เลือกตั้งและการเมือง

วิปรัฐบาลเล็งขอลดเวลา ถกนโยบายรัฐ - 'ปชน.' เตรียม 30 ขุนพล ชำแหละ 'เงินดิจิทัล-เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์'

โดย nattachat_c

9 ก.ย. 2567

11 views

วานนี้ (8 ก.ย. 67) นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปรัฐบาล เปิดเผยว่าในวันพรุ่งนี้ (9 ก.ย.) จะมีการประชุมวิป 3 ฝ่ายในเวลา 10.00 น. เพื่อหารือถึงกรอบเวลาการอภิปรายการแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งจะมีการประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 12-13 ก.ย. นี้


นายวิสุทธิ์ กล่าวต่อว่า หวังว่าจะหารือเวลาอภิปรายลดลงจากเดิม ที่เคยได้ 31 ชั่วโมง ในการอภิปราย 2 วัน ด้วยเห็นว่าเป็นระยะเวลาที่นานไป เพราะส่วนใหญ่เป็นนโยบายเดิมที่สานต่อจากรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน และเป็นนโยบายเดิม โดยมีเรื่องใหม่เข้ามาบ้าง โดยจะเจรจาปรับลดเวลาอภิปรายลงเพื่อให้คณะรัฐมนตรีเข้าไปปฎิบัติหน้าที่โดยโดยเร็วในการแก้ไขปัญหาให้ประชาชน ตนเชื่อว่าจะได้รับความร่วมมือจากฝ่ายค้าน และวุฒิสภา


ที่เคยเจรจากับฝ่ายค้านไปบ้างแล้วอาจจะปรับลงมาที่เคยได้ไป 14 ชั่วโมงชั่วโมงอาจจะปรับเป็น 10 ชั่วโมงหรือ 12 ชั่วโมง เพื่อเร่งรัดการแถลงนโยบายเสร็จสิ้นโดยสมบูรณ์และรัฐมนตรีจะได้มีพลังและเวลาไปดูแลปัญหาน้ำท่วมและอุทกภัยที่เกิดขึ้นในขณะนี้ จะต้องไปรีบทำ


เมื่อถามว่า ทางฝ่ายค้านจะทวงสัญญาช่วงเลือกตั้ง และตรวจการบ้าน 1 ปี นายวิสุทธิ์ระบุว่า 1 ปี ถ้าทำได้หมดก็ประหลาดแล้ว ตอนเข้ามางบปี 2567 ขณะนี้เอง ก็ยังอยู่ระหว่างการจัดซื้อจัดจ้าง และทุกคนก็ทราบว่าเป็นงบประมาณที่รัฐบาลเก่าเป็นคนตั้งไว้ ส่วนงบประมาณปี 2568 ก็กำลังผ่านเข้าไปยังวุฒิสภา จะทำให้ 1 ปีทำครบสัญญาทุกอย่างก็แปลกประหลาดไปแล้ว ยังมีเวลาอีกตั้ง 3 ปี


ขณะที่ นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล รักษาการประธานวิปฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ถึงกรอบเวลาอภิปรายคำแถลงนโยบายรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ที่ฝ่ายรัฐบาลเตรียมขอลดเวลา ว่า ถ้าพูดคุยกัน และทุกฝ่ายยินดีลดเวลา ตนคิดว่าก็เป็นไปได้ แต่หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่พร้อมจะลดเวลา เช่น สว. ตนก็ไม่แน่ใจ เพราะได้ยินมาว่าจะขอเวลาเพิ่มด้วยซ้ำ ดังนั้นต้องพูดคุยกัน หากลดเวลาของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไปให้กับอีกฝ่ายหนึ่ง ก็จะเป็นบรรทัดฐานที่ไม่ดีเท่าไหร่ ถ้าจำเป็นจะต้องยืนก็คงจะใช้หลักของครั้งที่แล้ว เอาเวลาของครั้งที่แล้วเป็นหลักก่อน แล้วถ้าทุกฝ่ายยินดีที่จะลดเวลา ฝ่ายค้านก็คงลดให้ได้


นายปกรณ์วุฒิ ระบุว่า ครั้งที่แล้วฝ่ายค้านได้อภิปราย 14 ชั่วโมง หากลดมาเหลือ 13 ชั่วโมง น่าจะพอบริหารจัดการได้  ตนคิดว่ามันต่างกันไม่เยอะ หากบริหารจัดการในวันแรก ยอมเลิกดึก วันที่ 2 อาจจะได้เลิกเร็วขึ้น มันน่าจะพอไปได้


