เลือกตั้งและการเมือง
‘เพื่อไทย’ ไม่เอา พปชร. ไม่สบายใจพฤติกรรมหัวหน้าพรรค เตรียมเทียบเชิญก๊วน ‘ธรรมนัส-ปชป.’ ร่วมรัฐบาล
โดย petchpawee_k
28 ส.ค. 2567
41 views
เพื่อไทย ไม่เอา พปชร. ร่วมรัฐบาล โยน กก.บห. เคาะ เหตุไม่สบายใจพฤติกรรมหัวหน้าพรรค สรวงศ์ เผยเดินหน้าหาเสียง สส.เพิ่มทันที รับ ปชป.-ไทยสร้างไทย ก็เป็นไปได้ ส่วน ก๊วนธรรมนัส ให้เป็นเอกสิทธิ์ สส. หากสะดวกใจก็มา หากไม่สะดวกใจก็แยกกันเดิน
วานนี้ 27 ส.ค.67 ที่พรรคพลังประชารัฐ(พปชร. ) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วย กรรมการบริหารพรรค กรรมการยุทธศาสตร์พรรค สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) โดย พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ, นายสันติ พร้อมพัฒน์,นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค นายไพบูลย์ นิติตะวัน น.ส. ตรีนุช เทียนทอง รองหัวหน้าพรรค พร้อมด้วย สส. ร่วมรับประทานอาหารกลางวันอย่างเป็นกันเอง และบรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่นของสส. และสมาชิกที่เข้ามาแสดงพลังและความมุ่งมั่น พร้อมทำงานเคียงข้างพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในการทำงานเพื่อประชาชนต่อไป
ทั้งนี้ในการพบปะครั้งนี้ มีฝ่ายบริหาร สส. และสมาชิกของพปชร. ทยอยเดินทางเข้ามากันมาอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน พล.อ.ประวิตร ได้ให้การต้อนรับทุกคนอย่างเป็นกันเอง ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใจใสตลอดเวลา โดยได้มีการพูดคุย และฝากการทำงานให้กับสส.ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสถานการณ์ภัยน้ำท่วมในภาคเหนือที่ต้องติดตาม ภายหลังได้มอบหมาย ให้นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค พล.ต.ท. ปิยะ ต๊ะวิชัย ทีมโฆษกพรรค ลงพื้นที่จ.แพร่ เมื่อเร็วๆนี้ เพื่อมอบถุงยังชีพเพื่อบรรเทาความเดือนร้อนเบื้องต้นให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งสถานการณ์มรสุมที่เข้ามาสู่ประเทศไทยยังมีต่อเนื่อง ทำให้ปริมาณน้ำมีมากกว่าปกติ จึงมีความเป็นห่วง ภัยน้ำท่วมจะเกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ภาคกลาง และกทม.
---------------------------------------
“นายกฯแพทองธาร” รับโผครม.ยังไม่นิ่ง หลัง พปชร.มีปัญหาภายใน ลั่นเก้าอี้ รมต.เลือกเองทั้งหมด ขออดใจอีกนิด ไม่ปฏิเสธมองคนนอก รับส่งชื่อตรวจคุณสมบัติเกินเก้าอี้ บอกมีชื่อ “อัครา” โควตาเพื่อไทยยังไม่ชัด แจงลาออก กก.ทุกบริษัทแล้ว อะไรขัดต่อกฎหมายต้องเคลียร์ให้หมด
วานนี้ (27 ส.ค.67) เวลา 10.25 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าอาคารชินวัตร3 ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มทักทายสื่อมวลชน โดยช่วงแรกนายกรัฐมนตรี ระบุว่า คงจะไม่มีการให้สัมภาษณ์ทุกวัน
ผู้สื่อข่าวถามจึงว่าพรรคพลังประชารัฐมีการส่งหนังสือมาทวงเอกสารกรอกคุณสมบัติให้ตำรวจเอกพัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นางสาวแพทองธาร กล่าวว่าต้องให้เป็นไปตามกระบวนการ และในข้อเท็จจริงแล้วในครม.ไม่ว่าจะตำแหน่งใดก็ตาม ก็เป็นการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ขอให้รอสักหน่อย
