เลือกตั้งและการเมือง
"ชัยธวัช" ถล่มอำนาจฉ้อฉล ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งครอบงำระบอบประชาธิปไตย
โดย gamonthip_s
1 ส.ค. 2567
96 views
1 ส.ค. 2567 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 เป็นประธานการประชุม พิจารณาวาระรับทราบรายงานผลการพิจารณาศึกษาเรื่องข้อเสนอในการส่งเสริมสถาบันพรรคการเมืองให้ยึดโยงกับประชาชน ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เป็นประธาน พิจารณาเสร็จแล้ว โดยนายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า รายงานกมธ.ฉบับนี้ไม่ได้ทำขึ้นเพื่อพวกตน ไม่มีผลกระทบต่อชะตาชีวิตพวกตน เป็นเรื่องทุกพรรค และผลประโยชน์ประชาธิปไตยไทย ปัญหาใหญ่คือ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พยายามออกแบบให้ดูดี ควบคุมให้พรรคการเมืองเป็นสถาบันของประชาชน แต่ไม่บรรลุเจตนารมณ์ เพราะออกแบบจากฐานคิดต่อต้านประชาธิปไตยโดยรู้ตัวหรือไม่รู้ตัว ไม่ไว้วางใจนักการเมือง และอำนาจจากการเลือกตั้ง มองพรรคการเมืองเป็นความเลวร้ายของการเมืองไทย ทุกอย่างจึงกลับตาลปัตรไปหมด เจตนารมณ์ที่อยากให้พรรคการเมืองเป็นของประชาชนไม่เกิดขึ้น กลับเป็นของกลุ่มทุนที่หาประโยชน์ พรรคที่มาจากอุดมการณ์ประชาชนจริง ๆ เกิดยากมาก
นายชัยธวัช กล่าวต่อว่า ดังนั้นขอสนับสนุนหลักพรรคเมืองเกิดง่าย ดำรงอยู่ง่าย ยุบยาก ต้องยุบโดยประชาชนเท่านั้น แต่รายงานฉบับนี้ไม่ควรเป็นจุดเริ่มต้นไปสู่การแก้พ.ร.ป.พรรคการเมืองเท่านั้น แต่ควรไปสู่การออกแบบสถาบัน กติกาการเมืองทั้งหมดที่มีปัญหาจากฐานคิดชุดเดียวกันที่พยายามทำให้สังคมไทยเชื่อโดยไม่รู้ตัวว่า ปัญหาการเมืองไทยเกิดจากพรรคการเมือง นักการเมือง อำนาจการเลือกตั้ง แต่ปิดซ่อนเร้นอำนาจฉ้อฉลที่ไม่เคยถูกตรวจสอบจากอำนาจที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง สถานการณ์ปัจจุบันกำลังต่อสู้กับความพยายามสถาปนาระบอบการเมืองที่ทำให้อำนาจที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งอยู่เหนืออำนาจการเลือกตั้ง นี่คือปัญหาใจกลางสำคัญของรัฐธรรมนูญและพ.ร.ป.พรรคการเมือง รวมถึงความคิดปลูกฝังต่อประชาธิปไตยแบบไม่รู้ตัว โดยโยนความผิดให้พรรคการเมือง
นายชัยธวัช กล่าวว่า ส่วนการยุบพรรคนั้น อยากสื่อสารว่าพัฒนาการยุบพรรคน่ากลัวมากยิ่งขึ้น ไม่ใช่แค่การทำลายสถาบันการเมืองของประชาชน แต่ยังเริ่มเห็นอาการยุบพรรคการเมืองที่เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามสถาปนาระบอบอำนาจนิยม หรือเผด็จการแบบไทย ๆ ที่เรียกว่า นิติรัฐแบบไทย ๆ แปลกแยกออกจากออกหลักการพื้นฐานจากระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมากขึ้นทุกวัน เป็นอันตรายที่หลายคนอาจไม่สังเกต แต่ลองไปอ่านดูคำนิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญหลายฉบับที่ผ่านมา เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่หลวงกว่าการคิดแค่จะแก้ไข พ.ร.ป.พรรคการเมือง เพื่อให้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นประชาธิปไตยจริง ๆ เป็นของประชาชน มีความหมายจริง ๆ ไม่ใช่มีอยู่ในตัวอักษรเท่านั้น ถูกตีความและบังคับใช้โดยที่ไม่ประชาชนอยู่ในสมการ
กระทั่งเวลา 17.30 น. หลังจากที่สมาชิกอภิปรายครบถ้วนทุกคนแล้ว นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 กล่าวว่า จากการอภิปราย ทุกคนเห็นไปในแนวทางเดียวกัน จึงไม่จำเป็นต้องลงมติ ขอให้ส่งรายงานไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการต่อไป
แท็กที่เกี่ยวข้อง