“ชัยธวัช” แฉพรรคร่วมรัฐบาล ติดต่อซื้องูเห่า ชี้ไม่กำชับ สส. ลั่นต้องให้เกียรติ ปชช.

วันที่ 3 ส.ค. 2567 นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงสวนดุสิตโพลฝ่ายค้านได้คะแนนเพิ่มขึ้นจากเดิม ว่าต้องขอบคุณประชาชน ที่มองเห็นและสนันสนุน การทำงานของพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งด้านหนึ่งมาจากผลการบริหารงานของรัฐบาลที่ประชาชนมองว่าอาจไม่ตอบโจทย์ต่อความต้องการ แต่ฝ่ายค้านถือเป็นกำลังใจที่จะมุ่งมั่นทำงานอย่างเต็มที่ เพราะฝ่ายค้านปัจจุบันไม่ได้มุ่งเน้นทำงานฝ่ายค้านแบบเดิมๆ แต่พยามยามทำงานอย่างสร้างสรรค์ ในการนำเสนอเพราะฝ่ายบริหาร รวมถึงการบริหารราชการแผ่นดินโดยรวมทั้งหมดที่ดีควรจะเป็นอย่างไร เช่นเดียวกันการจัดเวทีผู้นำฝ่ายค้านพบประชาชนในวันนี้ไม่ใช่การวิพากย์วิจารณ์เฉพาะหน้า แต่เป็นสิ่งที่เราทำมาตลอด ถึงเวลาที่ประเทศไทยต้องยกเครื่องระบบการจัดทำงบประมาณ เพื่อประโยชน์ประเทศไม่ใช่รัฐบาลใด รัฐบาลหนึ่ง

ส่วนหากเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง มีรายงานข่าวว่า สส พรรคก้าวไกลกว่า 10 คน จะโหวตให้พรรคพลังประชารัฐ นั้น นายชัยธวัช ระบุว่า เรื่องนี้พูดกันไปได้ แต่มันยังไม่เกิด พร้อมยอมรับว่าที่ผ่านมามีความยายามจากพรรคร่วมรัฐบาล พยายามมาติดต่อ สส.พรรคก้าวไกล เยอะมากเพื่อหวังดึง สส.เหมือนที่เราเรียกกันว่าซื้องูเห่า จนถึงวันนี้ตนยังมีความมั่นใจในตัว สส.ก้าวไกล ว่าจะเคารพความไว้วางใจที่ประชาชนมอบให้ ซึ่งตนมองว่าข่าวที่เกิดขึ้นเป็นการพูดในสิ่งที่ยังไม่เกิด และในวันที่ 7 สิงหาคมนี้ ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยคดียุบพรรคก้าวไกล ตนก็ยังมีความมั่นใจว่าพรรคก้าวไกลจะชนะคดี

นายชัยธวัช กล่าวว่า ไม่ได้มีการกำชับ สส. ให้ผนึกกำลังกัน เพื่อไม่ให้เกิดงูเห่าแต่อย่างใด ตนแค่สื่อสารในพรรคว่า เราต้องให้เกียรติเพื่อนร่วมงานทุกคน อย่าทำให้เกิดบรรยากาศจับผิดว่าใครจะเป็นงูเห่า ใครจะย้ายพรรค เพราะเป็นสิ่งที่ไม่ดี ไม่เคารพให้เกียรติซึ่งกันและกัน พร้อมกันนี้ยืนยัน สส. ในพรรคไม่อ่อนไหว และกำลังใจยังดีต่อสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น ยังเดินหน้าทำงานตามแผนงานและเป้าหมายที่วางไว้ทุกวันปกติ

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ามีคนในพรรคก้าวไกลติดต่อพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล เพื่อเทคโอเวอร์หากพรรคก้าวไกลถูกยุบ นายชัยธวัชกล่าวว่า ไม่มีความชัดเจนว่าใครไปคุย แต่ขณะนี้คนพยายามไปโฟกัสว่าหากคำวินิจฉัย 7 สิงหาคม ไม่เป็นผลดีกับพรรคก้าวไกล โดยกฎหมาย สส.ต้องหาพรรคใหม่สังกัด คนจึงคิดไปล่วงหน้า ว่าแกนนำพรรครุ่นใหม่จะเป็นใคร ตนขอย้ำกับสื่อและประชาชนอีกครั้งว่า ขอให้โฟกัสในเนื้อหาที่จะมีการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญตรงนั้นว่าจะเป็นอย่างไร อยากให้ติดตามเหตุและผล ว่าคำวินิจฉัยสมเหตุสมผลหรือไม่ ซึ่งจะไม่ใช่ส่งผลต่อพรรคก้าวไกลเท่านั้น แต่จะส่งผลต่อการเมืองไทยโดยรวม ซึ่งเรื่องนั้นถือเป็นเรื่องใหญ่กว่าพรรคก้าวไกลถูกยุบด้วยซ้ำ

เมื่อถามย้ำว่าหากพรรคก้าวไกลถูกยุบ แสดงว่าจะกระทบกับภาพรวมของการเมืองไทยใช่หรือไม่ นายชัยธวัช ย้ำว่าคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญไม่ใช่เป็นเรื่องอนาคตของพรรคก้าวไกล แต่จะเกี่ยวกับการบังคับใช้และตีความกฎหมาย รวมถึงการให้ความหมายกับระบอบประชาธิปไตยอันมีพระรมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข เรื่องนี้ใหญ่กว่า ตนคิดว่านัยยะคำวินิจฉัยในวันที่ 7 เป็นเรื่องใหญ่มากจึงไม่อยากให้มองแค่ว่าเป็นเรื่องของพรรคก้าวไกล และยังเชื่อว่าข้อต่อสู้ทางกฎหมายของพรรคศาลจะรับฟัง