียบ คุยจิตอาสา 12 ช่วยน้ำท่วม ลั่น อยากเห็นทุกข์ประชาชนสั้นที่สุด

โดย kanyapak_w

3 ชั่วโมงที่แล้ว

54 views

นายกฯ เปิดทำเนียบ​ คุยจิตอาสา 12 องค์กรถอดบนเรียน​ปัญหา​ หลังลงพื้นที่ช่วยน้ำท่วมเชียงราย​ เจ้าตัว​ ลั่น​ อยากเห็นทุกข์ประชาชนสั้นที่สุด ขออย่าห่วงรัฐบาลช่วยเต็มที่ ​ -​ ทีมตอบโต้ภัยพิบัติ​ ขอทำ​ "แอปพลิเคชัน​ กู้ภัยแห่งชาติ" ทั้งขอความช่วย-รายงานตัวหน่วยกู้ภัย​ ชี้​ วิธีการเดิมเสียเวลาเป็นครึ่งวัน​ ขณะ​ "แชมป์​ นักเจ็ตสกี" เสนอทำเขื่อนใช้เข็มรูปตัวแอล​ เชื่อม​ 2 ด่านแม่สาย -​ ยกถนนเกาะทราบ​ กันซ้ำรอย​ ส่วน​ "มูลนิธิเพชรเกษม" ขอรัฐบาลยกเว้นภาษี​องค์กรการกุศล​ -​ ด้านคนแม่สาย​ บอกชัด​ มีการแจ้งเตือนบ่อยจนขาดความน่าเชื่อถือ​-เครื่องมือช่วยไม่เพียงพอ​ -​ "ภูมิธรรม​" ย้ำ​ ชีวิตเป็นเรื่องสำคัญ​ อะไรทำได้ทำเลย คาดเรื่องเยียวยาสัปดาห์นี้ชัดเจน​



นางสาวแพทองธาร​ ชิน​วัตร​ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในงาน "ประสานพลัง ประสานใจ" ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล พร้อมพูดคุยหารือร่วมกับคณะจิตอาสา 12 องค์กร และภาคเอกชน​ อาทิ​ กองทัพบก หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา​ กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพเรือ สมาคมเจ็ตสกีแห่งประเทศไทย และอาสาสมัครกู้ภัยจากมูลนิธิ​ต่างๆ และร่วมมอบสิ่งของอุปโภค-บริโภค ไปยังพื้นที่ประสบภัย



โดยนายกฯ​ ระบุว่า​ ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความร่วมมือกับทางภาครัฐ เพราะเราก็ทราบตั้งแต่ต้น​ ว่า​ คนตรงนี้​ อยู่หน้างาน​ และได้เข้าไปช่วยพี่น้องประชาชนได้เยอะแยะมากมาย วันนี้ที่มาคุยกัน​ ก็ต้องอาศัยความร่วมมือกับทุกฝ่ายทั้งภาคเอกชน​ รัฐบาลและจิตอาสาในพื้นที่ต่างๆก็ต้องขอขอบพระคุณมากๆ ของตอนนี้หลั่งไหลไปในพื้นที่ผู้ประสบภัยเยอะ ฝ่ายที่อยู่หน้างาน​ ก็บอกว่าเรื่องอาหารการกินเพียงพอแล้ว แต่เราต้องมาย้อนดูว่า​ เราจะทำอะไรเพิ่มเติมได้อีก​ ช่วยเหลืออะไรได้อีก ตอนนี้น้ำจากภาคเหนือไปภาคอีสานแล้ว ดังนั้น​ ถ้ามีข้อมูลอะไรที่จะบอกรัฐบาลให้ซับพอร์ต​ ยืนยันว่​า​ เราพร้อมและยินดีช่วยเหลือผลัดกัน และหากมีอะไรที่รัฐบาลปรับปรุงตรงไหนได้​ ก็ขอให้แชร์กันตรงนี้เลย วันนี้​ มีภาคเอกชนมาช่วยและพร้อมที่จะซับพอร์ต​ ขอให้เดินเข้ามาบอกได้เลย



