เลือกตั้งและการเมือง

‘แพทองธาร’ ร้องโอ้โหแรง! หลังถูกวิจารณ์ "ครม.สืบสันดาน" - ‘ศิริกัญญา’ ชี้มีแค่ ‘ชูศักดิ์’ ใช้ความรู้นั่ง รมต.

โดย petchpawee_k

6 ก.ย. 2567

35 views

นายกฯ เผยเคาะนโยบายรัฐบาลวันนี้หลังพรรคร่วมทยอยส่ง เชื่อนโยบายกัญชาไม่เป็นปัญหา ส่วนเพื่อไทยยังเหมือนเดิม ร้องโอ้โห แรงจริง! หลังถูกวิจารณ์เป็น ครม. “สืบสันดาน” รับรมต.หลายคนสืบทอดทางครอบครัว แต่อยากให้มองถึงความตั้งใจ ลั่นทำงานเต็มที่แม้อายุน้อย ไม่พร้อมข่มเหงใคร แต่พร้อมรับฟัง ให้เกียรติซึ่งกันและกัน 

วานนี้ 5 ก.ย. 67 เวลา 10.15 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้ามาปฎิบัติภารกิจ ที่อาคารชินวัตร 3 พร้อมให้สัมภาษณ์ ถึงความคืบหน้าในการเตรียมความพร้อมนโยบายที่จะแถลงต่อรัฐสภาว่า วันนี้จะประชุมเรื่องของนโยบาย และในส่วนของพรรคเพื่อไทยในวันนี้จะให้ได้ข้อสรุปทุกอย่าง รวมถึงจะดูเรื่องของถ้อยคำเพื่อไม่ให้สะดุด แต่เรื่องของนโยบายเรียบร้อยแล้ว และต้องมีการพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลด้วย ซึ่งในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลได้ทยอยส่งมาแล้ว

เมื่อถามว่ามีการปรับเปลี่ยนนโยบายบ้างหรือไม่ถ้าในส่วนของเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาล นางสาวแพทองธาร กล่าวว่ายังกลับยังดูไม่จบ และวันนี้จะมีการประชุมเรื่องของนโยบาย

เมื่อถามว่าในส่วนของพรรคเพื่อไทยจะเน้นนโยบายอะไรบ้าง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังคงนโยบายเดิมแต่จะปรับรายละเอียดเล็กน้อยในส่วนของดิจิทัลวอลเล็ต และจะอธิบายบางนโยบายให้เข้าใจง่ายขึ้น ขอให้อดใจรอนิดนึง ขอยังไม่พูดรายละเอียดในตอนนี้

เมื่อถามว่ามีอะไรใหม่หรือเพิ่มเติมเข้ามาจากรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าขอให้รอสักนิดนึง  เมื่อถามถึงนโยบายกัญชาที่พรรคภูมิใจไทยยืนยันจะเดินหน้าต่อจะพูดคุยกันอย่างไร นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รับทราบเรื่องนี้แล้วและจะมีการพูดคุยกันในรายละเอียด คิดว่าคุยกันได้แน่นอน ไม่มีอะไร

เมื่อถามต่อว่าทั้งพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทยได้มีการพูดคุยเรื่องกัญชาแล้วหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ที่จริงได้มีการพูดคุยกับความเข้าใจกันอยู่แล้ว เหลือเพียงการเขียนลงในนโยบายให้เป็นลายลักษณ์อักษร

เมื่อถามถึงนโยบายแรก ที่จะสานต่อนโยบายจากนายเศรษฐา หลังจากปฎิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีได้อย่างเป็นทางการ ที่ประชาชนจะได้เห็นทันทีคืออะไร นางสาวแพทองธารกล่าวว่า ขอให้รอรายละเอียดนิดนึง ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนอะไรที่นายกฯเศรษฐาทำไว้ ทำต่อแน่นอน และมีหลายเรื่องที่เริ่มเข้ามาคุยแล้วว่าจะทำต่ออย่างไรบ้าง เช่นการลงทุนจากต่างประเทศ ได้มีการขอความมั่นใจมาเพราะเราเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี แต่ยังเป็นคนของพรรคเพื่อไทย และเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเหมือนเดิม จึงไม่อยากให้คนไทยเสียโอกาส ซึ่งไม่มีการพูดคุยกันเบื้องต้นไปแล้ว ทั้งนี้ในส่วนของนโยบายค่อนข้างที่จะเหมือนเดิมเพื่อไม่ให้สะดุด และอยากให้ประเทศเดินหน้าต่อ