เมื่อถามย้ำว่าขั้นตอนเมื่อสะเด็ดน้ำแล้ว นายกรัฐมนตรีจะเป็นคนตัดสินใจเองทั้งหมดใช่หรือไม่นางสาวแพทองธาร กล่าวยอมรับว่า “ใช่ค่ะ และในขณะนี้จะต้องตรวจคุณสมบัติหลายพรรค หลายขั้นตอน และเห็นว่าหลายอันยังติดนั่นติดนี่อยู่ ซึ่งมีหลายขั้นตอน และยอมรับว่าตนเองก็ไม่เคยทำมาก่อน”
เมื่อถามต่อว่าในส่วนของพรรคเพื่อไทยก็มีการส่งรายชื่อบุคคลที่จะเป็นรัฐมนตรีเกินโควตาใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวยอมรับว่า ใช่ มีการส่งรายชื่อเกินจำนวนไปก่อนเพื่อตรวจคุณสมบัติ เมื่อคุณสมบัติผ่านแล้วนายกรัฐมนตรีก็จะเป็นผู้พิจารณาเลือกตำแหน่งรัฐมนตรีเองใช่หรือไม่ นางสาวแพทองธารกล่าวว่า แน่นอน และจะมีการให้คำปรึกษาของคนที่อยู่ในครม.อยู่แล้ว หรือคนที่ทำงานด้วยกันอยู่แล้วในพรรค ก็จะมีการปรึกษากัน แต่สุดท้ายตนจะเป็นคนตัดสินใจเอง
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าจะไม่มีปัญหาน้อยเนื้อต่ำใจกับคนที่ได้และไม่ได้ตำแหน่งใช่หรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า เรื่องตำแหน่งทุกอย่าง ทุกคนก็หวังว่าเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์และเป็นตัวเลือก ณ ปัจจุบัน ดีที่สุดสำหรับประเทศชาติด้วย และหลายคนทั้งที่มีประสบการณ์และไม่มีประสบการณ์ สุดท้ายแล้วก็ต้องแบ่งกัน และช่วยกันทำงาน เราต้องเล็งผลประโยชน์ประเทศชาติเป็นสิ่งสำคัญ ไม่เช่นนั้นก็จะไม่ลงตัว
เมื่อถามว่าจะมีคนนอกมาร่วมคณะรัฐมนตรีหรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า เดี๋ยวรอสักนิด เมื่อถามย้ำว่าแสดงว่ามองคนนอกไว้แล้วใช่หรือไม่นางสาวแพทองธาร กล่าวย้ำพร้อมยิ้มว่า ”เดี๋ยวรอสักนิด”
เมื่อถามว่ามีชื่อของนายอัครา พรหมเผ่า ซึ่งเป็นน้องชายของร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อยู่ในโควตารัฐมนตรีแต่มีรายงานว่าเป็นสัดส่วนของพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ นางสาวแพทองธารกล่าวว่า “อ๋อ อันนี้ยังไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่ในเรื่องของตัวบุคคล เพราะพรรคพลังประชารัฐเอง เขายังมีปัญหาภายในที่ต้องแก้ไขอยู่ด้วย เพราะฉะนั้นขอให้รออีกนิด จริงๆตอนแรกคิดว่าจะนิ่ง แล้วก็มีเหตุการณ์ของแต่ละพรรค ขอรอให้ถึงไฟนอลทีเดียวเลยแล้วกัน อดใจอีกนิดนึง”
เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่กับปัญหาภายในของพรรคที่จะมาร่วมรัฐบาล อาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาลในวันข้างหน้าหากมาแบบครึ่งๆมาไม่เต็ม นายกฯจะพิจารณาอย่างไร นางสาวแพทองธารกล่าว อันนี้แล้วจริงๆ ต้องให้แต่ละพรรคจัดการปัญหาเอง ถ้าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับพรรคเพื่อไทย ทางพรรคเพื่อไทยก็ต้องจัดการปัญหาเอง เพื่อจะต้องสร้างความมั่นคงต่อไปให้ได้ และเป็นรัฐบาลที่มั่นคงให้ได้ อันนี้ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเขา
เมื่อถามว่า หากจะเข้ามาร่วมรัฐบาลจะต้องมาทั้งพรรคเลยใช่หรือไม่เพราะเวลาโหวตในสภาจะได้ไม่มีปัญหา นางสาวแพทองธารกล่าวว่า รอให้ไฟนอลอีกนิดนึง ตอบตอนนี้มันเร็วเกินไป เดี๋ยวไปตอบแทนเขา
