“พิธา” ลั่น ผมและก้าวไกล ไม่ห่วงอะไร หากพรรคจะถูกยุบ ก็ขอเป็นพรรคสุดท้าย

3 สิงหาคม 2567 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ร่วมกับ สส.พรรคก้าวไกล ร่วมขึ้นรถแห่ปราศรัยรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง หวุน หรือ นายชัยรัตน์ ศักดิ์อิสระพงศ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.ราชบุรี ในนามพรรคก้าวไกล ในพื้นที่ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี



โดยที่หาดทรายริมน้ำ ถนนคนเดิมโพธาราม นายพิธาขึ้นกล่าวปราศรัย ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนชาว จ.ราชบุรี ที่ให้ความไว้วางใจนายพิธา และเลือกพรรคก้าวไกลกว่า 2.3 แสนเสียง เป็นอันดับหนึ่งสำหรับคะแนนบัญชีรายชื่อในการเลือกตั้งใหญ่ 14 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา



แต่การเลือกตั้งท้องถิ่นไม่เหมือนกับเลือกตั้งระดับประเทศ เพราะเลือกตั้งท้องถิ่นไม่มีเลือกตั้งล่วงหน้าและเลือกตั้งนอกเขต ดังนั้นจึงขอให้พี่น้องใช้เวลาที่เหลือร่วมกันรณรงค์ บอกกับทุกคนว่าให้กลับบ้านมาเลือกตั้งให้มากที่สุด "1 กันยากาเบอร์ 1" ไม่ว่าท่านจะอยู่ทั่วประเทศหรือทั่วโลก โดยตนและผู้สมัครนายก อบจ. ราชบุรี พรรคก้าวไกล จะใช้เวลาหลังจากนี้ไปจนกว่าจะถึงวันที่ 1 กันยายน เพื่อเดินหน้ารณรงค์ ทำให้พี่น้องไว้วางใจพวกเราถล่มทลายเกิน 2.5 แสนเสียง โดยการทำงานของท้องถิ่นก้าวไกลจะเชื่อมกับผู้แทนราษฎร เชื่อมกับพรรคก้าวไกล ดังนั้นพี่น้องที่กาเลือกนายก อบจ. ก้าวไกลคนเดียว ก็ได้พวกเราทุกคนเข้าไปทำงานด้วย นั่นคือจุดแข็งของพวกเรา



โดยในตอนหนึ่งของปราศรัย นายพิธากล่าวถึงสถานการณ์คดียุบพรรคก้าวไกลที่ศาลรัฐธรรมนูญมีนัดอ่านคำวินิจฉัยในวันที่ 7 สิงหาคม 2567 ว่า “พรรคการเมืองคือตัวแทนของประชาชน เราได้รับความไว้วางใจมาใช้อำนาจแทนประชาชน แต่ในประเทศไทยในช่วง 20 ปีที่ผ่านมามีความพยายามทำให้พรรคการเมืองอ่อนแอลง เมื่อพรรคการเมืองอ่อนแอลงก็หมายความว่าอำนาจของประชาชนอ่อนแอลงด้วย และเมื่อมันมีผลกระทบต่ออำนาจของพี่น้องประชาชน นั่นคือผลกระทบต่อระบอบประชาธิปไตยที่พวกเราหวงแหนเป็นอย่างยิ่ง เพราะฉะนั้นอย่ายอมเขา อย่าสิ้นหวัง เก็บความโกรธแค้นเอาไว้ ชนะทั้งทีให้มันถูกต้อง ชนะให้มันขาด เราจะชนะให้เขาปฏิเสธเราไม่ได้อีกต่อไป พรรคการเมืองคือตัวแทนคือตัวแทนอำนาจประชาชน ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกพรรค เป็นผู้แทนราษฎรของพรรค ไม่ว่าจะเป็นอาสาสมัครของพรรค ดังนั้นประเทศแบบไหนที่เขาอยากให้พรรคการเมืองอ่อนแอนั่นก็หมายความว่าเขาอยากให้ประชาชนอ่อนแอ…”



“พี่น้องต้องไม่ยอม แต่ไม่ใช่ไม่ยอมเพื่อพรรคก้าวไกล เพื่อพิธา หรือพรรคการเมือง 33 พรรคที่เคยถูกยุบมาก่อน แต่ต้องไม่ยอมเพราะมันคืออำนาจของพี่น้องประชาชน ไม่ว่าพี่น้องจะเคยเลือกพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน พรรคไทยรักษาชาติหรืออนาคตใหม่ พรรคเหล่านั้นล้วนเป็นตัวแทนประชาชนทั้งสิ้น เขาทำลายพรรคเหล่านั้นก็คือทำลายอำนาจพี่น้องประชาชน…” นายพิธา กล่าว



“ถ้าวันพุธนี้ผมไม่มีโอกาสกลับมาหาพี่น้องในฐานะผู้แทนราษฎรอีกต่อไป ก็ขอให้นายพิธา และพรรคก้าวไกลเป็นคนสุดท้าย ที่เกิดโดยประชาชนแต่ถูกยุบลงไปจากอำนาจอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับพี่น้องประชาชน” นายพิธา กล่าว



โดยนายพิธากล่าวทิ้งท้ายว่า ขอพี่น้องประชาชนไม่ต้องกังวลใจ ตนและพรรคก้าวไกลได้ทำเต็มสุดความสามารถแล้ว ไม่มีอะไรค้างคาใจอีกต่อไป และวันพุธนี้จะขอไปฟังคำวินิจฉัยที่ศาลรัฐธรรมนูญด้วยตนเอง แต่ระหว่างนี้ตนเองและพรรคก้าวไกลจะไม่เสียสมาธิ ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ทุกวันแน่นอน



