เลือกตั้งและการเมือง

ป.ป.ช.สั่งไต่สวน 44 อดีต สส.ก้าวไกล ปมเสนอแก้ 112 - 'พิธา-ศิริกัญญา' นำทีมเปิดใจ หลังศาลมีมติยุบพรรค

โดย petchpawee_k

9 ส.ค. 2567

28 views

ป.ป.ช. อยู่ระหว่างไต่สวน “44 สส.อดีตก้าวไกล” ปมผิดจริยธรรมเสนอแก้ 112 หลัง “เรืองไกร” ยื่นจี้ ป.ป.ช.เร่งเครื่อง “เลขาฯนิวัติไชย” ย้ำ ใช้คำวินิจฉัยศาล รธน. อย่างเดียว ไม่เป็นธรรมต่อผู้ถูกกล่าวหา บอกขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน 

เมื่อวานนี้ (8 ส.ค.67)  คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยนายเอกวิทย์ วัชชวัลคุ กรรมการ ป.ป.ช. และนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการพิจารณาคดี 44 สส.อดีตพรรคก้าวไกลที่ลงชื่อแก้ไข ม.112


โดยนายนิวัติไชย กล่าวว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติแล้วว่า การตรวจสอบนั้นมีมูลเบื้องต้น มีพยานหลักฐานเบื้องต้นตามแนวทางคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการจึงมีมติสั่งไต่สวนแล้วทั้ง 44 คน ส่วนข้อเท็จจริงอยู่ระหว่างการไต่สวน แต่ยังไม่ได้ให้ผู้ต้องหามาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหามาชี้แจงข้อเท็จจริงเพิ่มเติม


เมื่อถามว่าได้ประเมินหรือไม่ว่าระยะเวลาของการพิจารณาคดีจะยาวนานถึงเมื่อไหร่ นายนิวัติไชย กล่าวว่า ตนคิดว่าไม่น่ายาว พอข้อเท็จจริงปรากฎ น่าจะครบ อยู่ที่การวินิจฉัยเรื่องข้อกฎหมายถึงเจตนา


เมื่อถามว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายความอิสระ ยื่นเป็นหลักฐานแนบมาด้วย ถือเป็นเอกสารสำคัญในการประกอบการพิจารณาหรือไม่ นายนิวัติไชย กล่าวว่า ก็อาจจะเป็นข้อเท็จจริงหรือพฤติกรรม แต่ต้องให้คณะกรรมการไต่สวนไปพิจารณา ตนขอไม่ก้าวล่วง


เมื่อถามถึงกรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ไปยื่นหนังสือขอให้ ป.ป.ช.ไม่จำเป็นต้องไต่สวน เนื่องจากมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญแล้ว นายนิวัติไชย กล่าวว่า เรื่องการให้ความเป็นธรรมอยู่ที่ข้อกฎหมาย เพราะเรื่องนี้ต้องจบที่ชั้นศาล ซึ่งศาลต้องใช้ดุลยพินิจในการพิจารณา ดังนั้น การให้ความเป็นธรรมขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน หากใช้คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญอย่างเดียว ก็อาจไม่เป็นธรรมต่อผู้ถูกกล่าวหา และขณะนี้พยานหลักฐานยังไม่ครบถ้วนตามข้อกฎหมาย

--------------------------

 เปิดใจ 'อดีต กก.บห.- สส. ก้าวไกล' หลัง ศาล รธน.มีมติ ยุบพรรค พร้อมตัดสิทธิ กก.บห. 10 ปี

วานนี้ ( 7 ส.ค.67) ในรายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอ ได้มีการเชิญบรรดา สส.รวมถึง อดีต ส.ส.ของพรรคก้าวไกลมาพูดคุยกันหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พรรคก้าวไกลถูกยุบ


คุณพิธา กล่าว่า  ตนเองก็ยังยืนยันในความบริสุทธิ์  ไม่ได้มีเจตนาหรือว่าการกระทำที่เซาะกล่อนบ่อนทำลาย และไม่ได้กระทำแบบที่มีคำตัดสินออกมา แต่ระบบกฎหมายมันก็ทำให้เรื่องพวกนี้เกิดขึ้นแล้ว ถึงแม้ว่าตนเองจะไม่ได้เป็นนักการเมืองแล้ว เองแต่ตัวเองก็ยังเป็นพลเมือง ที่ยังมีสิทธิเสรีภาพแล้วก็ยังยืนยันได้ว่ามันไม่ได้เป็นสิ่งที่เขากล่าวหา แต่ความจริงแล้วเจตนาที่ทำคือต้องการที่จะเป็นสะพานเชื่อม ให้เดินไปข้างหน้าได้


ส่วนประเด็นที่บอกว่า 10 ปีที่โดนตัดสิทธิ์นั้นนานหรือไม่  ตนเองก็อาจจะเปรียบเหมือนได้เหรียญทองในโอลิมปิกแต่เค้าไม่ให้ขึ้นชูถ้วย แล้วก็ถูกคำสั่งโดนแบนจากการแข่งขัน แล้วต้องจับตาดูปลายปีนี้ซึ่งตนเองก็ยังคาดการณ์ไม่ได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น หลังจากนี้ตนเองก็ต้องเดินหน้าทำงานต่อ ไม่ใช่ว่าไม่ได้เป็นนักการเมืองแล้วจะไม่ได้ทำงานต่อ เพราะว่าหลังจากนี้ ก็ยังมีคดีที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของอดีตพรรคก้าวไกลได้ร่วมลงชื่อเสนอแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 อยู่  ในประเด็นนี้ตนเองก็คงจะไม่ประมาท ถึงแม้ว่าจะคาดการณ์ว่าคงไม่ถึงขั้นในการตัดสินทางการเมือง


ขณะที่ ส.ส.เท้ง ได้พูดว่า ตั้งแต่ตัดสินใจก้าวเท้าเข้าสู่การเมือง เราต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลงทำให้ระบบการเมืองดีขึ้นถึงแม้เค้าจะทุบทำลายเรากี่ครั้งเราก็อยากให้เป็นเรื่องปกติที่มันต้องเกิดขึ้น แต่สิ่งที่เรายักไหล่ เพื่อให้รู้ว่าการเมืองไทยมันเป็นแบบนี้ ดังนั้นคดีที่เกิดขึ้นต่อจากนี้บันดา ส.ส. ที่อยู่ก็ไม่มีใครหวั่นไหวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น


คุณไหม ศิริกัญญา ได้พูดถึงเรื่องของ 44 สส.ที่อาจจะโดนเรื่องจริยธรรมถึงตัดสิทธิตลอดชีวิตว่า เราก็ยังเชื่อมั่นและเราก็ต่อสู้อย่างเต็มที่หลังจากนี้คดีความมันก็จะค่อยค่อยเริ่มคลี่ออกมาทีละจุด ซึ่งคาดว่าก็ยังมีเวลาต่อสู้กันอีกยาวไกล ไม่ว่าผลการตัดสินจะออกมาอย่างไร หรือเป็นการเด็ดยอดไปทีละเล็กทีละน้อย แต่รากของต้นไม้ยังอยู่


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/oe-tcbSJHwk

คุณอาจสนใจ

Related News