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าในส่วนของนโยบายรัฐบาลที่จะแถลงต่อสภาได้ฯ ดำเนินการแล้วหรือยังได้ดำเนินการแล้วหรือยัง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เริ่มเตรียมแล้ว
เมื่อถามถึงความชัดเจนในการลาออกจากกรรมการบริษัท ในเครือชินวัตรจำนวน 21 บริษัท นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่าลาออกไปกี่บริษัท แต่ยืนยันว่าอะไรที่ทำแล้ว และขัดต่อกฎหมายก็ต้องดำเนินการให้หมด ซึ่งขณะนี้ทีมกฎหมายกำลังช่วยกันดำเนินการ แต่จะกี่บริษัทนั้น ไม่แน่ใจ ขอดูกฎหมายเป็นหลัก
------------------
“ภูมิธรรม” ยังไม่ทราบ มีข่าว “พปชร.” ถูกเขี่ยพ้นพรรคร่วม บอกหัวหน้าพรรคร่วมไม่ร่วมโหวต นายกฯ ต้องดูหลายเงื่อนไข ย้ำเป็นอำนาจนายกฯเลือกพรรคร่วมรัฐบาล
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวที่พรรคเพื่อไทยไม่เอาพรรคพลังประชารัฐร่วมรัฐบาล ว่า ขณะนี้ยังไม่มีการพูดคุยกัน ยังไม่ทราบ ตนเพิ่งทราบเดี๋ยวนี้
ส่วนของความชัดเจนของพรรคที่จะได้ร่วมคณะรัฐมนตรี ของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะมีเมื่อไหร่นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า อันนี้ตอบยาก แต่อยากให้เร็ว อยู่ระหว่างการรวบรวมเอกสารส่งให้ทางเลขาครม.ฯ และเลขาคณะกรรมการกฤษฎีกา ช่วยดู แต่ตอนนี้ทุกคนส่งเรียบร้อยหมดแล้ว และยังไม่เห็นรายชื่อว่าเป็นใครบ้าง หากส่งกลับมาก็จะรู้ว่ามีใคร
เมื่อถามย้ำว่าการตัดสินใจเป็นของนายกรัฐมนตรีคนเดียวเลยใช่หรือไม่ ไม่มีใครให้ความเห็นนอกเหนือจากนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นอำนาจของนายกฯ ส่วนนายกฯจะตั้งคณะทำงานเข้ามาช่วยดู ช่วยตรวจสอบ ก็ทำได้ทั้งหมด แต่คนที่ตัดสินใจคนสุดท้ายคือนายกฯ
เมื่อถามว่าคนที่ได้กรอกประวัติเป็นรัฐมนตรีถือว่า ชัดว่าเป็นพรรคร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวย้ำคำเดิมว่า จนกว่าจะเห็นรายชื่อออกมา เพราะตนไม่ทราบว่าใครได้กรอกประวัติบ้าง และตนไม่ได้ดูรายละเอียดตรงนั้น
ส่วนกรณีที่พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ออกมายืนยันว่ายังไม่ได้กรอกประวัติ นายภูมิธรรม ระบุว่า ขอให้ไปถามพล.ต.อ.พัชรวาท ทางเรายังไม่เห็น เพราะก่อนหน้านี้ได้บอกให้พรรคส่งมา แต่ละพรรคก็ส่งมา พร้อมย้ำว่าตนไม่ทราบจริงๆ
เมื่อถามต่อว่า สุดท้ายแล้วจะกลายเป็นว่าพรรคเพื่อไทยเลือกคนจากกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ พรรคนั้นพรรคนี้ มาทำงานร่วมกัน จะทำให้มีปัญหาหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ใช่เป็นการเลือกคนจากกลุ่มนั้น กลุ่มนี้ แต่ที่ประชุมได้เลือกน.ส.แพทองธาร เป็นนายกรัฐมนตรี และนายกฯ มีอำนาจที่จะตั้งครม. จากหลายส่วนได้ ซึ่งหากนายกฯ มองว่าใครเหมาะสม ที่จะมาทำหน้าที่ในการบริหารประเทศและกระทรวงต่างๆ ท่านก็จะตัดสินใจเลือก การยกมือสนับสนุนไม่ใช่ว่าจะมานั่งอยู่ในครม. อย่างพรรคไทยสร้างไทย 6 เสียง ไม่ได้หมายความว่าท่านจะมาร่วมครม. หรือครั้งที่แล้วการจัดรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี พรรคประชาธิปัตย์ ยกมือให้เกือบ 20 คนเขาก็ไม่ได้เข้าร่วมรัฐบาล พร้อมย้ำว่าอยู่ที่ใครเหมาะสม และอยู่ที่นายกรัฐมนตรี
----------------------------------