ส่วนเตรียมคนอภิปรายอย่างไร นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ยังไม่ไฟนอล เพราะเล่มคำแถลงนโยบายเพิ่งมาถึงเมื่อวันที่ 7 ก.ย.ตอนเย็น แต่คิดว่าพรรคประชาชนอยู่ในกรอบการวางคนไว้ 30 กว่าคน หลังเจรจาเรื่องเวลาอภิปรายได้ก็คงจะสรุปอีกทีหนึ่ง


เมื่อถามว่าฝั่งรัฐบาลคำแถลงไม่ต่างจากเดิม ฝ่ายค้านจะอภิปรายแบบเดิมหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า คำแถลงนโยบายมีแตกต่างในบางจุด  บางจุดอาจจะดูน่าสนใจด้วยซ้ำ เพราะว่าไม่ได้ปรากฏอยู่ในคำแถลงครั้งที่แล้ว แต่ปรากฏอยู่ในครั้งนี้ ฉะนั้น เราก็เตรียมผู้อภิปรายให้ครอบคลุมประเด็นที่สำคัญ


เมื่อถามว่าฝั่งรัฐบาลคำแถลงไม่ต่างจากเดิม ฝ่ายค้านจะอภิปรายแบบเดิมหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า คำแถลงนโยบายมีแตกต่างในบางจุด  บางจุดอาจจะดูน่าสนใจด้วยซ้ำ เพราะว่าไม่ได้ปรากฏอยู่ในคำแถลงครั้งที่แล้ว แต่ปรากฏอยู่ในครั้งนี้ ฉะนั้น เราก็เตรียมผู้อภิปรายให้ครอบคลุมประเด็นที่สำคัญ


เมื่อถามว่าที่ผ่านมา ครม.แพทองธาร ถูกวิจารณ์เรื่องความเหมาะสมในการเข้ารับตำแหน่งของรัฐมนตรีแต่ละคน ถึงขั้นเรียกว่าสืบสันดาน ฝ่ายค้านจะอภิปรายไปถึงตัวรัฐมนตรีแต่ละท่านเลยหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ ระบุว่า มันก็เป็นแรงกดดันที่ไม่ใช่แค่เฉพาะนางสาวแพทองธาร เพราะหลายคนสังคมก็วิพากษ์วิจารณ์ว่าขึ้นมาเป็นแค่ตัวแทนเท่านั้น ซึ่งก็เป็นสิทธิ์ที่สังคมวิพากษ์วิจารณ์ นิติสงครามที่ทั้ง 2 ฝ่ายเจอมาร่วมกันก็แสดงให้เห็นแล้วว่าทำให้หน้าตาของ ครม. ออกมาเป็นแบบนี้


“ผมคิดว่ามันอาจจะไม่ใช่สาระสำคัญที่เราจะต้องไปโจมตีตัวบุคคล ว่าเขาจะทำไม่ได้เพราะอย่างนั้นเพราะอย่างนี้ ผมคิดว่า ครม.เองก็จำเป็นที่ต้องพิสูจน์ตัวเอง หนักกว่าด้วยซ้ำ เพราะเข้ามาด้วยคำวิพากษ์วิจารณ์ของสังคมแล้ว ส่วนตัวคิดว่าควรให้โอกาส และคงต้องพุ่งเป้าไปที่การพูดถึงนโยบายเป็นสำคัญและให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าสิ่งที่สังคมตั้งข้อสงสัยผิดหรือไม่” นายปกรณ์วุฒิ กล่าว  


นอกจากนี้ นายปกรณ์วุฒิ  อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่านค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ ครม.แพทองธาร 1 บรรจุเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ หรือกาสิโนถูกกฎหมาย ไว้ในนโยบายรัฐบาลที่จะแถลงรัฐสภา ว่า เป็นเรื่องที่ไม่ได้เซอร์ไพรส์ คิดว่ารัฐบาลก็ค่อนข้างชัดเจนในการผลักดันเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว โดยนโยบายของพรรคประชาชนเราก็ไม่ได้คัดค้าน แต่มองว่านโยบายนี้เป็นเรื่องใหญ่ ถ้าจะทำมันก็ต้องรอบคอบ และโปร่งใส ทั้งในเรื่องของการคัดเลือก การจัดทำใบอนุญาตหรือสัมปทานให้ผู้ที่จะมาดำเนินการ รวมทั้งเรื่องทำเลที่ตั้ง  ซึ่งจะต้องเกิดประโยชน์สูงสุด โปร่งใสและตรวจสอบได้ ไม่มีการทุจริต รวมถึงมาตรการป้องกันผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น เช่น ปัญหาเรื่องการติดพนัน ปัญหาการฟอกเงิน ปัญหาที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่รอบๆ เป็นต้น ก่อนที่จะผลักดันเรื่องนี้ รัฐบาลควรจะมีความชัดเจนในเรื่องพวกนี้ เพื่อให้ประชาชนได้อุ่นใจด้วย


