เลือกตั้งและการเมือง

‘พิธา’ กลั้นน้ำตาไม่อยู่ ต้องตอบคำถามลูก หลังถูกยุบพรรคก้าวไกล

โดย thichaphat_d

9 ส.ค. 2567

389 views

วานนี้ (8 ส.ค. 67) ทีมแกนนำอดีตพรรคก้าวไกล ประกอบด้วยพิธา ลิ้มเจริญรัตน์, นายชัยธวัช ตุลาธน, น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล, นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุธ, นายพริษฐ์ วัชรสินธุ และนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ให้สัมภาษณ์เปิดใจกับคุณสรยุทธ ในรายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอ ถึงความรู้สึกต่อสิ่งที่เจอ และอนาคตจากนี้ ซึ่งก็เกิดภาพที่บรรดาแกนนำพากันร้องไห้ด้วยความอัดอั้นใจ

มีช่วงที่นายพิธา ได้พูดถึงช่วงของการปราศรัยเมื่อวานแล้วมีจังหวะของการร้องไห้ว่า มันจุก ยิ่งพยายามกั้นมันก็จะจะยิ่งไล่ออกแล้วก็กังวลใจกลัวมันร้องเยอะออกมา ตอนนั้นรู้สึกว่าเราทำเต็มที่ที่สุดแล้วและไม่มีอะไรที่จะต้องเสียใจแต่เสียดายที่สั้นไปหน่อยเรายังมีอะไรที่อยากทำอยู่เยอะ ตอนนั้นก็เห็นประชาชนที่อยู่ข้างล่างร้องไห้กันเราก็กลั้นน้ำตาไม่อยู่

เรื่องราวชีวิตของตัวเองมันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ การต่อสู้ที่ตนเองสู้อยู่คนเดียวที่ไม่มีใครรู้อีกมากมายที่มันอยู่ข้างในและต้องเก็บมันเอาไว้แต่ตนเองก็บริหารจัดการมันอยู่ทุกวัน เพื่อที่จะให้เดินหน้าต่อไปได้ เพราะที่ผ่านมาผมก็ตามรอยคุณธนาธรโดนกล่าวหาว่าหัวรุนแรงมากที่สุด ตัวเองก็ต้องรับช่วงต่อลูกสาวเองก็ยังเล็กอยู่ ตัวเองก็เข้ารับการรักษาพยาบาลด้วยการผ่าคอ ก่อนที่จะมารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคก้าวไกลช่วงแรกๆ ซึ่งหลายคนก็ไม่มั่นใจว่าจะเข้ามาทดแทนคุณธนาธรได้หรือไม่ ตนเองก็ต้องสู้กับความกดดันภายใน และต้องสู้กับคำว่าไม่มีคนเชื่อว่าชนะไม่มีคนเชื่อว่าทำได้ ตนเองก็ไม่เคยถอดใจซึ่งมันเป็นบทเรียนที่ทำให้ตนเองรู้สึกว่าเสียงที่ ได้คุยกับตัวเองมันสำคัญมากกว่าเสียงที่คนอื่นพูดกับตัวเอง ดังนั้นมันก็กลายเป็นบทเรียนที่ ค่อยค่อยสะสมมาเรื่อยเรื่อย

ช่วงที่ยากที่สุด คือต้องเอาเรื่องที่มันไม่ดีออกไป ซึ่งมีการพูดคุยกับเพื่อนสมาชิกเพื่อเป็นการระบายมีการปรับความเข้าใจ ซึ่งทุกคนก็ช่วยกันเพื่อให้หลายหลายเรื่องผ่านมาได้

ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นได้บอกลูกหรือยัง ตอนนี้ยังไม่ได้บอก ตั้งแต่วันที่เดินออกจากรัฐสภาในตอนนั้นศาลรัฐธรรมนูญได้สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่วันนั้นก็ร้องไห้ ตนเองก็ไม่รู้ว่าลูกสาวรู้ได้อย่างไรพอกลับไปถึงที่บ้านเค้าก็ร้องไห้กับพ่อ ส่วนวันที่ไปราชบุรีลูกสาวก็ยังได้มาบอกว่าวันพรุ่งนี้พ่อต้องไปศาลใช่ไหม แต่เค้าคงทราบว่าไปทำไม แต่ว่าวันนี้ยังไม่ได้เจอกับลูกเค้าอยู่กับแม่อยู่ ตอนนี้ตนเองรู้ว่าต้องเคารพสิทธิเด็กไม่อยากให้เขาต้องมาเจอกับอะไรแบบนี้

ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันก็ดี เพราะเป็นการสอนลูกเรื่องการผิดหวังไปในตัว เพราะว่าชีวิตของคนเราก็เป็นแบบนี้มันก็มีทั้งสมหวังและผิดหวัง มีทั้งคนเกลียดแล้วก็มีคนรัก ส่วนเรื่องความผิดหวังถ้าเราไม่เอามันมากัดกร่อนหัวใจเราก็จะได้เข้าใจว่าเค้าก็ไม่ได้เกลียดหรือไม่มาโจมตีพ่ออย่างเดียวเพราะมันเป็นเรื่องของทั้งระบบ เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยมีคนเจอแบบนี้มาก่อน แต่เค้าก็คงเด็กเกินไปที่จะมาเข้าใจเรื่องแบบนี้

ส่วนประเด็นที่ว่าจะบอกลูกเรื่องนี้อย่างไร นายพิธาบอกว่ายังไม่ได้คิดถึงเรื่องที่จะบอก แต่ความเป็นพ่อที่สำคัญที่สุดคือต้องไม่โกหก และต้องให้ความจริงกับลูกในระดับที่ลูกเข้าใจได้ และต้องชวนให้ลูกมองโลกในแง่ดีมากขึ้น ทำนองว่าพ่ออาจจะมีเวลาอยู่กับหนูเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/S_2dUTtJC5w

คุณอาจสนใจ

Related News