เมื่อถามถึงสนามการค้าไทยกับต่างประเทศ จะยังเดินหน้าสานต่อจากรัฐบาลนายเศรษฐาใช่หรือไม่นางสาวแพทองธาร กล่าวยืนยันจะเดินหน้าต่อ และได้มีการพูดคุยกับหลายหน่วยงาน

เมื่อถามถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แสดงวิสัยทัศน์ไว้เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ที่ผ่านมา จะนำมารวมอยู่ในนโยบายของรัฐบาลหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า “อะไรที่เป็นประโยชน์เดี๋ยวดูกันอีกที ”

นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรีทั้ง 6 คนอีกว่า  ได้วางเอาไว้แล้วว่าจะให้ใครทำอะไร แต่รายละเอียดเวลาขออีกนิดนึง แต่ได้วางแล้ว ก็อยากให้เกิดความชัดเจนเกิดขึ้น เวลามอบหมายงานก็จะได้ตามกลับมาได้ชัดเจนขึ้นด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่ามุ่งหวังกับคณะรัฐมนตรี ชุดนี้ และตั้งเป้าหมายอย่างไรบ้าง นายกรัฐมนตรีอุทานว่า โอ้ ก่อนกล่าวว่า คิดว่าดี และคิดว่าดีมากๆ จริงๆทุกคนมีความพร้อมที่จะสานงานต่อ และคิดว่าเป็นพลังอะไรที่เรามารวมกันแล้วและอยากจะทำเพื่อพี่น้องประชาชน อยากให้ประเทศไปต่อ ฉะนั้นหลายๆคนมีทั้งหน้าใหม่และหน้าเดิม ซึ่งทุกคนก็พร้อมตรงนี้

เมื่อถามว่า จะมีการตั้งเงื่อนเวลาเพื่อวัด KPI ในการทำงานหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังค่ะ

ส่วนมีการวิพากษ์วิจารณ์หน้าตา ครม. เป็น ครม.ครอบครัวให้ลูกให้เพื่อนให้ญาติแทน ลักษณะ และมีการวิจารณ์ใช้คำแรงว่า ครม.สืบสันดาน นายกรัฐมนตรี ถึงกับร้องโอ้ ก่อนกล่าวว่า แรงจริงๆด้วย พร้อมกับหัวเราะและกล่าวว่า ใช้คำแรงจัง จริงๆมีหลายรูปแบบ และหลายๆคนที่ไม่ใช่เป็นครอบครัว หรือเกี่ยวข้องกัน และมีหลายๆคู่ที่เป็นครอบครัวต่อกันมา แต่อยากให้มองว่าเป็นความตั้งใจได้ไหม ที่มันถ่ายทอดกันมาในคนใกล้ชิดคนรู้จัก เพราะหลายๆอย่างที่ต้องทำต้องใช้แรงผลักดัน อาศัยความภาคภูมิใจของคนข้างๆ คนรอบๆ ฉะนั้นคำว่าเป็นครอบครัวหรือเป็นอะไรมันไม่ใช่ข้อเสีย มันเป็นเรื่องของแรงผลักดันให้กันมากกว่า โดยเห็นว่าคนหนึ่งทำเพื่อประเทศแบบนี้ อีกคนหนึ่งในครอบครัวก็มีแรงผลักดันเช่นกัน มันเป็นแบบนั้น

