เลือกตั้งและการเมือง

'นายกฯ อิ๊งค์' ไม่เสียสมาธิ คปท.ชุมนุม ประเดิม ครม.นัดแรก - เคาะงบกลาง 3,000 ล้าน เยียวยาน้ำท่วม

โดย nattachat_c

18 ก.ย. 2567

35 views

วานนี้ (17 ก.ย. 67) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินจากตึกไทยคู่ฟ้ามายังตึกบัญชาการ 1 เพื่อเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี นัดแรก ซึ่งระหว่างนั้นมีกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ชุมนุมกันอยู่บริเวณสะพานชมัยมรุเชษฐ์ และได้พูดผ่านเครื่องขยายเสียงสอบถามถึงความชอบธรรมในกระบวนยุติธรรมกับนายกรัฐมนตรี ทำให้เสียงเข้ามาภายในทำเนียบรัฐบาล


ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามว่า การมีกลุ่มผู้ชุมนุมมาชุมนุมทำให้เสียสมาธิหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ได้ยิน เพิ่งได้ยินเสียงตอนที่ผู้สื่อข่าวสอบถาม


ทั้งนี้ บรรยากาศบริเวณด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล ซึ่งมีการประชุมครม.แพทองธาร ชินวัตร อย่างเป็นทางการนัดแรก มีกลุ่ม คปท. ชุมนุม เพื่อทวงถาม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ถึงความชอบธรรมในกระบวนการยุติธรรม กรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี


โดยตำรวจ ได้ตรึงกำลังดูแลความปลอดภัย พร้อมนำรถตู้ 6 คันปิดการจราจร บนสะพานชมัยมรุเชฐ แยกพาณิชยการฯ


นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้ เห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอในหลักเกณฑ์การจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝนปี 2567 และขออนุมัติงบกลางฯรายการสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินและจำเป็นเร่งด่วน พ.ศ.2567 วงเงิน 3,045 ล้านบาท โดยขอให้กระทรวงมหาดไทยเร่งขั้นตอน และกระบวนการตรวจสอบให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และลดขั้นตอนเอกสารที่จะต้องยื่น เพื่อให้ความช่วยเหลือเข้าถึงประชาชนอย่างรวดเร็ว


พร้อมสั่งการให้ทุกส่วนราชการ พิจารณามาตรการช่วยเหลือเยียวยาประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยเพิ่มเติม จากกรณีปกติที่ดำเนินการอยู่แล้ว หากมีเรื่องใดที่มีความจำเป็นที่จะต้องเสนอ ครม. ก็ให้เร่งดำเนินการเพื่อช่วยเหลือเยียวยาประชาชนให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว


ส่วนกรอบระยะเวลาที่จะจ่ายเงินเยียวยาได้เร็วที่สุดจะเป็นเมื่อไหร่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 16 ก.ย. ที่ผ่านมา รัฐบาลได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) ซึ่งจะมีการเรียกประชุมในวันนี้ (18 ก.ย.67) คาดว่าจะมีรายงานออกมาจากนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธาน ศปช.


เมื่อถามถึงการพูดคุยกับประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นต้นทางน้ำ เพื่อหารือถึงมาตรการการระบายน้ำร่วมกันหรือไม่ นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทางกระทรวงการต่างประเทศ กำลังจะมีการพูดคุยกับประเทศต่างๆ ในกลุ่มลุ่มแม่น้ำโขง เช่น ประเทศเมียนมา เพื่อหาทางออกร่วมกัน ซึ่งจะต้องมีการพูดคุยกันอย่างจริงจัง เพราะเป็นปัญหาที่ไทยพบเจอเป็นระยะเวลายาวนาน และมีแผนในใจอยู่แล้วว่า อยากจะทำเรื่องนี้ให้จริงจัง เพราะเป็นความเดือนร้อนของประชาชนมายาวนาน และการจัดการน้ำก็เป็นแผนภาพใหญ่ซึ่งน้ำมาจากหลายทิศทาง ทั้งนี้ประเทศไทยก็เป็นประธานในกลุ่มลุ่มแม่น้ำโขงด้วย คิดว่าไทม์ไลน์ก็สามารถเริ่มพูดคุยได้ทันที


ดาน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติอนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 3,045.519 ล้านบาท เพื่อจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทุกภัยในช่วงฤดูฝนปี 2567 ซึ่งการจ่ายเงินจะเป็นไปตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีจ่ายเงินช่วยเหลือตามที่ ครม. อนุมัติในวันนี้ด้วยเช่นกัน


โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย จะเป็นหน่วยรับงบประมาณและดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อจ่ายเงินช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยผ่านธนาคารออมสิน ซึ่งทางธนาคารจะจ่ายเงินให้แก่ผู้ประสบภัยที่มีสิทธิโดยตรงผ่านระบบพร้อมเพย์ต่อไป


น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำหรับหลักเกณฑ์การจ่ายเงินช่วยเหลือ จะต้องเป็นอุทกภัยที่เกิดในช่วงฤดูฝน ปี 2567 ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 20 พ.ค. 67 ทั้งกรณีน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก น้ำลันตลิ่ง รวมถึงการระบายน้ำจนส่งผลกระทบทำให้ไม่สามารถดำรงชีวิตได้ ที่อยู่อาศัยนั้นต้องเป็นบ้านอยู่อาศัยเป็นประจำใน อยู่ในพื้นที่ประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย หรือ พื้นที่ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ใน 57 จังหวัด


น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า การจ่ายเงินช่วยเหลือครั้งนี้จะทำให้ ครัวเรือนผู้ประสบภัยจำนวน 338,391 ครัวเรือนใน 57 จังหวัด ซึ่งเป็นพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบ, พื้นที่ประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย, พื้นที่ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ได้รับความช่วยเหลืออย่างทั่วถึง และสามารถดำรงชีวิตเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว 


ทั้งนี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรกอย่างเป็นทางการ โดยกล่าวก่อนการประชุมว่า ได้แต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์อุทกภัยวาตภัยและดินโคลนถล่ม ( คอส.) และจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอุทกภัย วาตภัยและดินโคลนถล่ม (ศปช.) ขอให้ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ดำเนินการตามแผนงานที่วางไว้ และหากมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้นให้เร่งรัดดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างทันท่วงที โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีรายงานจาก สทนช. ว่าปริมาณน้ำฝนตกมากในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและพะเยาและอีกหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคตะวันออก



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/Kz5q4hYzuXs

คุณอาจสนใจ

Related News