เลือกตั้งและการเมือง

พปชร.ไม่ขับ ‘ก๊วนธรรมนัส’ บอกเป็นครอบครัวเดียวกัน ‘ไพบูลย์’ ห่วง ‘อุ๊งอิ๊ง’ ให้คำมั่นไว้ไม่ทำตาม

โดย petchpawee_k

30 ส.ค. 2567

80 views

เคาะประชุมใหญ่พลังประชารัฐ 6 ก.ย. แต่งตั้ง กก.บห.เพิ่ม ไม่ขับ “ก๊วนธรรมนัส” บอกเป็นครอบครัวเดียวกัน อยู่อย่างมีความสุข “ไพบูลย์” เปล่าขู่ แค่ห่วง “แพทองธาร” เป็นพิเศษ ยกกม.แพ่งสอนนายกฯ เตือน มีหลักฐานให้คำมั่นต่อสาธารณะ ไม่ทำตาม ระวังไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ตีมึน ปมคลิปบ้านจันทร์ส่องหล้าถึงมือคนบ้านป่าแล้ว บอกถึงรู้ก็ไม่บอก


วานนี้ 29 ส.ค.67 เวลา 09.34 น. พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ สวมชุดสีน้ำเงิน ตราสัญญลักษณ์พรรคพลังประชารัฐ เดินทางถึงที่ทำการพรรคด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แจ่มใส โดยมีบรรดาแกนนำพรรคมาให้การต้อนรับ ก่อนจะขึ้นลิฟท์ไปทันที ไม่ได้หันมาทักทายผู้สื่อข่าว

ทั้งนี้ ถือเป็นการประชุมกรรมการบริหารพรรคครั้งแรก หลังจากพรรคเพื่อไทยมีมติ ไม่ให้พรรคพลังประชารัฐร่วมรัฐบาล ซึ่ง วันนี้มีกรรมการบริหารพรรคในสัดส่วนของพลเอกประวิตร เดินทางมาประชุมอย่างพร้อมเพียง 13 คน จากทั้งหมด 19 คน ประกอบด้วย นายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรค นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รองหัวหน้าพรรค พล.อ.กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ นายทะเบียนสมาชิก นายสุธรรม จริตงาม นายกระแสร์ ตระกูลพรพงศ์ สส.หนองคาย นายอภิชัย เตชะอุบล นายยงยุทธ สุวรรณบุตร น.ส.กาญจนา จังหวะ นายอัครวัฒน์ อัศวเหม และนายวิรัช รัตนเศรษฐ


ส่วนกลุ่มของร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค ก็เป็นไปตามคาด ไม่ได้มาร่วมประชุม หลังพรรคเพื่อไทย เตรียมเทียบเชิญเข้าร่วมรัฐบาลเป็นรายกลุ่ม

สำหรับวาระการประชุมวันนี้ เป็นการเตรียมความพร้อม ก่อนมีการประชุมใหญ่วิสามัญในเดือนหน้า เพื่อเตรียมขับเคลื่อนพรรคพลังประชารัฐต่อไป

พรรคพลังประชารัฐ ใช้เวลาการประชุมกก.บห. เพียง 40 นาที ก่อนที่พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณหัวหน้าพรรคจะเดินทางกลับ ก่อนขึ้นรถได้โบกมือทักทาย พร้อมกล่าวว่าสบายมาก ๆ ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เมื่อถามว่า ลุงป้อมยังสู้ต่อหรือไม่ พลเอกประวิตรไม่ได้ตอบคำถาม และได้ขึ้นรถทันที


ต่อมาเวลา 10.20 น. ที่พรรคพลังประชารัฐ นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แถลงผลการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคมีมติเห็นชอบกำหนดการประชุมใหญ่สามัญของพรรคพลังประชารัฐ ครั้งที่ 2/2567 ในวันที่ 6 ก.ย. เวลา 10.30-13.00 น. ที่ห้องประชุมใหญ่ อาคารสำนักงานใหญ่พรรคพลังประชารัฐ โดยมีวาระพิจารณาคือ แต่งตั้งกรรมการบริหารพรรคเพิ่มเติม และแต่งตั้งกรรมการสรรหาผู้สมัครเลือกตั้งเพิ่มเติม นอกจากนี้ จะมีเรื่องแจ้งเพื่อทราบอีกเล็กน้อย


