เลือกตั้งและการเมือง
ทูตอังกฤษ-สหรัฐฯ ร่วมยินดี 'แพทองธาร' - สื่อนอกชี้ นายกฯใหม่ต้องเผชิญปัญหาอีกหลายด้าน
โดย nattachat_c
19 ส.ค. 2567
71 views
วานนี้ (18 ส.ค.67) เอกอัครราชทูตประเทศต่างๆ รวมถึงผู้นำนานาชาติ ต่างแสดงความยินกับ 'นางสาวแพทองธาร ชินวัตร' ที่ได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 31
มาร์ค กูดดิ้ง เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย โพสต์แสดงความยินดีกับนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของประเทศไทย ระบุว่า
“ตั้งตารอที่จะทำงานร่วมกันตามแผนความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ เพื่อบรรลุการเติบโต ความมั่นคง และประเด็นสำคัญเร่งด่วนอื่น ๆ ที่ทั้งสองประเทศมีร่วมกัน”
โรเบิร์ต เอฟ. โกเดค เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย โพสต์แสดงความยินดี ระบุว่า
ในนามของสหรัฐอเมริกา ผมขอแสดงความยินดีกับนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ผมตั้งตารอที่จะได้ทำงานกับ น.ส.แพทองธารและรัฐบาลใหม่ เพื่อสานต่อพันธไมตรีและความร่วมมืออันแน่นแฟ้นระหว่าง ไทย - สหรัฐฯ
นายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี ของอินเดีย ทวีตว่า
ขอแสดงความยินดีกับ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร (@ingshin) ที่ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ขออวยพรให้การดำรงตำแหน่งประสบความสำเร็จ หวังว่าจะได้ทำงานร่วมกับคุณเพื่อกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างอินเดียกับไทยที่ตั้งอยู่บนรากฐานอันแข็งแกร่งของอายรธรรม, วัฒนธรรม, และผู้คนที่เชื่อมโยงถึงกัน
อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โพสต์ข้อความว่า
ขอแสดงความยินดีกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ที่ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ซึ่งได้สร้างประวัติศาสตร์นายกรัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุดของประเทศไทย และเป็นผู้หญิงคนที่สองที่ดำรงตำแหน่งนี้
ในฐานะประเทศเพื่อนบ้านใกล้ชิด มาเลเซียและไทยมีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นและยั่งยืน มีความเชื่อมโยงทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และเศรษฐกิจที่ยาวนาน รวมถึงความสัมพันธ์ที่หยั่งรากลึก
การแสวงหาสันติภาพและการพัฒนาร่วมกันในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทยสร้างประโยชน์มหาศาลให้กับชุมชนทั้งสองฝั่งชายแดนของเราและหวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าจะได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับนายกรัฐมนตรีแพทองธาร เพื่อปลดล็อกศักยภาพทั้งหมดของความสัมพันธ์ทวิภาคีของทั้งสองประเทศ
และขอแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจต่ออดีตนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน เพื่อนรักของผม สำหรับความเป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ในการเสริมสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างประเทศของเราทั้งสอง
---------
เพจ สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เผยแพร่บทสัมภาษณ์ของโฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน ที่ตอบคำถามผู้สื่อข่าวในเรื่องนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้รับการเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของไทย
ถาม : วันที่ 16 สิงหาคม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้รับการเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของประเทศไทย ฝ่ายจีนมีความเห็นอย่างไร และมีการคาดหวังต่อความสัมพันธ์จีน-ไทยอย่างไร?
ตอบ: ฝ่ายจีนแสดงความยินดีต่อนางสาวแพทองธาร ชินวัตรที่ได้รับการเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีของไทย และเชื่อว่าประชาชนไทยจะประสบความสำเร็จครั้งใหม่ที่ยิ่งใหญ่ขึ้นบนหนทางการพัฒนาที่สอดคล้องกับสภาพของประเทศตนเอง
จีน-ไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน เป็นเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดและฉันมิตร ปีหน้าจะเป็นปีครบรอบ 50 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนและไทย และการพัฒนาของความสัมพันธ์ทวิภาคีกำลังเผชิญกับโอกาสทางประวัติศาสตร์ใหม่ๆ จีนยินดีที่จะร่วมกับไทยเพื่อสานต่อมิตรภาพ เสริมสร้างการแลกเปลี่ยนเชิงกลยุทธ์ กระชับความร่วมมือเชิงปฏิบัติให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และผลักดันให้การสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันระหว่างจีนและไทยเข้มแข็งและลึกซึ้งยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง
---------
นอกจาก เอกอัครราชทูต และ ผู้นำนานาชาติ ที่ให้ความสนใจกับนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของไทย ยังมีสำนักข่าวหลายสำนักที่ให้ความสนใจ รวมไปถึงการเขียนบทความด้วย
สำนักข่าวรอยเตอร์ส และ แชนแนลนิวส์ บอกว่า นางสาวแพทองธาร สวมใส่ชุดเครื่องแบบสีขาว คุกเข่า และถวายบังคมต่อพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก่อนกล่าวสุนทรพจน์สั้น ๆ หลังรับสนองพระบรมราชโองการ โดยได้มีการขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกคนที่เลือกเธอให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของไทย
ทั้ง 2 สำนักข่าว ยังระบุอีกว่า นางสาวแพทองธาร เป็นนายกรัฐมนตรีที่มีอายุน้อยที่สุดของไทย และจากนี้ไปเธอจะต้องเผชิญกับความท้าทายในหลายด้าน ทั้งปัญหาเศรษฐกิจของประเทศที่ตกต่ำ, ความนิยมของพรรคเพื่อไทยที่ลดน้อยลง และปัญหาโครงการกระเป๋าตังค์ดิจิทัล ซึ่งเป็นนโยบายเรือธงของพรรค มูลค่า 500,000 ล้านบาท
ด้านสำนักข่าวบลูมเบิร์ก ของสหรัฐอเมริกา รายงาน และพาดหัวไปในทำนองเดียวกันกับสำนักข่าวอื่น ๆ ว่า นางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของไทย รับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
บลูมเบิร์ก ยังบอกอีกว่า ลูกสาวคนเล็กของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ได้รับเลือกจากสภาให้ดำรงตำแหน่งสูงสุดนี้ ด้วยการรักษาความเป็นพันธมิตรที่ยากลำบาก ระหว่างพรรคเพื่อไทยที่อยู่ภายใต้การควบคุมของตระกูลชินวัตร กับพรรคการเมืองฝ่ายอนุรักษ์นิยม และได้รับการสนับสนุนจากทหาร ซึ่งรวมตัวกันหลังการเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้ว
-------------
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า
อยากให้รัฐบาลใหม่ มีนโยบายช่วยเหลือเอสเอ็มอี ที่ได้รับผลกระทบโดยเฉพาะขีดความสามารถทางการแข่งขันโดยหลัก ๆ มาจากต้นทุนที่สูงขึ้นในทุกอย่าง ทั้งวัตถุดิบ ราคาพลังงาน ค่าไฟ และน้ำมัน รวมถึงค่าแรงที่กำลังจะปรับขึ้น 400 บาททั่วประเทศ วันที่ 1 ต.ค. 67 นี้ ซึ่งถ้าเป็นไปได้อยากให้ทบทวนเรื่องค่าจ้าง เพื่อไม่ไม่ให้กระทบกับเอกชนมากเกินไป
หวังว่ารัฐบาลจะทำให้ต้นทุนเหล่านี้ต่ำลง และสามารถแข่งขันได้ รวมถึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทั้งในระบบ และนอกระบบที่ยังคงสูงมาก
--------------
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/gpzZmiLujfg