“1 กันยา เข้าคูหากาเบอร์ 1 จัดหนักจัดเต็ม ทำให้ถึง ทำให้ถล่มทลาย ยิ่งกว่าปี 2566” นายพิธาย้ำ



ทั้งนี้ ตลอดการปราศรัยหาเสียงมีประชาชนมาต้อนรับและติดตามการปราศรัยจำนวนมากพร้อมส่งเสียงเชียร์

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึง ผลของดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศเรื่อง “ดัชนีการเมืองไทยประจำเดือนกรกฎาคม 2567” จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 2,318 คน ทั้งทางออนไลน์และภาคสนาม ระหว่างวันที่ 23-30 ก.ค.67 พบว่า นักการเมือง บทบาทโดดเด่น มากที่สุดคือ นายพิธา ที่คะแนน 58.93% ซึ่งมากกว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี 52.13% นั้นว่า ส่วนตัวยังไม่ได้ดูรายละเอียด ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณทั้งโพลของสวนดุสิต และโพลอีสาน ก็ดีที่ได้สำรวจความเห็นความนิยมของนักการเมืองและถือเป็นกำลังใจในช่วงสำคัญ และจะทำงานอย่างประมาท ไม่หลงตัวเอง เพราะก้าวไกลก็ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องพัฒนาอีกเยอะ และต้องทำงานให้ตอบโจทย์กับพี่น้องประชาชน พร้อมระบุว่า “ผลโพลนั้นมีขึ้นมีลง ไม่ท้อครับ”

นายพิธากล่าวถึงการลงพื้นที่จ.ราชบุรีครั้งนี้ว่า ได้ยกมาทั้ง สส.บัญชีรายชื่อ และแม้บางคนจะไม่ได้อยู่ในเขตราชบุรี แต่ก็ลงมาช่วยกัน และในวันพรุ่งนี้ก็จะมี นายชัยธวัช ตุลาธน รวมถึง สส.ก้าวไก ลอีกหลายคนมาร่วมกันช่วยลงพื้นที่หาเสียงในนี้สำหรับการเลือกตั้ง อบจ.ราชบุรีครั้งนี้ พร้อมเชิญชวนประชาชนออกมาเลือกตั้ง หากออกมาเลือกตั้งกันเยอะก็เชื่อว่าพรรคก้าวไกลนั้นมีโอกาสที่จะชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ พร้อมเชิญชวนประชาชนกลับมาใช้เสียงเลือกตั้งในวันที่ 1 ก.ย.นี้



ส่วนกระแสเรื่องการยุบพรรคก้าวไกล จะมีผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชน ในจ.ราชบุรีหรือไม่นั้น นายพิธา ระบุว่า ส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกัน เพราะครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งท้องถิ่น และต้องตอบโจทย์ชาวราชบุรีให้ได้ เพราะมีในเรื่องของ สิ่งแวดล้อม การศึกษา สาธารณสุข เศรษฐกิจ ที่ต้องแก้ไข แล้ววันนี้มาลงพื้นที่ ที่ตำบลโพธาราม ถือเป็นครั้งแรก ส่วนตัวเข้าใจว่าเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ มีวัฒนธรรมเยอะ เชื้อสายจีนเยอะ และมีกลุ่มชาติติพันธ์อยู่ตำบลโพธาราม จึงมาพร้อมสส.รุ่นใหม่ เพื่อมาเยี่ยมเยียน



เมื่อถามว่า มีความมั่นใจใช่หรือไม่ นายพิธา ยืนยันว่า ครับ เพราะเราไม่ได้เน้นเรื่องกระแส อย่างเดียวแต่ ในเรื่องของนโยบายและบุคลากรด้วย รวมถึงวิธีการทำงานที่ไม่ได้อยู่แค่ในสื่อโซเชียลมีเดียเพียงอย่างเดียว รวมถึงเสาร์-อาทิตย์แม้จะไม่ได้เข้าสภาแต่ก็มีการลงพื้นที่อยู่สม่ำเสมอ เพื่อให้ประชาชนรู้สึกใกล้ชิด เลือกตั้งปี 2566 ที่มีคะแนนเลือกตั้ง เป็นอันดับ1 จากราชบุรีถึง 44% แม้จะไม่มี สส.เขต ในจังหวัดราชบุรี



ส่วนเรื่องกระแสการยุบพรรคนั้น ยังไม่ได้นึกถึงเรื่องนั้น นึกถึงแค่เรื่องของการต่อสู้คดียุบพรรคก้าวไกลเท่านั้น ในเรื่องของกฎหมาย รวมถึงการทำงานให้กับประชาชน รู้สึกได้ว่าถ้าก้าวไปไม่เสียสมาธิในการทำงาน และในวันพุธตนก็จะมีการอภิปรายเรื่องของขนส่งสาธารณะ และการลงที่ราชบุรีครั้งนี้ก็จะดูปัญหา และนำไปอภิปรายในช่วงเช้าของวันพุธด้วยที่สภา



เมื่อถามว่ามีเรื่องของพรรคสำรองหรือยังขณะนี้ นายพิธาระบุว่า "ไม่มีครับ" ส่วนเรื่องงูเห่าภายในพรรคก็ตอบสั้น ๆ ยืนยันว่า "ไม่กังวล แต่ไม่ประมาท"