จากนั้นเปิดโอกาสให้หน่วยต่างๆได้เสนอแนะ โดยแชมป์​ กษิดิศ ธีระประทีป นักเจ็ตสกีชิงแชมป์โลก ตัวแทนจากสมาคมเจ็ตสกีแห่งประเทศไทย​ กล่าวเสนอแนะเป็นคนแรก​ ว่า​ พวกเราเป็นชาวจิตอาสา​ ที่เข้าไปช่วยพี่น้อง ชาวแม่สายในเฟสที่ 1 ทุกทีมทำได้ดี สามารถช่วยชีวิตชาวบ้านได้ค่อนข้างเยอะ ที่สำคัญกองทัพไท​ย​ เป็นหน่วยงานที่ปิดทองหลังพระ​ ช่วยเหลือชาวบ้านได้ค่อนข้างเยอะ พลเอกทรงวิทย์​ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด โดยเฉพาะในช่วงยามวิกาลหรือยามกลางคืน จิตอาสาจะไม่กล้าเข้าพื้นที่​ แต่กองทัพไทย​ยังคงลงพื้นที่ช่วยประชาชน​



ขณะที่เฟต​ 3 ในเรื่องของการป้องกัน ตนอยากเสนอให้มีการทำเขื่อนริมแม่น้ำสาย​ โดยการใช้เข็มตัว L ต่อกันทั้งสองฝั่ง และเอาดินเหนียวใส่ตรงกลาง มีแนวยาวประมาณ 2 กิโลเมตร​ ตั้งแต่ด่านแม่สายแห่งที่ 1 ไปด่านแม่สายแห่งที่ 2 เชื่อว่า​จะสามารถแก้ไขปัญหาและป้องกันน้ำท่วมได้​ พร้อมให้ยกระดับถนนตรงเกาะทราย​ และทำบังเกอร์​ ป้องกันน้ำกระเซาะถนน ตนจึงอยากเสนอแผนนี้ให้กับคณะกรรมการน้ำ​ ผ่านท่านนายกรัฐมนตรี​ หาแผนนี้เห็นชอบ​ ตนก็จะเสนอตัวเข้าไปช่วย​ เพราะตนก็เป็นวิศวกรด้วย​



ทำให้นายกฯ​ กล่าวตอบว่า​ ส่วนตัวได้ลงไปในพื้นที่และเห็นว่าเจ็ตสกีสำคัญมาก เพราะจากที่เห็นเครื่องมือใหญ่​ไม่สามารถเข้าไปช่วยชาวบ้านได้​ แต่เจ็ตสกีเข้าไปได้​ ตนจึงได้พูดคุยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม​ ว่า​ อาจจำเป็นต้องจัดซื้อหรือไม่​



จากนั้น​ ตัวแทนทีมตอบโต้ภัยพิบัติ​ ได้เสนอ​รัฐบาลให้เป็นตัวกลาง​ จัดทำแอปพลิเคชัน​ สักหนึ่งตัว​ เป็น"กู้ภัยแห่งชาติ" ทั้งไว้ขอความช่วยเหลือและรายงานตัวหน่วยกู้ภัย เพราะที่ผ่านมาต้องไปรายงานตัวที่หน่วยงานราชการ​ เสียเวลาไปแล้วครึ่งวัน​ ซึ่งหากรายงานผ่าน แอปพลิเคชัน​ นี้ได้​ เขาก็จะได้สามารถเข้าหน้างานทำงานได้ทันที



ด้านตัวแทนมูลนิธิเพชรเกษม​ กล่าวว่า​ เหตุการณ์ภัยพิบัติครั้งนี้​ ภาคเอกชนทุกหน่วยงานเป็นแขนขาให้กับรัฐบาล​ ตนจึงอยากเสนอให้รัฐบาล ยกเว้นภาษีให้กับองค์กรการกุศลเพราะองค์กรการกุศลทำเพื่อประชาชนทำเพื่อประเทศ ขอให้พิจารณาและอนุเคราะห์ว่าองค์กรไหนเข้าเกณฑ์อย่างไรอยากให้ดูแลในส่วนนี้ เพราะอาสาสมัคร​ ไม่ได้ต้องการอะไรทำเรื่องหัวใจที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งช่วงนี้ยังคงต้องเฝ้าระวังเพราะยังเป็นน้ำและยังมีพายุที่จะเข้ามา ขณะเดียวกัน ขณะนี้ติดปัญหาเรื่องการบริหารจัดการ โดยเฉพาะการจราจรเพราะขณะนี้มีคนเอาของบริจาคไปจำนวนมาก