นายปกรณ์วุฒิ ยังกล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการอภิปรายร่างนโยบายของรัฐบาลที่จะแถลงต่อสภา ว่า กำลังเตรียมความพร้อมกันอยู่ โดยให้ผู้ที่ประสงค์จะอภิปรายนำเสนอข้อมูลเข้ามา และพยายามปรับเนื้อหาให้มันลงตัว รวมถึงการบริหารเวลา ซึ่งต้องรอความชัดเจนในวันที่ 9 ก.ย.ที่จะมีการประชุมวิป 3 ฝ่ายอีกครั้ง ทั้งนี้ ในส่วนของพรรคประชาชนเตรียมผู้อภิปรายไว้ 30 กว่าคน แต่ต้องรอดูความชัดในเรื่องกรอบเวลาการอภิปรายก่อน ว่าจะสามารถอภิปรายได้ครบทุกคนหรือไม่  ทั้งนี้มี สส.เสนอหัวข้อมาตั้งแต่ยังไม่เห็นเล่มแถลงนโยบายจะออกมา พอเล่มแถลงนโยบายออกมาแล้ว เนื้อหาที่ สส.ได้เสนอมาก็มีความครอบคลุมทุกๆ ด้าน เราคงไม่ได้เน้นเรื่องใดเป็นพิเศษ แต่อยากจะอภิปรายให้ครอบคลุมครบทุกด้านอย่างชัดเจนและแม่นยำและตรงจุด เพื่อให้รัฐมนตรีตอบให้ชัดเจนที่สุด


นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ทั้งนี้ในส่วนของเงินดิจิทัลวอลเล็ต ต้องมีแน่นอนอยู่แล้ว เพราะผ่านมาปีกว่าๆ แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าสุดท้ายจะแจกแบบไหน และแจกเท่าไร และอาจจะเปลี่ยนไปมาอยู่เรื่อย ๆ ต้องฝากความกังวลด้วยว่าถ้ารัฐบาลนี้ทำงานในนโยบายระดับใหญ่ ๆ ระดับเรือธงแบบนี้ ก็ต้องย้อนกลับไปที่เรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ที่น่ากังวลเช่นกันว่าจะเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาสร้างความกังวลและความสับสน และจะเกิดผลกระทบเชิงลบตามมาถ้ารัฐบาลไม่มีความชัดเจนในเรื่องนี้


ด้าน นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีฝ่ายค้านโดยเฉพาะพรรคประชาชน (ปชน.) เตรียม 30 ขุนพลไว้ชำแหละนโยบาย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในวันแถลงนโยบาย 12-13 กันยายนนี้ ว่า ฝ่ายค้านจะอภิปราย 30 คน 40 คน หรือทั้งพรรคก็ถือเป็นสิทธิ แต่ต้องยอมรับว่าวันนี้รัฐบาลของ น.ส.แพทองธารมีเสถียรภาพ มีความเข้มแข็ง ซึ่งเห็นได้จากการโหวตร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ที่ผ่านมา


เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านบอกว่าการอภิปรายจะมีความดุเดือดแน่ เราจะมีการเตรียมองครักษ์ไว้รับมือหรือไม่ นายอนุสรณ์กล่าวว่า องครักษ์คงไม่ต้อง เพราะคนที่อภิปรายหรือคนที่อาจจะเป็นองครักษ์ถูกตรวจสอบโดยประชาชนอยู่แล้ว คือหากการอภิปรายเกินกว่ากรอบหรือไม่อยู่บนพื้นฐานของความสร้างสรรค์ การติเพื่อก่อ ตนคิดว่าประชาชนจะเป็นคนตัดสิน ในทางกลับกันคนที่จะเป็นองครักษ์จะลุกขึ้นสกัดหรือประท้วงโดยไม่สมเหตุสมผล ประชาชนก็จะวิเคราะห์และประเมินเช่นกัน ฉะนั้น โอกาสที่ทัวร์จะลงเกิดขึ้นได้ทุกฝ่าย จึงขอทุกฝ่ายทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/W9y0AJE-ge0

คุณอาจสนใจ

Related News