เลือกตั้งและการเมือง

"ชวน" ย้ำไม่เห็นด้วยร่วมรัฐบาล ไม่ขัดถ้าเป็นมติพรรค มองธรรมดาการเมือง ต้องมีอุดมการณ์ ไม่ใช่กับโจรกับพระ

23 ส.ค. 2567

314 views

นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ บอกไม่แปลกใจกับกระแสข่าวพรรคประชาธิปัตย์อาจจะเข้าร่วมรัฐบาล แพทองธาร 1 ว่า ตั้งแต่รัฐบาลเศรษฐา พรรคก็มีมติไม่ร่วมรัฐบาล แต่ให้ใช้วิธีงดออกเสียง ทุกคนเห็นด้วย แต่สำหรับตนขอยกเว้น เพราะตนเป็นคนรณรงค์ ให้ภาคใต้ไม่เลือกพรรคไทยรักไทย เพราะเลือกปฎิบัติให้งบประมาณพัฒนาเฉพาะพื้นที่ที่เลือกเหมือนแกล้งกัน มีผลพรรคไทยรักไทยไม่ได้เลย วันหนึ่งตนจะกลับลำตาลปัตร มาสนับสนุนพรรคที่เราบอกอย่าไปเลือก เหมือนตนทรยศเขา แต่ในการโหวตนายกรัฐมนตรีขณะนั้น พรรคประชาธิปัตย์ก็โหวตสวนมติพรรคเป็นชอบ นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี



ซึ่งทำให้พรรคประชาธิปัตย์แม้จะเป็นฝ่ายค้าน แต่ไม่ค่อยได่ทำหน้าที่ เพราะความเกรงใจรัฐบาล หรือ กลัวเขาจะให้ร่วม หรือกลัวเขาไม่พอใจ ทำให้หลายเรื่องแทนที่จะปฎิบัติตามมติ เช่น ล่าสุด พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมล่าสุด มติพรรคลงว่าไม่รับ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ไม่รับ แต่มี สส.กลุ่มหนึ่ง ประมาณ 10 คนหายไป ก็รู้ว่าไม่อยากลง แต่ถ้าไม่อยากลงก็ต้องไปลงมติพรรค ซึ่งผู้เสนอเองเป็นผู้ฝืนมติพรรค



ส่วนครั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์งดออกเสียงแทน ลงมติไม่เห็นด้วย ทำให้ถูกมองว่าจะได้ร่วมรัฐบาล ขณะพรรคแกนนำก็ไม่ได้ปฎิเสธ มติคือไม่รับ คนเสนอคือคนเดิม คือ พล.ต.ต สุรินทร์ ปาลาเร่ สส.สงขลา บอกเมื่อไม่ได้ร่วมรัฐบาลก็ควรงดออกเสียง ขณะนายบัญญัติบอกน่าจะหารือพรรคร่วมฝ่ายค้านก่อนว่า ควรลงมติให้เหมือนกัน แต่ที่ประชุมไม่ยอมรับ ไม่เห็นด้วย ไม่ควรใช้วิธีงดออกเสียงควรจะชัดเจน แต่ มติที่ประชุมให้งดออกเสียงซึ่งไม่ได้เอกฉันท์



ส่วนถ้าพรรคประชาธิปัตย์ต้องเข้าร่วมรัฐบาลจะทำอย่างไร นายชวนบอก ก็ไม่ทำอย่างไร ตนเป็นคนเคารพมติพรรค แต่มีความเห็นว่าไม่ควรร่วม แต่ถ้าแพ้ก็เป็นเรื่องมติพรรคไป



เมื่อถามว่า ถ้าเป็นมติพรรคแล้วไปร่วม เวลายกมือโหวต จะทำอย่างไร นายชวนบอกไม่มีโหวตแล้ว เพราะเลือกนายกรัฐมนตรีไปแล้ว ส่วนการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็ต้องดูตามข้อเท็จจริง เช่น ถ้าทำงานดี ไม่โกง ก็ควรจะสนับสนุน แต่ชัดเจน ถ้าโกง โดยทั่วไปก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะไม่รับ โดยทั่วไปก็ปฎิบัติกันแบบนั้น



ส่วนนายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ บอกว่า ในพรรคแบ่งเป็น 2 ส่วน อยากให้ร่วมและไม่อยากให้ร่วม พร้อมบอกว่า สส. ในพรรคมีคนที่พูดเก่งอาจทำงานไม่ค่อยเก่ง กับคนที่พูดไม่เก่ง แต่ทำงานเก่ง ถ้าได้เข้าร่สมรัฐบาล จะเป็นโอกาสได้ทำงานเพื่อประชาชน “ตนได้ฟังแล้ว เป็น สส. มานาน ไม่เคยได้ยิน เขาแบ่งแยก สส. ก.พูดเก่ง ประเภท ข.พูดไม่เก่งแต่ทำงานเก่ง ไม่เคยได้ยิน เคยได้ยินแต่โกงมาก โกงน้อย ฟังอยู่ เหมือนกับเป็นการฟอกตัวเอง ในทำนองว่าในสภา ไม่ได้พูดไม่ได้ทำไร เพราะพูดไม่เก่ง แต่ทำงานเก่ง ก็ไม่รู้ว่าทำงานอะไร ไม่รู้เหมือนกัน อะไรคือเก่ง” ในพรรคเท่าที่ดู คนพูดเก่งเขาก็ทำงานดี เช่น นายจุรินทร์