เมื่อถามว่า พอมีคำว่าคนในครอบครัวก็มีการมองถึงการครอบงำ ซึ่งนายกฯยังไม่ปฏิบัติหน้าที่แต่ก็มีเรื่องข้อหา รวมถึงการฟ้องร้องก็มีมา นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า “สงสารนายกฯบ้างๆ อย่าฟ้องอะไรเยอะเลย เป็นนายกฯที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์แล้ว และก็ตั้งใจทำงานเต็มที่ ฉะนั้นอย่างที่บอกและให้สัมภาษณ์ไป บางทีเรื่องเล็กๆอย่าไปให้ความสำคัญอะไรมากเลย แม้แต่เรื่องการฟ้องร้องอะไรต่างๆ คนฟ้องก็อย่าฟ้องเยอะเลย มันไม่ได้มีอะไรผิดแบบนั้นอยู่แล้ว ต้องค่อยๆ”


เมื่อถามว่า ด้วยความที่นายกรัฐมนตรีอายุน้อย ต้องนั่งหัวโต๊ะ และต้องเป็นประธานบอร์ดโดยตำแหน่งในหลายๆคณะ กังวลหรือไม่ นางสาวแพทองธารกล่าวว่า


“เอาจริงๆนะคะ ตัวดิฉันเองคิดว่าได้รับตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้แล้ว โดยการโหวตจากสภา อันนี้ต้องขอบพระคุณทุกท่าน การที่ดิฉันเป็นตำแหน่งนายกฯ ไม่พร้อมที่จะข่มเหงใคร แต่พร้อมที่จะรับฟัง และพร้อมที่จะให้ความเคารพและให้เกียรติซึ่งกันและกัน เพราะฉะนั้นคิดว่าหลักคิดตรงนี้มันจะทำให้ทุกอย่างเป็นไปได้อย่างสมูท คิดอย่างนั้น”

-----------------------------------

“ศิริกัญญา” เหน็บ “ครม.แพทองธาร” มีแค่ “ชูศักดิ์” ที่ใช้ความรู้นั่งรมต. เย้ย แต่คนอื่นยังไม่เห็นฝีมือ เผย ได้แต่เก็งข้อสอบ เหตุยังไม่เห็นร่างนโยบาย

วานนี้ ( 5 ก.ย.67)  น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ ภายใต้การนำของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า เรายังคงเห็นการจัดตั้งครม. ที่อาจจะไม่ได้ใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญ เฉพาะตัวมาเป็นจุดในการคัดเลือกตัวบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ซึ่งทั้งครม. ตนเห็นแค่นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คนเดียวที่อาจจะมีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย พอที่จะนั่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย แต่คนอื่นก็ยังเป็นนักการเมืองที่เรายังไม่เห็นฝีมือว่าจะสามารถบริหารงานที่จะเฉพาะเจาะจงแต่ละกระทรวงอย่างไร อย่างไรก็ตาม เราก็ยังคงต้องให้โอกาสกับรัฐมนตรีเหล่านั้นให้เริ่มทำงานก่อน เพื่อที่จะทำให้เราสามารถตรวจสอบการทำงานว่าเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ และบรรลุประสิทธิผลตามเป้าหมายที่ได้วางไว้หรือไม่


เมื่อถามว่าการแถลงนโยบายหลังจากนี้ ได้จับตาประเด็นอะไรเป็นพิเศษบ้างหรือไม่ นอกจากเรื่องโครงการดิจิทัลวอลเล็ต น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า เรากำลังเตรียมงานกันอยู่ เพราะมีการเลื่อนวันแถลงนโยบายให้เข้ามาเร็วขึ้น คือช่วงเวลาประมาณวันที่ 12-13 ก.ย. ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่ว่าจะมีแค่โครงการเรือธงอย่างดิจิทัลวอลเล็ต ที่เราต้องจับตา แต่ต้องดูโครงการเรือธงทั้งหมด ทั้งที่เคยได้เริ่มต้นมาตั้งแต่รัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี และมีโครงการที่เกิดขึ้นใหม่จากการแสดงวิสัยทัศน์ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้เราได้มีการเก็งข้อสอบว่า วิสัยทัศน์ของนายทักษิณเหล่านั้นจะเปลี่ยนแปลงมาเป็นนโยบายของน.ส.แพทองธาร มากน้อยแค่ไหน ซึ่งคงต้องติดตามต่อเพราะตอนนี้ยังไม่เห็นตัวนโยบาย ได้แค่เก็งข้อสอบ


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/KyMpUJHVMUs

คุณอาจสนใจ

Related News