เมื่อถามว่า หลังจากพรรคเพื่อไทยไม่เอาพรรคพลังประชารัฐร่วมรัฐบาล จะเป็นอย่างไรต่อไป นายไพบูลย์ กล่าวว่า เรื่องของพรรคพลังประชารัฐไม่เกี่ยวอะไรกับพรรคเพื่อไทย เรื่องของพรรคพลังประชารัฐเกี่ยวกับนายกฯโดยตรง ในเรื่องที่นายกฯได้มีสัญญาประชาคม เสมือนหนึ่งเป็นคำมั่นกับพรรคพลังประชารัฐ แสดงออกต่อสาธารณะอย่างครบถ้วนแล้ว พรรคพลังประชารัฐได้เห็นชอบให้ น.ส.แพทองธารเป็นนายกฯ และ น.ส.แพทองธารได้ให้คำมั่นว่า จะให้พรรคพลังประชารัฐมีที่นั่งในคณะรัฐมนตรีตามสัดส่วนเดิมและตำแหน่งเดิม การที่ตนกล่าวแบบนี้ เพราะหลังจากให้คำมั่น ทางพรรคพลังประชารัฐได้ให้ สส.ไปออกเสียงสนับสนุนให้ น.ส.แพทองธารเป็นนายกฯ ทั้งหมด 39 เสียง อาจจะมีหัวหน้าพรรคคนเดียวที่ติดภารกิจ มีเหตุจำเป็น


ซึ่งพรรคพลังประชารัฐได้ทำครบแล้วตามคำมั่นที่นายกฯให้ไว้ เราก็ตอบสนองไปโหวตให้เรียบร้อย จึงเป็นเรื่องที่นายกฯต้องดำเนินการตามคำมั่นที่ให้ไว้ ทั้งนี้ ตนอยากจะให้ความรู้ทางกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 362 ซึ่งบัญญัติไว้ว่า “บุคคลออกโฆษณาให้คำมั่นว่าจะให้รางวัลแก่ผู้ซึ่งกระทำการอันใด ท่านว่าจำต้องให้รางวัลแก่บุคคลใด ๆ ผู้ได้กระทำการอันนั้น แม้ถึงมิใช่ว่าผู้นั้นจะได้กระทำเพราะเห็นแก่รางวัล” ซึ่งนายกฯให้คำมั่นแล้ว และหลังจากนั้นนายกฯก็บอกว่าพรรคพลังประชารัฐเป็นรัฐบาล มีการโฆษณาเผยแพร่ผ่านสื่อ ยืนยันว่าไม่มีอะไรที่เราไปเกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย แต่เกี่ยวกับนายกฯโดยเฉพาะ


นายไพบูลย์ กล่าวว่า ส่วนที่สื่อมวลชนไปพูดว่าพรรคพลังประชารัฐจะมีปัญหา ขอเรียนว่า พรรคเราสบายมาก หัวหน้าพรรคมีความสุขและมีความเข้มแข็ง แนวแน่ที่จะดูแลพรรคพลังประชารัฐไปตลอด ไปจนไม่ไหว ดังนั้น เรื่องที่เกิดขึ้น มันเกิดตามนั้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคไม่ได้พิจารณาในเรื่องนั้นเลย ไม่มีอะไรที่เราต้องเป็นห่วง ที่ท่านควรจะห่วง ควรจะห่วงท่านนายกฯมากกว่า เพราะการไปให้คำมั่นมาแล้ว ทำครบถ้วนสมบูรณ์แบบนั้นแล้ว และนายกฯเล่นไม่ปฏิบัติตามคำมั่น วิญญูชนโดยทั่วไปเขาก็จะว่าได้ว่านายกฯอาจจะมีปัญหา จะโดนเสียงวิพากษ์วิจารณ์ อาจจะขาดความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์หรือไม่ สื่อควรไปห่วงนายกฯมากกว่า เรื่องความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์เป็นเรื่องสำคัญ คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 14 ส.ค. ต้องไปดูกันว่า เจตนารมณ์เพื่อไม่ให้ผู้บริหารขาดคุณธรรม จริยธรรม เข้ามามีอำนาจในการปกครองบ้านเมือง ซึ่งน่าเป็นห่วง เพราะเป็นคำวินิจฉัยด้วย ตนยืนยันว่ากำลังพูดตามหลักวิชาการ ไม่ได้ขู่ใคร


ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการจัดตั้งรัฐบาล แล้วไม่ปรากฏชื่อพรรคพลังประชารัฐและแคนดิเดตรัฐมนตรีที่เสนอไป จะยื่นเรื่องให้ตรวจสอบ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในข้อหาฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคผู้ใหญ่ เราไม่ไปทำอะไรอย่างนั้นหรอก เราเพียงแค่บอกว่าถึงเรื่องราวว่าเป็นเรื่องของคำมั่น คำมั่นไม่ต้องมีสัญญา ไม่ต้องลงรายมือชื่อ เป็นการแสดงเจตนา ตนก็ต้องถามกลับ ระดับนายกฯ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้วางบรรทัดฐานไว้ชัดเจนเมื่อไม่กี่วันมานี้ เมื่อมีคำมั่นแล้วไม่ปฏิบัติตามคำมั่น มันก็จะเป็นเรื่องครหา สังคมอาจจะติเตือน แต่พรรคพลังประชารัฐไม่ได้ไปหวังว่าจะต้องไปเปลี่ยนอะไร ท่านทำไปแล้ว ท่านทำไปเถอะ ทำไปให้มันจบ เพราะพรรคเรามั่นคง พร้อมทำหน้าที่ทุกอย่างเพื่อประโยชน์ประเทศชาติและประชาชน การทำงานของ สส.ยังมั่นคงสถาพรตลอดไป


