เลือกตั้งและการเมือง
สิ่งที่ไม่เคยเห็นก็ได้เห็น! 'เท้ง-โรม' ไม่ขอวิจารณ์ เพื่อไทยจับมือ ปชป. ผลัก 'ลุงป้อม' เป็นฝ่ายค้าน
โดย thichaphat_d
29 ส.ค. 2567
69 views
'เท้ง ณัฐพงษ์' ลั่น เราไม่ได้ยื่นมือไปหาเขา หลัง 'ลุงป้อม' เตรียมตัวสู่ฝ่ายค้าน บอกคงทำอะไรไม่ได้ ทำได้แค่ทำดีที่สุด ไม่ออกความเห็น 'ประชาธิปัตย์' ร่วมรัฐบาล ขอทำหน้าที่ฝ่ายค้านให้เต็มที่
วานนี้ (28 ส.ค.2567) ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงการจับมือกันระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ ว่า เป็นสิ่งที่ทั้ง 2 พรรคไปพูดคุยกัน เราคงไม่ไปแสดงความเห็น และขอทำหน้าที่แกนนำพรรคฝ่ายค้านให้เต็มที่ที่สุดก่อน ซึ่งในเรื่องของระยะทางการเมืองตนยังประเมินไม่ได้แต่เชื่อว่าไม่กระทบพรรคประชาชน ใน3 ปีหลังจากนี้ ขอทำหน้าที่ในตำแหน่งฝ่ายค้านอย่างเต็มที่ และเตรียมความพร้อมที่จะนำไปสู่การเลือกตั้งปี 70 และระหว่างนี้ก็มีสนามเลือกตั้งท้องถิ่นเป็นสิ่งสำคัญ
ส่วนที่แฟนคลับพรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทย ออกมาคัดค้านนั้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า สิ่งที่พรรคการเมืองต้องถูกตัดสินคือประชาชน ฉะนั้นในอดีตทำอะไรมา และฟังรัฐบาลมาจับขั้วอะไรแบบนี้ ตนคิดว่าดีไม่ดีอย่างไรก็ต้องให้ประชาชนตัดสินดีที่สุด
ขณะที่ตอนนี้พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ถูกดีดออกมาเป็นฝ่ายค้านแล้วเตรียมรับมืออย่างไรนั้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ถ้าดูตามเงื่อนไขรัฐธรรมนูญ ถ้าได้ตำแหน่งรัฐมนตรีทั้งพรรคก็ต้องอยู่ฝั่งรัฐบาลแต่สถานการณ์นี้ ก็อาจจะเกิดการโหวตเสียงแตกภายในพรรค ตนคิดว่าเราก็ยังทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ตามระเบียบและกลไกของรัฐสภา
เมื่อถามย้ำว่าตอนนี้ลุงมาแล้ว นายณัฐพงษ์ กล่าวว่าตอนเลือกตั้ง เรายื่นมือเข้าไปจับว่าเราจะอยู่กับใครบ้าง แต่ครั้งนี้เราไม่ได้ยื่นมือไปหาเขา อาจจะถูกส่งมาหาอีกฝั่งนึงเขาอาจจะถูกส่งมาหาอีกฝั่งฝ่ายค้าน เพราะฉะนั้นเราเองก็คงทำอะไรไม่ได้ ทำได้อย่างเดียวคือทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด
ส่วนต้องมีการพูดคุยกับพลเอกประวิตรหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าต้องทำหน้าที่เหมือนคุยกับพรรคอื่นตามปกติในสภาฯ เวลาอภิปรายมีการประชุมร่วมกับทุกพรรคอยู่แล้ว และคงไม่แตกต่างอะไรจากเดิม
------------------------------
‘โรม’ ลั่น สิ่งที่ไม่เคยเห็นก็ได้เห็น ‘เพื่อไทย- ประชาธิปัตย์’ ร่วมรัฐบาล ไม่แน่ใจทำไมเพิ่งปิดสวิตซ์ 3 ป.เอาตอนนี้ ถามเป็นเพราะช่วงชิงอำนาจหรือไม่ ย้ำฝ่ายค้านต้องตรวจสอบ รัฐบาล แต่ไม่แน่ใจ ‘ลุงป้อม’ จะเข้าสภาหรือไม่
นายรังสิมันต์ โรม สส. บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์หลังกรณีพรรคเพื่อไทยเทียบเชิญพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลว่า "สิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะเห็นก็ได้เห็น แปลกใจอยู่เหมือนกัน" หากย้อนกลับไปเมื่อ 10-20 ปีก่อน ก็คงนึกภาพไม่ออกว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น เมื่อเกิดขึ้นก็แล้วแต่การตัดสินใจของแต่ละพรรคการเมือง ตนคงไม่ไปวิพากษ์วิจารณ์ว่าเหมาะสมหรือไม่ เรื่องนี้ประชาชนสามารถตัดสินใจได้ ในช่วงเวลาที่ผ่านมามีความยากลำบากในการตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.)
