เลือกตั้งและการเมือง
‘จุลพันธ์’ แจงยิบ หลัง ‘ศิริกัญญา’ จี้ถามกลางสภา ปมแจกเงินหมื่น เฟส 2 ต้องรอถึงเมื่อไร
โดย nattachat_c
20 ก.ย. 2567
42 views
วานนี้ (19 ก.ย. 67) นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน) และคนพิการ โดยภาครัฐจะสนับสนุนเงินจำนวน 10,000 บาทต่อคน จำนวนประมาณ 14.55 ล้านราย แบ่งเป็น ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวนประมาณ 12.40 ล้านราย และคนพิการ จำนวนประมาณ 2.15 ล้านราย จึงขอประชาสัมพันธ์เพิ่มเติม ดังนี้
ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ยืนยันตัวตน (e-KYC) รับเงินทุกเดือน 300 บาท ต้องผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชน สามารถผูกบัญชีกับธนาคารใดก็ได้ที่มีบัญชีเงินฝาก โดยไม่จำกัดว่าต้องเป็นธนาคารของรัฐ แต่ต้องผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 16 ธันวาคม 2567 มิฉะนั้น จะถือว่าไม่ประสงค์รับเงินภายใต้โครงการ
ทั้งนี้ สามารถตรวจเช็กสิทธิ์ ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย. 2567 เป็นต้นไป ได้ที่...
- เว็บไซต์ https://โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ2567.cgd.go.th
- เว็บไซต์ https://govwelfare.cgd.go.th
- แอปพลิเคชัน 'รัฐจ่าย'
- ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หมายเลขโทรศัพท์ 0 2109 2345 ตั้งแต่วันจันทร์ – ศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 – 17.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
คนพิการที่ได้รับเงินเบี้ยความพิการอยู่แล้วในปัจจุบัน ไม่ว่าจะได้รับเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารหรือรับเงินสดผ่านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จะได้รับเงิน 10,000 บาท ผ่านช่องทางที่ได้รับเงินเบี้ยความพิการอยู่เดิม
คนพิการที่บัตรประจำตัวคนพิการหมดอายุ หรือผู้ได้รับเงินเบี้ยความพิการที่ไม่มีบัตรประจำตัวคนพิการ จะต้องต่ออายุบัตรประจำตัวคนพิการหรือทำบัตรประจำตัวคนพิการให้แล้วเสร็จก่อน จึงจะได้รับโอนเงินตามโครงการ อย่างไรก็ดี ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 3 ธันวาคม 2567 มิฉะนั้น จะถือว่าไม่ประสงค์รับเงินภายใต้โครงการดังกล่าว
นายพรชัยกล่าวอีกว่า ในกรณีที่จ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมายไม่สำเร็จในครั้งแรก จะมีการจ่ายเงินซ้ำ ให้แก่กลุ่มเป้าหมายดังกล่าวจำนวน 3 ครั้ง ได้แก่
ครั้งที่ 1 จ่ายเงินภายในวันที่ 22 ตุลาคม 2567 โดยกรณีคนพิการจะต้องทำบัตรหรือต่ออายุบัตรประจำตัว คนพิการภายในวันที่ 10 ตุลาคม 2567 และดำเนินการผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนภายในวันที่ 18 ตุลาคม 2567
ครั้งที่ 2 จ่ายเงินภายในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 ต้องทำบัตรหรือต่ออายุบัตรประจำตัว คนพิการภายในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 และดำเนินการผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนภายในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2567
ครั้งที่ 3 จ่ายเงินภายในวันที่ 22 ธันวาคม 2567 ต้องทำบัตรหรือต่ออายุบัตรประจำตัว คนพิการภายในวันที่ 3 ธันวาคม 2567 และดำเนินการ ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนภายในวันที่ 16 ธันวาคม 2567
ทั้งนี้ เมื่อพ้นกำหนดการการจ่ายเงินซ้ำ ครั้งที่ 3 แล้ว จะยุติการจ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมาย และถือว่ากลุ่มเป้าหมายไม่ประสงค์รับเงินภายใต้โครงการ
ในวันเดียวกัน ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ตั้งกระทู้ถามสดในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะโครงการดิจิทัลวอลเล็ต
ขอให้ตอบชัด ๆ ว่า จะแจกเมื่อไร กี่ครั้ง กี่คน และกี่บาท การเลื่อนครั้งนี้จะเลื่อนถึงเมื่อไร หากดูสถานการณ์การชี้วัดตัวไหนอีก ขอให้บอกให้ชัด ไม่ให้ประชาชนเกิดความหวังลม ๆ แล้ง ๆ
ด้าน นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงว่า เหตุผลที่แจ้งรายละเอียดล่าช้า เพื่อรอกระบวนการทางกฎหมายที่ชัดเจน ส่วนการผูกพร้อมเพย์ ที่สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนนั้นต้องขออภัย ทั้งนี้ การผูกพร้อมเพย์ ผู้พิการที่ได้รับเงินรายเดือน และมีกระบวนการโอนเงินผ่านช่องทางที่สมบูรณ์ ส่วนผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 13.5 ล้านราย มีผู้ได้สิทธิซ้ำผู้พิการ 1.1 ล้านราย ทั้งนี้ มี 1 ล้านราย ที่ไม่ได้ผูกพร้อมเพย์ ทั้งนี้ รัฐบาลจะเพิ่มการประชาสัมพันธ์ให้ดีมากขึ้น
นายจุลพันธ์ ชี้แจงด้วยว่า สำหรับเฟสถัดไปในกลุ่มที่เหลือ ยืนยันทำดิจิทัลวอลเล็ต เพื่อได้ประโยชน์ในวางโครงสร้างพื้นฐานของดิจิทัลของรัฐ ทั้งนี้ ข้อท้วงติงต่อการผูกพันงบประมาณข้ามปี รัฐบาลมั่นใจว่าสามารถทำได้ แต่ไม่ต้องการให้เกิดปัญหาถูกร้องเรียนเกิดขึ้นเนื่องจากในสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน ไม่ใช่เป็นความเสี่ยงของรัฐบาลเท่านั้น แต่กระทบต่อปากท้องของประชาชน เพราะความไม่มีเสถียรภาพของรัฐบาลชุดใดๆ สังคมไม่มั่นใจในการลงทุน การใช้สอย เป็นผลเชิงลบของระบบเศรษฐกิจ
นายจุลพันธ์ ชี้แจงต่อคำถามขอความชัดเจนในโครงการและการลงทะเบียนว่า ในส่วนของเฟสสอง มีงบอยู่ที่ 1.87 แสนล้านบาท ทั้งนี้มีการลงทะเบียนแล้ว 36 ล้านคน แต่ยังไม่ได้คัดกรอง ต้องรอกระบวน 2-3 อย่าง กลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟนมีประมาณ 4 ล้านราย โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเปราะบาง ดังนั้นตัวเลขที่ตรวจสอบแล้วจะเป็นตัวเลขที่ชัดเจน ทั้งนี้งบที่มีอยู่ หากขาดอีกไม่มาก จะดำเนินการเพื่อจ่ายในทีเดียว แต่หากไม่พออาจจะแบ่งยอด
เดิมกระตุ้นครั้งเดียวก้อนใหญ่ เพื่อให้เป็นแรงกระแทกสูง เมื่อโครงการปรับเป็นระลอก ต้องรักษาแรงเหวี่ยงของเศรษฐกิจให้เดินหน้าเข้มแข็ง ดังนั้นต้องรอความชัดเจนของการลงทะเบียน เบื้องต้นจะอยู่ในกรอบเดือน ต.ค.
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/T9ULc72zypk