เลือกตั้งและการเมือง

‘ทักษิณ’ ลั่นไม่กังวล ใส่เสื้อเหลืองขึ้นศาลสู้คดี 112 ‘ทนายวิญญัติ’ ยันพิสูจน์แล้ว คลิปต้นเรื่องไม่ใช่ต้นฉบับ

โดย petchpawee_k

20 ส.ค. 2567

44 views

ทักษิณ ไม่กังวลขึ้นศาลตรวจหลักฐานคดี ม.112 ด้าน ทนายวิญญัติ ระบุ ทักษิณพร้อมพิสูจน์ ยันคลิปต้นพิสูจน์แล้วไม่ใช่คลิปต้นฉบับ


เมื่อวานนี้ (19 ส.ค.67)  ศาลอาญานัดตรวจพยานหลักฐานคดีที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา ยื่นฟ้องในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 กรณีนายทักษิณให้สัมภาษณ์กับสื่อของเกาหลีใต้ เมื่อปี 2558 มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน  ซึ่งนายทักษิณ ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว เมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยตีราคาประกัน 500,000 บาท และศาลกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล  และนัดตรวจพยานหลักฐานวานนี้


นายทักษิณ เดินทางมาถึงศาลอาญารัชดา ในเวลา 08.53 น. พร้อมกับทีมทนายความ โดยนายทักษิณ มาในชุดเสื้อเชิ้ตสีเหลือง สวมสูทสีดำคลุมทับ ลงจากรถที่หน้าศาลอาญา แล้วเดินเข้ามาพูดคุยกับสื่อด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมบอกกับนักข่าวว่าไม่มีอะไรต้องกังวล ไม่กังวลเลย เมื่อนักข่าวถามว่า ใส่เสื้อสีเหลืองเป็นการแสดงสัญลักษณ์อะไรหรือไม่  นายทักษิณ ยิ้มแล้วเดินขึ้นศาลไป


ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ศาลนำรั้วเหล็กมากั้นพื้นที่ให้กับสื่อมวลชน โดยให้อยู่บริเวณบันไดทางขึ้นศาลเท่านั้น และขอกำลังเสริมจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 2


จนเวลาประมาณ 11.40 น. นายทักษิณลงมาจากศาล ถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง  จากนั้นผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามบรรยากาศในการนัดตรวจพยานหลักฐานว่าเป็นอย่างไร นายทักษิณกล่าวเพียงสั้นๆ ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า "ก็ไม่มีอะไรนิ" พร้อมโบกมือ ก่อนเดินออกไปขึ้นรถทันที


นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของนายทักษิณ เปิดเผยว่า  วานนี้ มีการสอบคำให้การของจำเลย โดยนายทักษิณให้การปฏิเสธ พร้อมกับนำเสนอพยานหลักฐาน ประกอบไปด้วยพยานบุคคลฝ่ายจำเลยจำนวน 14 ปาก และพยานเอกสารอื่นๆ ซึ่งจะนำเสนอในชั้นพิจารณาคดีต่อไป


ส่วนฝ่ายโจทก์มีพยานทั้งสิ้น 10 ปาก เชื่อว่ามีการสอบสวนไปแล้ว และฝ่ายโจทก์ไม่ได้อ้างพยานเพิ่มเติม เนื่องจากอาจจะเห็นว่าเป็นพยานที่ไม่มีประโยชน์หรืออาจเป็นพยานที่ไม่สามารถพิสูจน์ความผิดของฝั่งจำเลยได้


นอกจากนี้ ยังมีพยานผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจสอบข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ตามคลิปที่ปรากฏในระบบคอมพิวเตอร์ โดยนายวิญญัติยืนยันว่า คลิปที่มีการส่งตรวจตั้งแต่แรก เป็นการรวบรวมจากระบบอินเทอร์เน็ตลงในแผ่นซีดี ไม่ใช่หลักฐานจากสถานที่จริง เจ้าหน้าที่ที่ตรวจสอบคลิปที่เป็นประเด็น ยืนยันว่า คลิปดังกล่าวไม่สามารถตรวจพิสูจน์ได้ถึงความเป็นต้นฉบับ  การตัดต่อและการแปลความเป็นภาษาไทยก็ไม่สมบูรณ์ ในเรื่องนี้มีภาษาอังกฤษเพียงคำเดียวที่เป็นปัญหาและนำไปสู่การกล่าวหานายทักษิณ ซึ่งสอดคล้องกับที่ตนได้เคยแถลงก่อนหน้านี้ว่าหลักฐานของฝ่ายโจทก์เป็นเพียงเพียงการรวบรวมคลิป


