เลือกตั้งและการเมือง

ออกหมายจับ "เพนกวิน" หนีฟังคำตัดสินศาลจำคุก 2 ปี คดี ม.112-พ.ร.บ.คอมพ์ โพสต์หมิ่นสถาบัน

โดย paranee_s

31 ก.ค. 2567

226 views

ศาลอาญาพิพากษาจำคุก 3 ปี “เพนกวิน” หรือนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ ในคดีมาตรา 112 แต่คำให้การจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง จึงลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา แต่เพนกวินไม่มาฟังคำพิพากษาจึงให้ออกหมายจับติดตามตัวมารับโทษ


ซึ่งคดีนี้ เพนกวิน แกนนำกลุ่มราษฎร เป็นจำเลยในความผิดฐานดูหมิ่นสถาบัน มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กรณีโพสต์ข้อความและเผยแพร่ภาพอันเป็นการหมิ่นประมาทแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อสถาบันในเฟซบุ๊กส่วนตัวระหว่างวันที่ 28 กรกฎาคม -1 สิงหาคม 2564 ต่อเนื่องกัน แต่เพนกวินให้การปฏิเสธ และได้รับการประกันตัว


ซึ่งคดีนี้ศาลได้นัดอ่านคำพิพากษาครั้งแรกเมื่อวันที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา แต่เพนกวินไม่ได้มาฟังคำพิพากษามีพฤติการณ์หลบหนี ศาลจึงออกหมายจับ และนัดฟังคำพิพากษาอีกครั้งวันนี้ (31ก.ค.67) แต่วันนี้เจ้าตัวก็ยังไม่มา มีเพียงทนายความเดินทางมาศาลจึงอ่านคำพิพากษาลับหลัง


ศาลพิเคราะห์คำเบิกความ และพยานหลักฐานทั้ง 2 ฝ่ายที่นำสืบหักล้างแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงพยานโจทก์ล้วนเบิกความสอดคล้องต้องกัน ไม่มีเหตุเบิกความใส่ร้ายจำเลย ส่วนที่จำเลยอ้างว่า อาจจะมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายอื่นเข้ามาใช้เฟซบุ๊กตนเอง ซึ่งก็ไม่แน่ใจนั้น หากเป็นความจริง จำเลยสามารถลบภาพ และข้อความดังกล่าวได้แต่ไม่กระทำ


นอกจากนี้การโพสต์ภาพข้อความของจำเลยในวันที่ 28 กรกฎาคมชักชวนให้ใส่ชุดดำ ก็เป็นบริบทให้เข้าใจได้ว่า เป็นการไว้ทุกข์ ที่จำเลยอ้างว่า เป็นการกระทำเชิงสัญลักษณ์ เพื่อให้มีการปฏิรูปสถาบันนั้นฟังไม่ขึ้นจึงพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานดูหมิ่นสถาบันฯ และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เป็นความผิดกรรมเดียว ผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานดูหมิ่นสถาบันฯ อันเป็นบทหนักสุด จำคุก 3 ปี แต่คำให้การจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง จึงลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ให้ออกหมายจับจำเลยมารับโทษตามคำพิพากษา ภายในอายุความ 10 ปี


ขณะที่สื่อต่างประเทศ รายงานว่า กลุ่มทนายความสิทธิมนุษยชนเผยว่า นักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งของไทยถูกตัดสินจำคุก 2 ปี ฐานโพสต์ข้อความดูหมิ่นสถาบัน ซึ่งก็คือ “พริษฐ์ ชิวารักษ์” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “เพนกวิน” ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานละเมิดกฎหมายหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ หรือ หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ที่เป็นกฎหมายที่เข้มงวดของไทย ในระหว่างมีการชุมนุม ในปี 2563-2564


และตามรายงานของกลุ่มทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนไทย คาดว่าจะต้องเผชิญกับข้อกล่าวหาหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์อีก 24 กระทง


ซึ่งเพนกวิน เป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญที่นำการชุมนุมซึ่งมีผู้คนหลายหมื่นคนออกมาเดินขบวนบนท้องถนนเพื่อเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน โดยไทยมีกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพที่เข้มงวดที่สุดในโลก บางฉบับคุ้มครองพระมหากษัตริย์และพระราชวงศ์ โดยแต่ละคดีมีโทษจำคุก 15 ปี


นอกจากนี้กลุ่มทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนไทย ยังเผยอีกว่า นักวิจารณ์กล่าวว่ารัฐบาลใช้กฎหมายนี้เพื่อปิดปากผู้เห็นต่าง ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา มีผู้ถูกดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพมากกว่า 270 ราย


และเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม เนติพร เสน่ห์สังคม นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชน ซึ่งถูกคุมขังในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพเช่นกัน เสียชีวิตระหว่างถูกควบคุมตัวระหว่างอดอาหารประท้วง โดยเนติพรถูกคุมขังระหว่างพิจารณาคดีตั้งแต่เดือนมกราคม

คุณอาจสนใจ

Related News