ขณะที่นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทยให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมส.สพรรคเพื่อไทย ว่า ที่ประชุม สส. มีการพูดถึง ข้อกังวลของ สส.หลายคน ที่มีความไม่สบายใจ ถึงพฤติกรรมของพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งหัวหน้าพรรคร่วม ที่ตั้งแต่จัดตั้งรัฐบาลขอ งนายเศรษฐา ทวีสิน ไม่ได้ให้ความสำคัญและไม่มาร่วมโหวตนายกรัฐมนตรี ประกอบกับหลายสิ่งที่สื่อมวลชนทราบดีว่า มีเรื่องการยื่นถอดถอนนายเศรษฐา ก็ทราบกันดีว่าใครอยู่เบื้องหลัง ซึ่งเป็นสิ่งที่สส.พรรคเพื่อไทย สะท้อนออกมาในที่ประชุม ส่วนการดำเนินการในกิจกรรมนิติบัญญัติ โดยที่ประชุมพรรคมีมติมอบหมายให้กรรมการบริหารพรรค(กก.บห.) รวบรวมเสียงสมาชิกในสภาให้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้ เพื่อสร้างเสถียรภาพรัฐบาล
เมื่อถามว่า การร่วมรัฐบาลจะต้องมาทั้งพรรค ไม่ใช่เลือกบุคคลใดบุคคลหนึ่งใช่หรือไม่ นายสรวงกล่าวว่า ก็มีข้อบังคับของพรรคอยู่แล้ว ซึ่งเราจะไม่ก้าวร่วง แต่ในนามของเลขาธิการพรรค จะรวบรวมเสียงในสภาให้ได้มากที่สุด เมื่อถามย้ำว่า มติที่ประชุมสส.พรรค ไม่เอาพรรคพลังประชารัฐร่วมรัฐบาล และขอมติจาก กก.บห.ใช่หรือไม่นายสรวงศ์กล่าวว่า ใช่คำว่าไม่สบายใจดีกว่า ซึ่งจะต้องนำเรื่องเหล่านี้มาถกกันในที่ประชุม กก.บห.อย่างแน่นอน
เมื่อถามอีกว่าการเดินหน้ารวบรวมเสียง คือการเทียบเชิญพรรคประชาธิปัตย์มาเข้าร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่นายสรวงศ์กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องเป็นพรรคประชาธิปัตย์เพียงอย่างเดียว แต่ในฐานะเป็นเลขาธิการพรรค ต้องหาเสียงในสภาให้มากที่สุด เพื่อเสถียรภาพของรัฐบาล เมื่อถามต่อว่ามีพรรคใดบ้างนอกจากพรรคประชาธิปัตย์ที่จะเทียบเชิญเข้าร่วมรัฐบาลนายสรวงศ์ กล่าวว่า ก็ยังมีพรรคเล็กๆอยู่ ส่วนพรรคที่มี 1 หรือ 2 เสียงก็ยังทำให้รัฐบาลมีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น
เมื่อถามต่อว่าสส.พรรคไทยสร้างไทย 6 เสียงที่โหวตเลือก น.ส แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี มีโอกาสที่จะเข้าร่วมเป็นรัฐบาลหรือไม่นายสรวงศ์ ยอมรับว่าเป็นไปได้ในเมื่อมีความเห็นตรงกัน ที่จะให้นายกฯของพรรคเพื่อไทย เป็นผู้นำของรัฐบาล ก็อาจจะทำงานร่วมกันได้ พร้อมกันยืนยันว่าจะเดินรวบรวมเสียงในสภาทันที
เมื่อถามถึง กลุ่ม สส. ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ซัพพอตพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอดจะพิจารณาอย่างไร นายสรวงศ์ กล่าวว่า สส.แต่ละคนมีเอกสิทธิ และมีเอกภาพในการทำงานที่จะมีความเห็นทางการเมืองในแต่ละคน เราคงจะต้องมีการเชื้อเชิญกัน แต่คนใดสะดวกหรือไม่สะดวกก็เป็นเรื่องของบุคคล พร้อมกับระบุว่าจะติดต่อทาบทามไป หากสะดวกใจจะร่วมงานกันก็มา หากไม่สะดวกใจก็แยกกันเดิน
เมื่อถามต่อว่าหากกลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส สะดวกใจที่จะมาร่วมทำงาน จะมีตำแหน่งหรือโควตาในครม.หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี
