เลือกตั้งและการเมือง

‘เศรษฐา’ สั่งตรวจสอบป้ายโฆษณาขายพาสปอร์ตจีน - ‘วิโรจน์’ ชี้เป็นการ ‘ตบหน้า’ รบ.หากเป็นเรื่องจริง

โดย petchpawee_k

23 ก.ค. 2567

29 views

นายกฯ รุดลงพื้นที่ สน.ห้วยขวาง สั่งตรวจสอบป้ายโฆษณาซื้อขายพาสปอร์ต  ย้ำทุกอย่างต้องถูกต้องตามกฎหมาย หากพบผิดต้องดำเนินการทางกฎหมาย 

วานนี้ วันที่ 22 กรกฎาคม 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ สน.ห้วยขวาง ติดตามสอบถามข้องเท็จถึงกรณีที่พบมีการติดแผ่นป้ายโฆษณาซื้อขายหนังสือเดินทางที่แยกห้วยขวาง โดยพบว่ามีการขึ้นป้ายดังกล่าว เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม เนื้อหาเป็นข้อความเกี่ยวกับการรับจ้างทำหนังสือเดินทาง และรับจ้างดำเนินการแปลงสัญชาติ (สัญชาติที่สอง) ได้ใน 30 วัน โดยมีภาพตัวอย่างหนังสือเดินทางของประเทศอินโดนีเซีย วานูอาตู กัมพูชา และตุรกี ซึ่งล่าสุดได้ดำเนินการรื้อถอนเสร็จแล้ว เมื่อเวลา 10.00 น. ของวานนี้


ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งให้มีการตรวจสอบถึงที่มาที่ไปของการขึ้นป้ายโฆษณาดังกล่าว และหากมีความผิดตามกฎหมายก็ให้ดำเนินการตามกระบวนการ นอกจากนี้ ยังสั่งให้ทางเจ้าหน้าที่เข้มงวดในพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากเขตห้วยขวางมีการเข้ามาลงทุนทำธุรกิจของชาวจีนจำนวนมาก จึงอยากให้มีการเข้มงวดตรวจสอบ ทุกอย่างต้องดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย ขณะเดียวกันก็ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้มงวดเรื่องของยาเสพติด และเรื่องหนี้นอกระบบในพื้นที่ที่รับผิดชอบด้วย

--------------------------

“วิโรจน์” ระบุ หากป้ายชวนซื้อพาสปอร์ตจีนเป็นจริง ถือเป็นการ “ตบหน้า” รัฐบาล ห่วงประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลาง-ที่พักพิง “มาเฟีย-อาชญากรข้ามชาติ” บอกตกใจ ปกติธุรกิจแบบนี้ ทำหลบๆซ่อนๆ แต่เคสนี้ เอาขึ้นจากใต้โต๊ะเลย ลั่น เรื่องใหญ่มาก


นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่โซเชียลแห่แชร์และวิจารณ์ป้ายโฆษณาภาษาจีนชวนซื้อพาสปอร์ตย้ายประเทศ กลางย่านรัชดาว่า เบื้องต้นต้องตรวจสอบก่อนว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แต่หากเป็นไปตามป้าย สามารถติดต่อและทำได้จริง มีความเป็นไปได้สูงที่มีการทำผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าตกใจและกังวลใจมาก เพราะปกติแล้ว ธุรกิจผิดกฎหมายและการทำพาสปอร์ตปลอมมีอยู่แล้ว แต่จะทำแบบหลบๆ ซ่อน ๆ ไม่มีประชาสัมพันธ์โฆษณาแบบเอิกเกริกอย่างนี้ ต้องทำแบบใช้ระบบใต้ดิน ติดต่อคนนั้นคนนี้แล้วพากันไปทำ แต่ครั้งนี้ถึงขั้นขึ้นป้ายเลย ตนคิดว่าเป็นเรื่องใหญ่มาก ถ้าเป็นเรื่องจริง


นายวิโรจน์ ตั้งคำถามว่าทำไมป้ายประชาสัมพันธ์นั้นถึงเป็นภาษาจีน แสดงว่าเขาต้องการสื่อสารกับคนจีน


“ถ้าเป็นความจริงก็ถือเป็นการตบหน้ารัฐบาลไปด้วย เพราะสะท้อนว่าขึ้นป้ายตัวใหญ่ๆ ที่ไม่ใช่ภาษาไทย คนไทยก็คงไม่สนใจหรอก รัฐบาลไทยหรือตำรวจไทยก็คงไม่สนใจหรอก เราต้องยอมรับจริงๆว่าตรงย่านนั้น รัชดา ห้วยขวาง มีชาวจีนอาศัยอยู่เยอะ ดังนั้น เขาต้องการสื่อสารกับคนจีนจริงๆ ที่เข้าใจภาษานั้นจริงๆ แสดงว่าประเทศเรากำลังกลายเป็นศูนย์กลางภัยคุกคามของโลกแล้วสิ” นายวิโรจน์ กล่าว


นายวิโรจน์ ย้ำว่า หากเป็นจริงจะทำให้ภาพลักษณ์ เกียรติภูมิของประเทศเสื่อมเสียไปด้วย แล้วจะทำให้ดึงดูดมาเฟียข้ามชาติ อาชญากรจากต่างประเทศที่เข้ามาหลบพักในไทยก่อนจะไปประเทศอื่น ประเทศเรากำลังกลายเป็นศูนย์กลางของอาชญากรจีนหรือไม่


นายวิโรจน์ ระบุว่า กรณีนี้ถือเป็นการทำผิดในราชอาณาจักรไทย ผิดกฎหมายไทย ต้องดำเนินคดีอาญา ถ้าทั้งหมดเป็นเรื่องจริง ก็สามารถที่จะสืบเสาะและขยายผลได้อยู่แล้ว


เมื่อถามว่าเบื้องหลังยังมีอีกเยอะหรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า คงมีอีกเยอะ ต้องยอมรับอย่างหนึ่ง เรื่องนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับรัฐบาลจีนด้วย เพราะมาเฟียจีน อาจชญากรจีนจำนวนมาก มีหมายจับที่ประเทศจีนแล้วหลบหนีออกมา โดยมีเป้าหมายคือประเทศไทย


“ตามที่เขาร่ำลือกันจนลงหลักปักฐานแล้ว มีเครือข่าย มีฮับ มีศูนย์ประสานงานของเครือข่ายอาชญากรจีนในประเทศไทยว่าหลบมาพักก่อน แล้วเดี๋ยวจะมีทีมงานคอยประสานงานที่จะให้หนีไปยังประเทศนั้น ออกไปยังประเทศนี้ได้ ตอนนี้มันกลายเป็นเครือข่ายแล้วนะ มาเฟียจีนสีเทา ต่อให้คุณมีเงินหนีคดีมาจากประเทศจีน ที่นี่จะเป็นแหล่งพักพิง ที่นี่สามารถติดสินบนได้ ที่นี่สามารถยัดใต้โต๊ะได้ ที่นี่สามารถซื้อข้าราชการบางคนได้ มันกลายเป็นศูนย์รวมของการกระทำความผิดกฎหมายไปแล้วสิ” นายวิโรจน์ กล่าว


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/OQqNXcMMzEA


คุณอาจสนใจ

Related News