“แต่เป็นห่วง ผมอยากจะฝากย้ำอีกครั้ง เป็นห่วงนายกฯเถอะครับ อย่ามาห่วงพรรคพลังประชารัฐ และย้ำอีกครั้งไปถึงพรรคเพื่อไทย เราไม่ได้ไปเกี่ยวอะไรกับพรรคท่าน ไม่ต้องมามีมติเรื่องอะไรกับเรา เราเกี่ยวกับนายกฯ”


นายไพบูลย์ กล่าวว่า ตนห่วงที่สุดคือ สถานะของรัฐบาล ถ้าเริ่มต้นอย่างนี้แล้วจะไปได้สักเท่าไหร่ ส่วนพรรคเรามีความสุข จะได้ทำงานอย่างมีอิสระ อะไรที่เป็นประโยชน์กับประชาชน ประเทศชาติ จะออกเสียงแสดงความเห็นได้อย่างเต็มที่ สส.เราจะมีความสุขอย่างยิ่ง ไม่ต้องไปมีข้อบังคับ ขีดจำกัดใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนการไปเป็นฝ่ายค้านนั้น พรรคพลังประชารัฐทำงานตามอุดมการณ์ของตัวเอง ถ้าไม่ตั้งเราก็ไปเป็นฝ่ายค้าน เป็นฝ่ายค้านเสียหายตรงไหน พรรครัฐบาลตอนนี้ก็เป็นอดีตฝ่ายค้าน ไปอยู่ร่วมกับนายกฯ ซึ่งยังไม่ทันไรก็มีปัญหาเรื่องคำมั่น ปฏิบัติไม่ได้แล้ว หากไปอยู่ด้วย พรรคเสียชื่อ ประชาชนจะมองเราในด้านไม่ดี ส่วนตัวดีใจที่ไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวอะไรกับท่าน


เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่า คนบ้านป่ามีคลิปวิดีโอของคนบ้านจันทร์ในวันเรียกรัฐมนตรีหารือ หลังนายเศรษฐา ทวีสิน หลุดจากตำแหน่ง ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นายไพบูลย์ หัวเราะก่อนกล่าวว่า ตนไม่ทราบ และถึงตนจะทราบก็ไม่รู้จะบอกทำไม ดังนั้น ตอนนี้ถือว่าไม่ทราบแล้วกัน เมื่อถามว่า หากมีคลิปจริงจะถือเป็นหลักฐานเด็ดเรื่องครอบงำพรรคหรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวย้ำว่า ไม่ทราบ ในเรื่องต่างๆ มันไม่ได้มีแค่เรื่องนี้หรอก เมื่อถามอีกว่า มีหลักฐานหลายเรื่องใช่หรือไม่ นายไพบูลย์ อ้างว่า ตนแค่ดูจากสื่อสารมวลชน เรื่องเยอะแยะไปหมด


เมื่อถามว่า ในการประชุมใหญ่พรรค จะมีการขับ สส.ในกลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคหรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า ยืนยันไม่มี ใครจะไปขับครอบครัว เป็นครอบครัวเรา ไม่มีตามที่ลือทั้งสิ้น เรามีความสุขที่ได้อยู่ด้วยกัน เป็นเรื่องภายในครอบครัวพลังประชารัฐ คนอื่นไม่อยากให้เกี่ยว เป็นหนึ่งเดียว ทำไมคนนอกไปหวังอะไรก็ไม่รู้ หรือประสงค์ร้ายกับเราหรือเปล่า เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่า ครอบครัวจะครบ 39 คน นายไพบูลย์ กล่าวว่า “Yes โดยมี พล.อ.ประวิตรเป็นหัวหน้าครอบครัว ส่วนถ้าลูกดื้อ ยืนยันว่า ก็รัก ไม่คิดจะตีหรือลงโทษ” เมื่อถามว่า ที่ระบุว่าเป็นครอบครัว ได้คุยกับ ร.อ.ธรรมนัสแล้วใช่หรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า ตนก็คุย ร.อ.ธรรมนัสก็เหมือนกัน ก็อยู่กันแบบมีความสุขอยู่แล้ว ย้ำอีกครั้งเป็นเรื่องของครอบครัวเราพรรคพลังประชารัฐ


ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการแถลงข่าวกว่า 20 นาที นายไพบูลย์ ใช้คำว่าให้ไปเป็นห่วงนางสาวแพทองธาร หลายครั้งมาก

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/IAeTlWUvrfk

คุณอาจสนใจ

Related News