“นายกฯ” เชิญ 2 ซินแสเพื่อนพ่อ ดูฮวงจุ้ยทำเนียบฯ พร้อมยึดแนวทางเดิม ไม่ขอรับเงินเดือนนายกฯ

ผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาลรายงาน ว่า ก่อนที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะได้เดินทางเข้าปฏิบัติภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 16 ก.ย.นี้ ในการเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทำเนียบรัฐบาล ในช่วงเช้าของวันที่ 12-13 กันยายนที่ผ่านมา นั้นนายกรัฐมนตรี ได้มีการดูฤกษ์โดยปรึกษาซินแสถึง 2 คน และได้เชิญมาดูสถานที่ ซึ่งทั้ง 2 คนเป็นชาวต่างชาติและเป็นเพื่อนกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แม้ว่าส่วนตัวนายกรัฐมนตรี จะไม่มีความเชื่อในเรื่องดังกล่าว แต่มีผู้ใหญ่ได้แนะนำนายกรัฐมนตรีมา จึงได้เชิญมาดู


ทั้งนี้ซินแสทั้ง 2 คน ได้ให้ความคิดเห็นตรงกันในประเด็นหลัก ๆ หลายเรื่อง มีเพียงรายละเอียดปลีกย่อยเล็กน้อย ที่อาจเห็นไม่ตรงกัน แต่โดยภาพรวมแล้วก็มีความเห็นในทิศทางเดียวกัน


รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลยังเปิดเผยว่า สาเหตุที่นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้า สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล ช่วงเช้าของในวันที่ 12 กันยายน นั้น เนื่องจากนายกรัฐมนตรีต้องการให้ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ผู้เป็นมารดาเดินทางเข้ามายังทำเนียบรัฐบาลด้วย นายกรัฐมนตรีต้องการที่จะกราบผู้เป็นแม่ เนื่องในวันสำคัญกับภารกิจสำคัญที่รับผิดชอบ แต่คุณหญิงพจมาน ไม่ชอบออกสื่อ


อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานว่า คุณหญิงพจมาน ไม่ได้เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาลในรอบหลาย ๆ ปี ซึ่งได้เอ่ยปากชมว่า “ทำเนียบสวยขึ้นเยอะ” โดยในวันดังกล่าว นอกจากคุณหญิงพจมาน ยังมี นายปิฎก สุขสวัสดิ์ ผู้เป็นสามี แล้วก็ยังมีน.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ พี่สาว เข้ามาด้วย


รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยได้ว่า ขณะที่ห้องทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้า ได้มีการปรับเปลี่ยนจากเดิมในยุคของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี บ้างในบางส่วน เพราะนอกจากมีห้องทำงาน ห้องประชุมแล้ว เนื่องจากนายกรัฐมนตรีเป็นสุภาพสตรี จึงได้มีการปรับเปลี่ยน จากห้องที่เคยเตรียมไว้เป็นห้องนอนพักในรัฐบาลของนายเศรษฐาได้เปรียบมาเป็น ห้องแต่งตัวสำหรับนายกรัฐมนตรี เพราะในแต่ละวัน นายกรัฐมนตรี มีหลายภารกิจที่ต้องเปลี่ยนชุดตามความเหมาะสมของภารกิจนั้น ๆ


อย่างไรก็ตามมีรายงานข่าว แจ้งด้วยว่า ในการเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ของนางสาวแพทองธาร จะยึดแนวความคิดเดิม คือการไม่รับเงินเดือนในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยจะมอบให้กับมูลนิธิต่าง ๆ เช่นเดียวกับนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นความคิดของนางสาวแพทองธารมาตั้งแต่ต้นแล้ว