ขณะที่นายกรัฐมนตรี ตอบว่า​ เรื่องจราจรจะเร่งประสานไปที่จังหวัดให้เข้าไปแก้ไขโดยเร็ว ส่วนหน้าที่ของรัฐบาลที่ได้เน้นย้ำ​ ตั้งแต่​ ศปช.ขึ้นมา เพื่อพิจารณาว่าทำอย่างไรให้ค่าเยียวยาถึงประชาชนโดยเร็วที่สุดโดยยึดตามมติเก่าก่อนเพื่อให้เงินถึงมือประชาชนเร็วที่สุด



ขณะเดียวกันก็เห็นเส้นทางของน้ำแล้วจังหวัดหนองคายที่นี้ได้ประสานงานงานราชการและหน่วยงาน พร้อมยอมรับว่า​ ที่แม่สายเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงกว่าทุกทุกครั้งที่ที่ผ่านมา ไปคุยทางประเทศต้นน้ำ เพื่อเตรียมการรับมือในอนาคตไว้แล้ว จึงไม่ต้องห่วง รัฐบาลจะดำเนินการอย่างเต็มที่



จากนั้นตัวแทนกู้ภัยจากอำเภอแม่สาย ได้สะท้อนปัญหา เรื่องการแจ้งเตือนภัยพิบัติ ซึ่ง

การแจ้งเตือนเกิดขึ้นบ่อยจนประชาชนไม่มีความมั่นใจและไม่มีความน่าเชื่อถือ เมื่อน้ำมาจริงทำให้ประชาชนตั้งตัวไม่ทัน และกู้ภัยในอำเภอแม่สายเอง มีอยู่เพียงสามหน่วย และที่สำคัญคือขาดเครื่องอุปกรณ์ในการช่วยเหลือประชาชน ซึ่งในวันแรกที่น้ำมาเจ้าหน้าที่​ทุกคนก็เข้าช่วยเหลืออย่างเต็มกำลัง แต่ไม่มีเรือ หรือ เจ็ตสกีรวมไปถึงอุปกรณ์ช่วยเหลือต่างๆ จะต้องรอหน่วยใหญ่ๆลงไปถึงพื้นที่ จึงสามารถนำเครื่องมือมาช่วยประชาชนได้



ด้านนายภูมิธรรม เวชย​ชัย​ รองนายก​รัฐมนตรี​และ กล่าวว่าสิ่งที่ท่านนายกฯสั่งการเป็นอันดับแรกคือการช่วยชีวิตคนเป็นเรื่องสำคัญที่สุด เพราะสิ่งอื่นที่เสียหายสามารถหาได้แต่ชีวิตหาไม่ได้ สิ่งที่เราทำตอนนี้ไม่ได้ทำเฉพาะพื้นราบแต่ยังทำบนดอยด้วยเพราะถูกตัดขาดโดยมีการส่งอาหารทางเฮลิคอปเตอร์และมีการแบ่งพื้นที่การทำงานในหลายส่วน



แล้วเมื่อคืนนี้ได้รับรายงานว่าขณะนี้ปัญหาเรื่องดินโคลนยังเป็นปัญหาสำคัญ เพราะมีดินโคลนเข้าไปอยู่บ้านเรือนประชาชนมากถึง 500 -1000 ครัวเรือน หากไม่รีบจัดการก็จะเป็นโคลนที่แห้งและจะจัดการยาก จึงได้มีการประสานงาน4หน่วยงานเมื่อคืนนี้ผ่านทางกองทัพไทย รวมถึงกระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย ซึ่งขณะนี้ได้นำกำลังพลขึ้นไปเพราะหากนำเครื่องจักรใหญ่เข้าไปก็จะจัดการยากเพราะโคลนเข้าไปอยู่ภายในบ้านของประชาชน



ขณะที่กระทรวงมหาดไทยก็ได้ให้อาสาสมัครเข้ามาช่วย เช่นเดียวกับกองทัพก็ได้ส่งกำลังพลและเครื่องมือบางส่วนเข้าไปเพิ่ม พร้อมประสานงานกับทางจังหวัดแบ่งคนรับผิดชอบได้ชัดเจน เพื่อมาประสานงานทำงานร่วมกับส่วนกลาง