สำหรับเรื่องคลิปที่ไม่ได้มาจากต้นฉบับจะนำมาเป็นข้อต่อสู้ของจำเลยได้อย่างไรนั้น ยังไม่สามารถลงรายละเอียดในเวลานี้ได้ หลังจากนี้จะเป็นการพิสูจน์ความจริงต่อศาล ขึ้นอยู่กับศาลจะรับฟังพยานหลักฐานและมีคำวินิจฉัยอย่างไร อย่างไรก็ตามมองว่า เรื่องนี้นายทักษิณถูกกระทำจากระบบการกล่าวหา ซึ่งตนเองมองว่า ระบบการกล่าวหาของประเทศไทยยังมีปัญหา หากมีโอกาสก็ควรมีการแก้ไข


สำหรับการสืบพยานหลังจากนี้มีทั้งหมด  7 นัด โดยฝ่ายโจทก์นัดในวันที่ 1, 2,และ 3 กรกฎาคม 2568 นัดสืบพยานฝ่ายจำเลยจะสืบพยานในวันที่ 15, 16, 22 และ 23 กรกฎาคม 2568 หลังจากนั้นจะจัดทำคำพิพากษาของศาลต่อไป  ซึ่งหลังการนัดสืบพยานในปีหน้านั้น เนื่องจากศาลอาญาเป็นศาลใหญ่ มีคดีจำนวนมาก ต้องนัดสืบพยานไปตามลำดับของคดี ส่วนจะเกี่ยวข้องกับกฎหมายนิรโทษกรรมหรือไม่นั้น ตนเองไม่มีความเห็น


เมื่อถามถึงกรณีที่ฝ่ายจำเลยจะขอยื่นสืบพยานลับหลังหรือไม่  นายวิญญัติกล่าวว่า ได้รับการยืนยันจากนายทักษิณ ว่าพร้อมที่จะมาสืบพยานทุกนัด เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ด้วยตัวเองและพิสูจน์ว่าที่ผ่านมาไม่มีเจตนาที่จะก้าวล่วงสถาบันพระมหากษัตริย์ และพร้อมที่จะได้แสดงความจงรักภักดีเพื่อให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ ซึ่งประชาชนคนไทยก็เห็นได้อยู่แล้ว แต่ทั้งนี้หากศาลอนุญาตให้มีการสืบพยานลับหลัง ท่านอาจจะไม่ได้เดินทางมาด้วยตนเอง


ส่วนนายทักษิณจะมีกำหนดการเดินทางไปต่างประเทศอีกหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่ถึงเวลา และในการต่อสู้คดีนี้ นายทักษิณมีความมั่นใจ ไม่ได้กำชับอะไรเป็นพิเศษ


ส่วนกรณีที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ยื่นให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบเจ้าหน้าที่รัฐของเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลตำรวจ กรณีที่เอื้อประโยชน์ให้นายทักษิณในการรักษาตัวที่ชั้น 14 นั้น นายวิญญัติกล่าวว่า นายทักษิณ ไม่ได้กังวล ซึ่งตนเองขอยืนยันว่า นายทักษิณป่วยจริง และตนก็เป็นทนายเพียงคนเดียวที่ไปเยี่ยมนายทักษิณ และตัวนายทักษิณก็อยู่ชั้น 14 จริง


ผู้สื่อข่าวถามว่า หาก ป.ป.ช. เรียกนายทักษิณ ไปให้ปากคำ เจ้าตัวจะพร้อมเข้าให้ข้อมูลหรือไม่ นายวิญญัติ ระบุว่า อยู่ที่ว่านายทักษิณเกี่ยวอะไร เพราะท่านไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ แต่ก็ขึ้นอยู่กับ ป.ป.ช. จะพิจารณาว่าคดีมีมูลหรือไม่มีมูล และจะไต่สวนนายทักษิณหรือไม่ แต่หากมีการไต่สวนนายทักษิณก็ยินดี เพราะท่านกลับเข้ามาในประเทศ ท่านบอกว่าพร้อมที่จะปฏิบัติตามกติกาของสังคม โดยเฉพาะกฎหมาย ไม่เช่นนั้นนายทักษิณคงไม่เข้าสู่กระบวนการ ส่วนกระบวนการจะเป็นอย่างไรนั้น ก็เป็นเรื่องในหลายๆ ส่วนที่เกี่ยวข้อง


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/8F4vbztSSjQ



คุณอาจสนใจ

Related News