เมื่อถามถึงเรื่องของข้อกฎหมายว่าสามารถมอบตำแหน่งให้กับคนนอกหรือพรรคการเมืองอื่นที่ไม่เข้าร่วมรัฐบาลนั้นสามารถทำได้หรือไม่ นายสรวงศ์ ยืนยันว่า ไม่มีข้อห้ามอะไรทั้งสิ้น เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีเพียงผู้เดียวที่จะเสนอชื่อขึ้นทูลเกล้าฯแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีเพราะฉะนั้นเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ไม่มีข้อกำหนด มีแต่เป็นข้อบุคคล ในเรื่องของโควตา แต่ก่อนเป็นพรรคการเมือง ก็เป็นโควตาจองแต่ละพรรค แต่การแต่งตั้ง ครม.ชุดนี้ถือเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี
เมื่อถามว่าการเทียบเชิญพรรคร่วมรัฐบาลจะเป็นทางการหรือการภายใน นายสรวงศ์ กล่าวว่า ต้องเป็นทางการ แต่อาจจะมีการประสานกันภายในก่อน แต่โดยสรุปแล้วเพื่อให้เกรียติกับผู้ที่เทียบเชิญอย่างเป็นทางการ
ส่วนหากมีการเทียบเชิญพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งมีปัญหาการขัดแย้งภายในจะเป็นปัญหาเช่นเดียวกับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ต้องดูเป็นรายบุคคลแต่พยายามให้ประนีประนอมให้มากที่สุดและราบรื่นที่สุด
เมื่อถามว่าถ้ามาเป็นกลุ่มแบบนี้ จะเป็นการส่งเสริมให้เกิดรัฐบาลงูเห่าหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ไม่ใช่งูเห่า เรามองว่าใครที่พร้อม และมีความคิดเห็นตรงกัน มีแนวคิดทางการเมืองตรงกัน ก็มาทำงานด้วยกัน ให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการบริหารจัดการประเทศไปในทางเดียวกันจะดีที่สุด
เมื่อถามว่าการบริหารจัดการในอนาคตจะยากขึ้นหรือไม่ เพราะในแต่ละพรรคการเมืองก็ไม่เป็นเอกภาพ นายสรวงศ์ กล่าวว่า เรื่องนั้นก็เป็นเรื่องของแต่ละพรรคการเมือง ซึ่งเราไม่ไปก้าวล่วง แต่ละพรรคการเมืองมีข้อบังคับแตกต่างกัน มีจริยธรรมที่แตกต่างกัน อย่างพรรคเราก็มี คณะกรรมการพิจารณาจริยธรรม สส. แต่ละคนอยู่แล้ว คนไหนทำผิดก็เอาเข้าที่ประชุม มีมติขับออก แต่ส่วนตัวก็ไม่ขอก้าวล่วงพรรคการเมืองอื่น และตนเองในฐานะกรรมการบริหารพรรคที่เป็นเลขาธิการพรรค ก็จะทำทุกอย่างให้รัฐบาลมีเสถียรภาพมากที่สุด
เมื่อถามว่ามีรายชื่อของนายอัครา พรหมเผ่า เข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี เป็นโควต้าพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องมีการพูดคุยกัน และการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี เมื่อถามว่า ครม.ของพรรคเพื่อไทยสะเด็ดน้ำแล้วหรือยัง นายสรวงศ์ กล่าวว่า "เท่าที่คุยกับนายกรัฐมนตรี ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร"
เมื่อถามว่า รัฐบาลเดิมมี 314 เสียง จะเดินหน้าเทียบเชิญได้อีกกี่เสียง นายสรวงศ์ กล่าวว่า หากนับจากที่โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี 319 เสียง จริงๆถ้ายังอยู่ครบก็ดี แต่เสียงเพิ่มเข้ามาก็ยิ่งดีเข้าไปใหญ่ แต่ยืนยันจะไม่ให้ต่ำกว่า 300 น่าจะมากกว่า หรือได้เท่าเดิมก็มีความสุขแล้ว
เมื่อถามว่าจะมั่นใจได้อย่างไร จะสามารถคุม เสถียรภาพได้ หากมาเป็นกลุ่มเป็นก้อน นายสรวงศ์ กล่าวว่า ต้องมีการพูดคุยกัน ตั้งแต่แรกในเรื่องแนวทางการทำงาน ถ้าไปในแนวทางการทำงานเดียวกันได้ เรายึดคำมั่นสัญญา โดยไม่มีอะไรที่เป็นข้อกฎหมาย ที่จะไปบังคับแต่ละพรรค
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/M0qbhCecgPA