เลือกตั้งและการเมือง
"นันทนา" หมดหวัง สว.อิสระ นั่งประธานกมธ. เหุตุไร้สัญญาณตอบรับ คาดถูกกินรวบ
9 ก.ย. 2567
39 views
9 ก.ย. 2567 ที่รัฐสภา นางสาวนันทนา นันทวโรภาส สว.กล่าวถึงปัญหาการเลือกประธานคณะกรรมาธิการสามัญ 21 คณะว่ายังไม่ได้รับสัญญาณใดๆ จากกลุ่มใหญ่ และต้องจับตาดูว่าจะมีการจัดสรรให้เป็นไปตามสัดส่วนของสมาชิกวุฒิสภาที่เข้ามาตามกลุ่มอาชีพ หรือเพียงแค่เป็นการรวบให้อยู่กับฝ่ายเดียว ซึ่งหากมองกระบวนการจัดตั้งจะมีผลในระยะยาวอย่างมาก เพราะจะได้เห็นการขับเคลื่อนในวาระที่ไม่ใช่ของประชาชน แต่เป็นวาระของกลุ่มที่สนับสนุนให้กลุ่มคนจำนวนนั้นให้กลุ่มคนจำนวนนั้นเข้ามาในสภา สุดท้ายการขับเคลื่อนปัญหาและการริเริ่มในการพัฒนาอะไรต่างๆก็ไม่เป็นตามที่ควรจะเป็น และประชาชนจะไม่ได้ประโยชน์ ซึ่งทางกลุ่มสว.พันธุ์ใหม่ได้มีการเสนอตัวแทนไปเป็นประธานกรรมการไปบ้างแล้ว มองว่าบุคลากรมีความรู้ความสามารถ จะมีศักยภาพตรง ก็ยังไม่ได้รับสัญญาณใดๆ
นางสาวนันทนา กล่าวว่า การทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติทำหน้าที่ในการตรวจสอบแต่กรรมาธิการฯจะเป็นการทำงานเชิงรุก หากทั้ง 21 คณะมีประธานคณะกรรมการเป็นกลุ่มเดียวกันทั้งหมดจะไม่ได้เห็นการนำปัญหาของประชาชนมาสะท้อนของกลุ่มอาชีพต่างๆ
ซึ่งจากที่ดูจำนวนเสียงส่วนใหญ่ก็น่าหนักใจมาก ที่จะไม่ได้ประธานกรรมาธิการของกลุ่มเสียงข้างน้อยเลย ตระหนักจึงอยากให้สัดส่วนเสียงข้างมาก ได้พิจารณาด้วยว่า รวมของการทำงานต่อไปนี้ตลอด 5 ปี ถ้าประธานกรรมาธิการใน 21 คณะไม่มีสัดส่วนของสว.อิสระภาพของการทำงานจะกลายเป็นสภาแบบอำนาจนิยมหรือไม่
นางสาวนันทนา นันทวโรภาส แกนนำสว.พันธุ์ใหม่ กล่าวถึง การแถลงนโยบายของรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีต่อรัฐสภา ในวันที่ 12 และ 13 กันยายนนี้ว่า ดูเหมือนรัฐบาลจะยังผลักดันนโยบาย Digital wallet อาจจะเปลี่ยนรูปแบบ แต่ก็ต้องรอดูเพราะงบประมาณได้ถูกจัดสรรและดำเนินการไปแล้ว และต้องดูว่านโยบายนี้สามารถทำได้ตามกฎหมายหรือไม่ กระตุ้นเศรษฐกิจได้จริงหรือไม่ และจะเป็นพายุหมุนอย่างที่พูดหรือเป็นแค่ลมพัด
นางสาวนันทนา กล่าวด้วยว่า วันนี้จะเป็นการพูดคุยกันของวิป 3 ฝ่าย เชื่อว่าจะมีการจัดสรรให้สว.ได้อภิปรายอย่างกว้างขวางเพราะนี่เป็นจุดเริ่มต้นในการที่เราจะได้ช่วยกัน หากรัฐบาลยังใช้นโยบายแบบนี้ จะสอดคล้องและเหมาะสมอย่างไร ซึ่งจะมีข้อสังเกตเพื่อให้เกิดความระมัดระวัง โดยสว. ได้มีการเตรียมความพร้อมในการอภิปรายและกำลังเงี่ยหูฟังการแถลงนโยบายของรัฐบาลอยู่
ส่วนการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 นั้น นางสาวนันทนากล่าวว่า สว.ไม่สามารถปรับ ลด ปลด เพิ่ม ไปได้เลย ได้แต่พิจารณาและตั้งข้อสังเกตไป และจากการดูรายละเอียดร่างพระราชบัญญัติงบประมาณปี 68 เป็นการจัดที่ไม่มียุทธศาสตร์ โดยเพิ่มขึ้นตามสัดส่วนของงบประมาณทั่วไป เชื่อว่าเป็นการจัดทำงบประมาณของข้าราชการประจำ ทำให้ไม่มีลักษณะของการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นงบประจำ 68% และที่เหลือเป็นงบที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งน้อยมาก และงบที่เข้าไปกระตุ้นเศรษฐกิจก็เป็นงบประมาณในส่วนของ Digital wallet Soft Power หากยังจัดงบประมาณแบบนี้ต่อไป ปีหน้าคงหมดหวัง ให้ข้อสังเกตไปว่าในการจัดงบประมาณปีต่อไป
ควรจะทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ตั้งแต่เริ่มใช้งบปี 2568 โดยมุ่งในเรื่องของการกระตุ้นเศรษฐกิจ สำหรับการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณซึ่ง จะพิจารณา 3 วาระรวดนั้น นางสาวนันทนากล่าวว่าหากดูช่วงเวลาในการดำเนินการตรงนี้ มีการปฏิเสธร่างพรบ.งบประมาณฯ จะเป็นปัญหาในการที่จะ ทำให้ชะลอและต้องส่งกลับไปยังสส. คิดว่าคงจะให้ผ่านแต่ก็จะให้ข้อสังเกต และเสนอแนะสิ่งที่เป็นประโยชน์กับประชาชน ซึ่งคงไม่ทำให้เกิดการฉุดรั้งให้งบไม่สามารถเดินต่อไปได้
แท็กที่เกี่ยวข้อง