ส่วนเรื่องกฎระเบียบเราคำนึงถึงเรื่องกฎหมายแต่จะไม่ให้เป็นปัญหาและอุปสรรคในการเข้าไปช่วยเหลือประชาชนอะไรที่เข้าทำได้ก่อนก็ให้ทำไปก่อน



ส่วนการเตือนภัยพายุวันที่ 20 - 22 กันยายนนี้ ได้ให้ทางจิสด้าและปภ.และ Operator ของภาคเอกชนต่างๆให้แจ้งเตือนผ่านทางมือถือประชาชนเลยทันที ขณะที่ปัญหาเรื่องน้ำเรื่องไฟที่เป็นปัญหาก็ได้มีการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปแล้ว



อย่างไรก็ตามขณะนี้ก็ได้มีการกระจายกำลังบางส่วนจากแม่สายเชียงรายไปช่วยพื้นที่อื่นๆโดยเฉพาะภาคอีสานที่จะต้องเตรียมรับมือกับพายุที่กำลังจะมา



วันนี้การช่วยเหลือประชาชนแม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์บ้างเป็นเรื่องธรรมดา แต่ต้องขอบคุณทุกภาคส่วนที่มาร่วมมือกันทั้ง ภาคเอกชน หน่วยงานราชการ องค์กร จิตอาสา เราใช้กำลังทั้งหมดเพื่อเข้าช่วยเหลือประชาชน แต่วันนี้เราก็ยังอยากได้ความช่วยเหลือโดยเฉพาะจากภาคเอกชน



ส่วนเรื่องการเยียวยาคาดว่าภายในหนึ่งสัปดาห์จะได้ความชัดเจน



นายภูมิธรรม​ ยังกล่าวชี้แจงว่า​ ถึงสถานการณ์ในช่วงแรกที่เกิดภัยพิบัติว่ารัฐบาลยังไม่มีอำนาจเต็มในการสั่งการ​ แต่นี่ไม่ใช่เงื่อนไข ได้มีการหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและกองทัพของ​ ว่านายกรัฐมนตรี​ มีความเป็นห่วง​ แต่ยังไม่มีอำนาจสั่งการ​ จะจัดการหารือกับทหาร เขาก็ยืนยันว่าจะต้องส่งอยู่แล้ว และส่งไปทันทีในวันที่ 10 กันยายน​



นายกรัฐมนตรี กล่าวทิ้งท้ายว่า ขอบคุณทุกคนที่สละเวลามาสะท้อนการทำงาน เชื่อว่าทุกหน่วยได้ทำงานเต็มที่ ตามหน้าที่แตกต่างกันไป ทุกส่วนส่วนสำคัญไม่ว่าจะเป็นหน้างานหรือเบื้องหลัง อยากให้ความทุกข์ของพี่น้องประชาชนสั้นที่สุดขณะที่เรื่องของการเยียวยา ก็อยากจะให้ฟื้นฟูกลับมาสู่สภาพเดิมเร็วที่สุดทั้งหมดคือศูนย์รวมน้ำใจคนไทยเพื่อที่จะช่วยคนไทยด้วยกันเอง



วันนี้เรามาร่วมกันเพราะมีจิตใจตรงกันที่อยากจะช่วยเหลือคนไทยด้วยกัน เพราะฉะนั้นไม่มีใครทำมากทำน้อยกว่ากัน แต่ทุกคนตั้งใจที่จะช่วยจริงๆแม้จะแค่ส่งกำลังใจ แต่ก็เป็นสิ่งดีๆที่ทุกคนมีกำลังใจทำงานต่อไป ให้กำลังใจพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยแล้วก็อยากให้กำลังใจคนช่วยเหลือหน้างานเพราะรู้ว่า 10 กว่าวันที่ผ่านมาเหนื่อยกันมากๆ



ขณะเดียวกันก็ขอบคุณภาคเอกชนที่ส่งสิ่งของให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย ให้ตรงตามความต้องการของผู้ประสบภัย



ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียังระบุว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี ฝากพระราชกระแสความห่วงใยและพระราชทานโรงครัวพระราชทานมาด้วย และภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นคนไทยก็ยังรักกัน

คุณอาจสนใจ

Related News