ตนคิดว่าเห็นถึงปัญหาหลายอย่าง สะท้อนให้เห็นว่าเวลาที่เสียไปว่าเป็นเวลาที่มีคุณค่าขนาดไหน ส่วนเรื่องการเมืองระหว่างกันนั้น สิ่งที่ควรตั้งคำถามทั้งหมดคือ ประชาชนอยู่ส่วนไหนของสมการ อะไรคือสิ่งที่ประชาชนได้ประโยชน์จากสิ่งนี้
นายรังสิมันต์ ยังกล่าวในฐานะพรรคฝ่ายค้าน ว่าการที่พรรคประชาธิปัตย์ย้ายไปอยู่ขั้วรัฐบาลจะส่งผลกระทบต่อการทำหน้าที่ฝ่ายค้านมากแค่ไหน เรื่องนี้เดี๋ยวก็คงจะได้เห็น แต่สำหรับพรรคประชาชนก็พร้อมที่จะทำหน้าที่เหมือนเดิมอย่างดีที่สุด
ส่วนมองว่าเป็นการปิดสวิตช์ 3 ป.ตามที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เคยพูดไว้หรือไม่ นายรังสิมันต์ ยิ้มและหัวเราะ ก่อนตอบว่า ตนคิดว่าทำได้ทันที ตั้งแต่จัดตั้งรัฐบาล ในช่วงแรก ไม่แน่ใจว่าที่พึ่งมาปิดช่วงนี้ อาจอาจจะเกิดจากการชิงดีชิงเด่นกันหรือไม่ หรือมีการช่วงชิงทางการเมืองกันหรือเปล่า แน่นอนว่าเหยื่อจากสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือกรณีของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นตนมองว่าไม่ได้เป็นการปิดสวิตช์ 3 ป. เพราะยังเห็นพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ยังมีพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี แม้จะไม่มีบทบาททางการเมืองที่ชัดเจน แต่รวมไทยสร้างชาติ ก็เป็นพรรคที่ได้รับมรดกจากพลเอกประยุทธ์มาโดยตรง
เรื่องปิดสวิตช์ 3 ป.คงไม่ได้เป็นแบบนั้น และก็ไม่ได้เป็นไปตามเจตจำนงของประชาชนที่คาดหวัง ภาพที่ประชาชนคาดหวังคือการสร้างระบอบประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง และทำให้ประชาชนเป็นผู้มีอำนาจสูงสุด นั่นคือการแก้มรดกคสช. ที่ทิ้งเอาไว้
เมื่อถามว่าหากพรรคพลังประชารัฐมาเป็นฝ่ายค้านจะทำงานร่วมกันอย่างไร นายรังสิมันต์กล่าวว่า ยังไม่มีการมองถึงการทำงานร่วมกัน หรือพูดคุยกัน และกรณีของพรรคพลังประชารัฐเกิดจากการไม่ได้อนุญาตให้เป็นรัฐบาล เลยกลายเป็นฝ่ายค้าน ไม่ใช่เพราะพรรคการเมืองฝ่ายค้านไปเรียกร้องให้มาเป็นฝ่ายค้าน ซึ่งการทำงานหลังจากนี้คงต้องดูว่าจะเป็นรูปแบบไหน เพราะยังไม่แน่ใจว่า ตัวอยู่ฝ่ายค้าน แต่หัวใจอยู่ที่ไหน
สุดท้ายหากมีการโหวตและสนับสนุนรัฐบาลตนก็ไม่แน่ใจว่าจะเรียกว่าเป็นฝ่ายค้านหรือไม่ เพราะฝ่ายค้านต้องทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาล และตนก็ไม่แน่ใจว่าพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะเข้ามาทำหน้าที่ในสภามากน้อยแค่ไหน ซึ่งยังต้องรอดูหลังจากนี้
นายรังสิมันต์ ย้ำว่า ตนไม่เคยลืมในสิ่งที่เคยอภิปรายพลเอกประวิตรไม่ว่าจะเรื่อง คสช. หรือการที่ไปเกี่ยวข้องกับตำรวจต่างๆ รวมถึงปัญหาเรื่องตั๋วช้างตั๋วตำรวจก็เกิดขึ้นในยุคที่พลเอกประวิตรนั้นคุมตำรวจอยู่ โดยเฉพาะมูลนิธิบ้านป่ารอยต่อที่มีความเกี่ยวข้องกับการเมืองในมิติต่างๆ
ดังนั้นทั้งหมดทั้งมวลตนไม่เคยลืม แต่การเป็นฝ่ายค้าน เป็นบทบาทที่พลเอกประวิตรต้องยอมรับว่า เกิดจากพรรคเพื่อไทยเลือกพลเอกประวิตรมาอยู่ตรงนี้
นายรังสิมันต์ กล่าวถึงสส.ที่ต้องมาเป็นพรรคร่วมค้าน ด้วยกันว่า เข้าใจว่าไม่ได้เต็มใจแต่ขอให้ทำหน้าที่ให้ดีที่สุดให้คุ้มค่ากับภาษีของประชาชน
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/BYCs8Zy0T08