และเมื่อถามว่า หากพรรคประชาธิปัตย์ได้ร่วมรัฐบาล จะฝากอะไรหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ยังไม่มี เพราะยังไม่ได้ผ่านมติพรรค การจะไปร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาล เป็นเรื่องธรรมดาของพรรคการเมือง ทุกคนก็อยากไปร่วม แต่พรรคประชาธิปัตย์ไม่เหมือนพรรคอื่นในบางเรื่อง เช่น อุดมการณ์ในการร่วมกับใคร ไม่ใช่กับโจรก็ได้ กับพระก็ได้ เพราะเรายึดความซื่อสัตย์ สุจริต คิดเรื่องหลักการณ์ และคิดทำให้พรรคใหญ่ ไม่ใช่คิดว่าแค่นี้พอแล้ว มีรัฐมนตรี 2-3 คน แล้วทำให้พรรคใหญ่มันไม่ใช่ การทำงานไม่ได้หมายความว่า เป็นฝ่ายค้านแล้วทำประโยชน์ไม่ได้ไม่ใช่ พร้อมยกตัวอย่าง การทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ต้องยอมรับว่ามาจากฝีมือ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม, สส.นายถาวร เสนเนียม ประชาธิปัตย์ ขณะนั้น



ตรงกันข้ามเป็นรัฐบาล ทำงานตามปกติ แต่โกง ทุจริต ประชาชนก็ไม่ได้ประโยชน์ มันอยู่ที่การประพฤติปฎิบัติอย่างไร อย่าไปเข้าใจผิด ความอยากเป็นรัฐบาลก็ต้องบอกตรงๆ อยากเป็นรัฐบาล เพื่อทำงานอันนี้ไม่แปลก ไม่เสียหายอะไร แต่จะไปบอกว่า เป็นฝ่ายค้านไม่ได้ประโยชน์มันไม่ถูกต้อง อีกทั้งพรรคมีประวัติยาวนาน สำหรับคนที่อยู่มานานกว่าคนอื่น 50-60 กว่าปี อย่างตน มีความผูกพันธ์กับพรรค เพราะมีส่วนร่วมในการสู้ เพื่อให้พรรคอยู่ได้ ในยุคที่ตนเป็นหัวหน้าพรรคได้ที่หนึ่ง ก็ได้เป็นรัฐบาล ได้ที่ 2 ก็เป็นฝ่ายค้าน



เลือกตั้งทุกครั้งได้มาด้วยเสียงบริสุทธิ์ เป็นความภูมิใจ ที่สำคัญ พรรคมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ไม่เคยมีใครมาพูดถึงพรรคว่าเป็นอะไหล่ เป็นพรรคคอยเข้าไปเสียบ ไม่เคยมีใครมาด่า ถึงขอร้องสื่อแยกให้ออกว่า พวกที่จะอยากเสียบเป็นตัวบุคคล พรรคไม่ได้เป็นแบบนั้น พรรคไม่ได้ประกอบด้วย สส. 25 คน หรือ กรรมการบริหารพรรค แต่ประกอบด้วยคนเป็นหมื่นที่เป็นสมาชิก คนได้ยินรู้สึกทั้งนั้น คนที่จะคิดเข้าไปเป็นอะไหล่เขามีจริง แต่ไม่ใช่ทั้งพรรค เพราะคนเหล่านั้นไม่ได้ผูกพันธ์มาจากอดีต เพราะความเชื่อถือเกิดขึ้นได้เพราะทำสิ่งที่ดีงาม เช่น พรรคนี้ไม่โกง ซึ่งก็มีคนเชื่อแบบนั้นอยู่



ส่วนสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน ระหว่างร่วมรัฐบาลหรือไม่ร่วมแบบใดดีกว่ากัน ยืนยันสำหรับตนเห็นว่าไม่ร่วมมาตั้งแต่ต้น เช่นเดียวกับกระแสว่า ถ้าร่วมสมัยหน้าอาจจะสูญพันธ์ ต้องถาม นายจุรินทร์ หัวหน้าพรรค กับนายเฉลิมชัย เลขาธิการพรรคในการเลือกตั้ง ที่ผ่านมาว่า ที่พรรคเป็นแบบนี้เพราะอะไร ตนตอบไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกคนหนึ่ง ตนยังคงเดินช่วยหาเสียงตลอด แต่พรรคไม่มีบทบาทอะไรเลย ศูนย์เลือกตั้งก็ไม่มี เลขาธิการพรรคก็ไม่ลงเลือกตั้ง สถานการณ์มันเปลี่ยน ก็เสียดาย ขณะนายจุรินทร์ ก็เป็นคนเก่ง แต่ได้รับการยอมรับน้อย



โอกาสพรรคประชาธิปัตย์จะสูญพันธ์ ยืนยันไม่สูญพันธ์ มีโอกาสกลับมาฟื้น คนที่ดูแลพรรคทำให้ความน่าเชื่อถือพรรคลดลงได้คะแนนน้อย ขณะนี้มาเป็นหัวหน้าพรรค ดังนั้นย่อมรู้ว่ามันเกิดอะไรผิดพลาด หรือการบริหารบกพร่องตรงไหนนำมาแก้ไข ยอมรับโอกาสที่จะได้ สส. ระบบบัญชีรายชื่อยังมีโอกาส แต่สำหรับเขตไม่สามารถพยากรณ์ได้ เพราะสถานการณ์เปลี่ยนไป ยกตัวอย่าง สมัยก่อนบอกว่าใครมาหาเสียงช่างมัน วันสุดท้ายขอให้นายชวนมาก็จบ เดี๋ยวนี้มันไม่มีคน หรือสส.ไปมองจะเลือกใครเป็นหัวหน้า เลือกคนที่ดูแลเขามา 4 ปี ประชาชนเปลี่ยนเพราะเศรษฐกิจไม่ดี ค่าครองชีพสูงขึ้น ทำให้ภาคใต้ที่บอก ไม่เคยซื้อเสียงก็เปลี่ยนไป

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